Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คลังความรู้ by SpokeDark
•
ติดตาม
16 ก.ค. 2020 เวลา 11:00 • ประวัติศาสตร์
ตำนานโคตรมาเฟีย! ชีวิตในมุมมืดของ 'ปาโบล เอสโกบาร์' ราชายาเสพติดแห่งโคลอมเบีย ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
WIKIPEDIA PD
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
ปาโปล เอสโกบาร์ ราชายาเสพติดชาวโคลอมเบีย กอดฟาเธอร์แห่งโคลอมเบีย พระเจ้าซาร์แห่งโคเคน นักบุญแห่งเมเดยิน หรือฉายาอื่นๆ จากตำนานชีวิตของชายผู้นี้ ชีวิตของปาโปล เอสโกบาร์ยังมีเรื่องราวที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
1. ปาโปล เอสโกบาร์เกิดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 1949 ที่เมืองริโอเนโกร ประเทศโคลอมเบีย ในครอบครัวที่มีฐานะยากจน ก่อนจะมาเป็นราชายาเสพติดที่เป็นตำนาน เขาเคยทำธุรกิจที่ผิดกฎหมายมาก่อนนั่นก็คือการขโมยป้ายหลุมศพในสุสานท้องถิ่น ขูดชื่อที่หน้าป้ายออกแล้วนำไปขายให้กับผู้ค้าของเถื่อนชาวปานามา และเริ่มเข้าสู่เส้นทางอาชญากรรมด้วยการเป็นโจรและบอดี้การ์ด จากนั้นจึงผันตัวไปทำธุรกิจยาเสพติด
1
2. แม้การขึ้นมาเป็นหนึ่งในโลกของยาเสพติดนั้นจะต้องกำจัดคู่แข่งและผู้ที่ขวางทางหลายต่อหลายคน แต่เอสโกบาร์นั้นแทบจะไม่ให้เลือดเปื้อนมือของตัวเองเลย เขาใช้การจ้างมือสังหารแทบจะทั้งสิ้น ยอดมือสังหารของเขามีนามว่า จอห์น (John Jairo Velasquez) หรือฉายาป๊อปอาย มือสังหารรายนี้เคยสังหารชายผู้ที่เชื่อกันว่าจะก้าวมาเป็นประธานาธิบดีและทลายวงการค้ายา ลูอิส คาร์ลอส กาลัง (Luis Carlos Galan) ในปี ค.ศ. 1989 ภายหลังป๊อปอายได้มีการสารภาพว่าเขาสังหารคนไปกว่า 300 คน และจ้างวานคนอื่นอีกร่วม 3,000 ครั้ง
3
3. ในช่วงระยะเวลาที่เอสโกบาร์มีอำนาจเขาก่ออาชญากรรมมากมายนับไม่ถ้วนแต่ในขณะเดียวกันเขาก็สร้างสาธารณูปโภคให้แก่ชุมชน สร้างโรงเรียน สนามกีฬา บริจาคเงินให้กับการสาธารณสุขมากมายจนได้หลายคนนับถือเขาดั่งนักบุญ สิ่งก่อสร้างอย่างบ้านหรืออาคารต่างๆ ยังถูกใช้งานมาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งหมดนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในการปูทางของเขาไปสู่ความฝันในการเป็นประธานาธิบดีของโคลอมเบีย
1
WIKIPEDIA PD
4. ปาโบล เอสโกบาร์เปลี่ยนเมืองเมเดยินให้กลายเป็นเมืองหลวงแห่งการฆาตกรรม มีรายงานว่าในปี ค.ศ. 1989 เมืองเมเดยินคือเมืองที่มีการฆาตกรรมสูงที่สุดในโคลอมเบียโดยในปีนั้นมีรายงานเหตุฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมกว่า 2,600 ราย เมืองเมเดยินนี้มีประชากรอยู่อาศัยราวสองล้านคน
ชาร์ลส์ แอนโธนี่ กิลเลสพาย (Charles Anthony Gillespie) อดีตทูตสหรัฐประจำโคลอมเบียในช่วงปี ค.ศ. 1985-1988กล่าวว่าเมืองเมเดยินอนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของอาณาจักรค้ายาและการฆาตกรรมรายวันนั้นอยู่เกินการควบคุม
5. ในปี ค.ศ. 1989 ผู้โดยสาร 101 คน และลูกเรือหกคนถูกฆาตกรรมจากเหตุระเบิดเที่ยวบิน 203 ของสายการบินเอวิอานก้า โดยเหตุการณ์สังหารหมู่ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในทศวรรษของประเทศโคลอมเบีย โดยเอสโกบาร์มุ่งหวังจะสังหารผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ซีซาร์ อุกัสโต กาวิเรีย ทรูจิลโล(César Augusto Gaviria Trujillo) แต่โชคดีที่ซีซาร์มิได้อยู่ในเครื่องบินลำนี้และภายหลังเขาได้เป็นประธานาธิบดี
เหตุการณ์ระเบิดเครื่องบินครั้งนี้ทำให้มีพลเมืองชาวอเมริกันเสียชีวิตสองคน อันเป็นสาเหตุผลให้ประธานาธิบดีจอร์จ บุชอนุมัติปฏิบัติการไล่ล่าเอสโกบาร์เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับพลเมืองที่เสียชีวิต
6. ไม่เพียงแค่ผู้ใหญ่ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดและอาชญากรรมที่เอสโกบาร์ก่อขึ้น ยังมีเด็กที่เสียชีวิตอีกด้วย ในปี ค.ศ. 1993 เหตุระเบิดสังหารผู้คนไปกว่า 20 คน ทำให้มีเด็กสี่คนและผู้ใหญ่กว่า 70 คนได้รับบาดเจ็บ ที่ห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่ในทางเหนือของกรุงโบโกตา ระเบิดถูกวางไว้ในรถตู้ที่จอดหน้าร้านหนังสือที่มีเด็กๆ มาซื้อสินค้าสำหรับใช้ในโรงเรียน
โดยขณะนั้นเอสโกบาร์กำลังหลบหนีการตามล่าจากเจ้าหน้าที่และได้ข่มขู่รัฐบาลโคลอมเบียว่าเขาจะสร้างความหวาดกลัวให้กับคนหมู่มาก
WIKIPEDIA PD
7. ก่อนที่ปาโบล เอสโกบาร์จะเริ่มธุรกิจค้ายาเสพติด ในปี ค.ศ. 1976 เขาแต่งงานกับมาเรีย วิคตอเรีย เฮนาโอะ(Maria Victoria Henao) ในขณะที่เขามีอายุ 26 ปีและเธอนั้นมีอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น โดยเขาพัวพันกับเด็กสาวที่มีฐานะยากจนและอายุยังน้อย ครั้งหนึ่งหลังหลังจากปาร์ตี้มั่วสุมกันตำรวจพบศพของเด็กสาวกว่า 24 คนที่มีอายุต่ำกว่า 19 ปี และเมื่อเขาต้องติดคุกที่เขาสร้างขึ้นเองในปี ค.ศ. 1991 ก็มีการนำสาวๆ วัยรุ่นไปบริการทางเพศถึงด้านในคุกนั้นอีกด้วย
8. ชีวิตสมาชิกของครอบครัวเอสโกบาร์ต้องพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือหลังการเสียชีวิตของเขา ครอบครัวถูกเนรเทศไปอยู่อาร์เจนตินา ภรรยาและลูกๆ ต้องเปลี่ยนชื่อเพื่อหนีอดีตและความเป็นส่วนตัว
ภรรยาของเอสโกบาร์และลูกชายเคยถูกจำคุกถึง 15 เดือนในข้อหาฟอกเงินและภายหลังถูกปล่อยตัวเนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ
9. เอสโกบาร์เป็นชายที่น่ากลัว แม้ว่าคุณจะเป็นนักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูง ผู้พิพากษาก็มิอาจรอดพ้นอำนาจมือของเขาไปได้ เอสโกบาร์มีคติประจำใจว่า “Plata o plomo,” หมายถึง เงินหรือลูกปืน ซึ่งแปลว่าหากใครปฏิเสธเขาก็หมายถึงความตายนั่นเอง
WIKIPEDIA CC DANIEL DI PALM
10. แม้แต่โรแบร์โต เอสโกบาร์ (Roberto de Jesús Escobar Gaviria) น้องชายของปาโบลเป็นอดีตนักบัญชีและผู้ร่วมก่อตั้งแกงค์เมเดยินก็ยังหักหลังปาโบล เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมปฏิบัติการจับกุมปาโปล เอสโกบาร์ ซึ่งลูกชายของปาโบลได้เขียนถึงโรแบร์โตไว้ในหนังสืออย่างผิดหวังถึงข้อมูลที่โรแบร์โตแจ้งกับหน่วยปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐอเมริกาและการพยายามล่อลวงปาโบลให้ถูกจับได้
เมื่อปาโบลถูกสังหารมีผู้เข้าร่วมขบวนศพเขากว่า 25,000 คน หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่าชาวบ้านนั้นคร่ำครวญและเศร้าเสียใจถึงการจากไปของปาโบลดั่งการสูญเสียของนักบุญ ศพของเขาถูกฝังอยู่ที่สุสานมใน Itagüí ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในหลุมฝังศพที่มีผู้คนมาเยี่ยมชมมากที่สุดในอเมริกาใต้
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
10 บันทึก
24
2
4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
บุคคลในประวัติศาสตร์โลก
10
24
2
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย