17 ก.ค. 2020 เวลา 03:00 • ประวัติศาสตร์
วีรชนที่ถูกลืม! วีรกรรมของเหล่าวีรบุรุษในโศกนาฏกรรมไททานิก ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก
1
WIKIPEDIA PD
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
วันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1912 เป็นวันที่ไททานิกเดินเรือจากเซาแธมป์ตันโดยมีจุดมุ่งหมายคือนิวยอร์ก ณ ขณะนั้นเรือไททานิกเป็นเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก น่าเศร้าที่มันไม่เคยไปถึงจุดหมาย เรือไททานิกชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งเมื่อเวลา 23.40 น. ของวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1912 และได้จมลงในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือส่งผลให้ลูกเรือและผู้โดยสารเสียชีวิตกว่า 1,500 คนและมีผู้รอดชีวิตเพียง 750 ในท่ามกลางโศกนาฏกรรมครั้งนี้ยังมีเรื่องราวของฮีโร่ผู้ช่วยชีวิตที่ไม่ค่อยมีใครได้พูดถึงนักอยู่
1. ในภาพยนตร์ไททานิกจะมีตัวละครเชฟขี้เมาที่เราอาจไม่ได้สังเกต เชฟขี้เมาคนนี้มีนามว่า ชาร์ลส์ โจอิน(Charles Joughin) ในช่วงเวลาแห่งชีวิตเขาได้ช่วยชีวิตผู้คนด้วยการโยนผู้โดยสารไปยังเรือชูชีพ โยนเก้าอี้อาบแดดไปกลางทะเลเพื่อที่คนอื่นจะได้สามารถเกาะเก้าอี้แล้วลอยตัวอยู่ได้ และเมื่อผู้การเรือสั่งให้เขาขึ้นเรือชูชีพหมายเลข 10 เขากระโดดออกมาในนาทีสุดท้ายแล้วกลับไปอยู่ยังเรือไททานิกเพราะเขาคิดว่าการที่ทิ้งเรือมานั้นเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ตะเกียกตะกายกลับมาที่เรือกู้ภัย เขาอาจจะไม่สามารถมีชีวิตรอดได้ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนที่ชอบดื่ม ปริมาณวิสกี้จำนวนมากที่เขาดื่มเข้าไปทำให้เขารอดชีวิตจากการแช่น้ำที่เย็นจัดเป็นเวลานานๆ ได้ หลังจากเหตุการณ์เรือล่มเขาได้กลับไปอยู่ที่เมืองลิเวอร์พูลก่อนจะเสียชีวิตในเวลา 44 ปีต่อมา
1
WIKIPEDIA PD
2. เบน กุกเกนไฮม์ (Ben Guggenheim) แต่งตัวเต็มยศนั่งจิบบรั่นดีที่เก้าอี้อาบแดด สูบซิการ์และรอคอยวาระสุดท้ายของตนมาถึงโดยมีคำพูดทิ้งท้ายเอาไว้ว่า “ไม่ควรมีผู้หญิงคนไหนที่จะต้องถูกทิ้งไว้บนเรือลำนี้ เบน กุกเกนเฮมนั้นเป็นคนขี้ขลาด” ซึ่งเขามิใช่คนที่ขี้ขลาดเลยแต่ด้วยฐานะที่ร่ำรวยนั้นทำให้เขาได้สิทธิพิเศษที่จะขึ้นเรือชูชีพไปก่อนใครแถมยังสามารถติดสินบนลูกเรือได้ด้วยซ้ำแต่เขากลับให้ที่นั่งในเรือชูชีพนั้นแก่ผู้อื่นที่เขาเห็นว่าสมควรจะได้รับ เขาจึงเป็นอีกหนึ่งฮีโร่ที่แท้จริงในเหตุการณ์นี้
1
WIKIPEDIA PD
3. มอลลี บราวน์ (Molly Brown) หรือฉายา “มอลลีที่ไม่มีวันจม” ช่วยชีวิตผู้โดยสารไว้ได้หลายคนจากการที่ขึ้นเรือชูชีพและพายเรือกลับมารับผู้โดยสารคนอื่นๆ อีก โดยหลังจากเหตุการณ์เรือไททานิกล่ม เธอได้กลายเป็นหนึ่งในนักกิจกรรมที่รณรงค์เพื่อสิทธิสตรีและสิทธิแรงงานอีกด้วย
1
WIKIPEDIA PD
4. เฟรเดอริก ฟลีท (Frederick Fleet) ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าเรือ เขาเป็นหนึ่งในสองคนแรกที่เห็นน้ำแข็งและตะโกนแจ้งพนักงานเรือว่า “ภูเขาน้ำแข็งอยู่ตรงหน้าแล้ว” ภายหลังจากที่เรือชนกับภูเขาน้ำแข็ง เขาได้ช่วยชีวิตผู้คนด้วยการนำผู้โดยสารขึ้นเรือชูชีพไปยังที่ปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเหมือนฮีโร่คนอื่นๆ
เฟรเดอริกถูกสอบสวนในเรื่องที่ว่ามันมีโอกาสที่จะไม่เกิดเหตุการณ์เรือชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งหรือไม่ถ้าหากว่าเขาสามารถเตือนลูกเรือได้เร็วกว่านี้ แต่เฟรเดอริกยืนยันว่าเขาคงจะทำได้ถ้าหากว่ามีกล้องส่องทางไกล เรื่องนี้ทำให้เขาทุกข์ระทมจนฆ่าตัวตายในปี ค.ศ. 1965
1
WIKIPEDIA PD
5. แฮโรลด์ ไบรด์ (Harold Bride) เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่วิทยุสื่อสารที่ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยังเรือที่ใกล้เคียงจนได้เรือ RMS Carpathia มาช่วยชีวิตผู้คนจากเรือไททานิก
1
เมื่อเรือไททานิกจม แฮโรลด์ต้องเกาะเรือชูชีพรอความช่วยเหลืออยู่ในนี้ที่เย็นจัดและเมื่อได้รับความช่วยเหลือให้ขึ้นมายังเรือ RMS Carpathia เขาก็มิได้หยุดพักแต่ได้กลับไปช่วยเจ้าหน้าที่วิทยุสื่อสารทำงานต่อ
และเพื่อนร่วมงานของเขา จอห์น แจ็ค ฟิลลิปส์(John “Jack” Phillips) ปฏิเสธที่จะทิ้งเรือไททานิก จอห์นพยายามจะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยังเรือที่อยู่ใกล้ๆ จนวินาทีสุดท้ายแม้ว่าน้ำจะเข้าท่วมห้องบังคับการเรือแล้วก็ตาม
1
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
WIKIPEDIA PD

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา