10 ส.ค. 2020 เวลา 02:07 • สุขภาพ
ตาบอดจากเบาหวานก็เพราะไม่รู้ 3 สิ่งนี้!
ในฐานะที่ผมเป็นหมอจอประสาทตา ผมเลยอยากมอบบทความนี้ให้กับคนที่เป็นเบาหวานโดยเฉพาะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนครับว่าหมอจอประสาทตากับคนไข้เบาหวานนั้นเกิดมาคู่กัน ทำไมน่ะเหรอครับ? เพราะเรารักกันมากไง เรื่องมีอยู่ว่า...คนไข้เบาหวานที่ถูกส่งตัวมาเจอหมอจอประสาทตาอย่างผม ส่วนใหญ่แล้วการมองเห็นก็มักจะแย่ทุกที เพราะเบาหวานกินลูกตาไปเยอะ มีหลายคนที่กว่าจะรักษาให้กลับมามองเห็นได้ปกติก็ต้องรักษากันหลายยก ทั้งฉีดยาเข้าตาเอย ทั้งผ่าตัดเอย เรียกว่าต้องลุ้นกันตัวโก่งทั้งหมอและคนไข้
อันที่จริงแล้วเพียงแค่คนที่เป็นเบาหวานรู้ในสิ่งที่ถูกต้องตามที่ผมจะบอกต่อไปนี้ก็สามารถหลีกเลี่ยงตาบอดได้ง่าย ๆ
1. มองเห็นดี = ไม่เป็นอะไร
 
ถ้าคุณป่วยเป็นโรคเบาหวานแล้วมีคนมาบอกว่า “คุณยังมองเห็นชัดเจนแสดงว่าไม่เป็นอะไร” ผมแนะนำเลยว่า “อย่าเชื่อเด็ดขาด” เพราะนั่นเป็นความเข้าใจที่ผิดเอามาก ๆ เราคงต้องทำความเข้าใจกันใหม่ให้ถูกต้องนะครับ เบาหวานขึ้นตานั้นเป็นโรคที่เกิดด้านหลังของลูกตา หรือถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็คือมันเกิดข้างในเบ้าตา เราไม่สามารถส่องกระจกหรือให้คนอื่นมองตาเราแล้วมองเห็นความผิดปกติในตาได้ครับ และแย่ที่สุดคือตัวโรคมักจะลุกลามเข้าสู่ระยะท้าย ๆ แล้วถึงจะเกิดอาการตามัวมองไม่ชัด และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งว่าทำไมหมอเบาหวานที่ดูแลคุณถึงต้องเน้นย้ำเสมอว่าให้ตรวจตาเป็นประจำ แต่หลายคนก็เบี้ยวไม่ยอมมาตรวจตาตามนัด ซึ่งผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไม
2. ฉันคุมเบาหวานดี เบาหวานจะขึ้นตาได้ไง
 
นี้ก็เป็นอีกข้อที่เข้าใจผิดกันมาตลอด และเข้าใจผิดกันเยอะด้วย แน่นอนครับว่าถ้าคุณควบคุมเบาหวานได้ดี ผลแทรกซ้อนจากเบาหวานที่เกิดกับร่างกายก็จะน้อยไปด้วย แต่เดี๋ยวก่อน! ในกรณีนี้มันไม่ตรงไปตรงมาเหมือนหนึ่งบวกหนึ่งแล้วเท่ากับสองนะครับ เพราะผมเจอคนไข้เบาหวานหลายคนที่คุมน้ำตาลตัวเองอย่างดี แต่ทว่าเบาหวานก็ยังขึ้นตาอยู่ดี และบางคนชะล่าใจปล่อยให้ลุกลามเบาหวานกินตาไปเรื่อย ๆ เพราะคิดว่าตัวเองคุมน้ำตาลดีแล้ว
ดังนั้นไม่ว่าคุณจะคุมเบาหวานได้ดีแค่ไหน คุณก็ต้องไปตรวจเบาหวานขึ้นตา อย่างน้อยแค่ปีละครั้งมันคงไม่หนักหนาอะไร ทำเถอะครับ เพื่อตัวคุณเอง
3. พอบอกให้เริ่มรักษา วิ่งหนีหมอหายไปเลย
 
อ่านแล้วอย่าเพิ่งหัวเราะครับ นี่คือเหตุการณ์จริงที่ผมเจอประจำ พอถึงบทที่ต้องเริ่มรักษาเบาหวานขึ้นตา ซึ่งก็ไม่พ้นเรื่องของการฉีดยาเข้าตา เลเซอร์ตา หรือการผ่าตัดตา แต่พอบอกเสร็จก็หนีหายไปเลย พอเจอหน้ากันอีกทีต้องร้อง โอ้โฮ! อีกนิดก็บอดแล้ว
ผมก็เข้าใจความรู้สึกของคนไข้ทุกคนน่ะครับว่าการรักษาที่เกี่ยวกับดวงตามันน่ากลัว คนไข้มักจะจินตนาการถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นระหว่างรักษาไปต่าง ๆ นา ๆ กลัวเจ็บ กลัวอาการแทรกซ้อน กลัวผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามต้องการ สุดท้ายเลยตัดสินใจไม่ได้ว่าจะรักษาหรือไม่รักษาดี ซึ่งจินตนาการเหล่านี้ของคนไข้ทำให้ผมมักจะได้รักษาในระยะของโรคที่ย่ำแย่มากแล้วเสมอ ซึ่งอันที่จริงแล้วคนไข้ควรจะเริ่มรักษาตั้งแต่การมองเห็นยังดีอยู่
ทำไมต้องรักษาทั้งที่ยังมองเห็นปรกติดีน่ะเหรอ ผมขอตอบแบบง่าย ๆ คือ “กันไว้ดีกว่าแก้ ถ้ารอแย่แล้วมาแก้คงไม่ทัน” แค่นี้แหละครับ เพราะถ้าเบาหวานขึ้นตาจนสูญเสียการมองเห็นแล้วก็มักจะเสียไปเลย กู้กลับมายาก เราจึงต้องเริ่มรักษาตั้งแต่การมองเห็นยังดีเพื่อเก็บรักษาการมองเห็นที่ดีนั้นไว้ อีกอย่างผลข้างเคียงจากการรักษาก็ค่อนข้างต่ำมาก ถึงแม้ผลการรักษาอาจจะดี หรืออาจจะกลาง ๆ ซึ่งขึ้นกับการตอบสนองของร่างกายและระยะของโรคในแต่ละคน แต่ถ้าคุณไม่รักษา รับรองว่าตาคุณไม่ดีแน่ ๆ และแย่จนถึงขั้นตาบอดครับ
กรุณาแชร์ข้อมูลนี้ให้กับคนที่เป็นเบาหวานด้วยครับ จะได้ไม่เสี่ยงตาบอดแบบไม่สมควรกันอีกต่อไป

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา