“แบทแมน (Batman) อัศวินแห่งรัตติกาล” ตอนที่ 5 (ตอนจบ)
ความรุ่งเรืองของแบทแมนบนจอเงิน
เมื่อแบทแมนได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้มีการผลิตการ์ตูนแบทแมนออกมาอีกหลายชุด เพิ่มเนื้อเรื่อง ตัวละครต่างๆ อีกมากมาย และก็ได้รับการตอบรับจากแฟนๆ เป็นอย่างดี
ค.ศ.1969 (พ.ศ.2512) ดีซีได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทที่เป็นเจ้าของ “Warner Bros.” หนึ่งในบริษัทภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
ค.ศ.1989 (พ.ศ.2532) Warner Bros. ก็ได้นำภาพยนตร์แบทแมนตอนใหม่ออกฉาย
ภาพยนตร์แบทแมนเรื่องนี้ นำแสดงโดย “ไมเคิล คีตัน (Michael Keaton)” แสดงเป็นแบทแมน และ “แจ๊ค นิโคลสัน (Jack Nicholson)” แสดงเป็นโจ๊กเกอร์ และมี “ทิม เบอร์ตัน (Tim Burton)” เป็นผู้กำกับการแสดง
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีชื่อว่า “Batman” และตัวแบทแมนก็ไม่ได้ใส่เครื่องแบบสีเทาเหมือนในการ์ตูน หากแต่ใส่เครื่องแบบสีดำที่ดูเหมือนชุดเกราะ และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังไม่มีโรบิน
ภาพยนตร์เรื่องนี้กวาดรายได้เป็นอันดับหนึ่งในสหรัฐอเมริกา และทำให้เกิดสินค้าเกี่ยวกับแบทแมนตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นของเล่น เสื้อผ้า หรือแม้แต่ซีเรียล
จากนั้น แบทแมนก็ได้กลับสู่จอเงินอีกครั้งในปีค.ศ.1992 (พ.ศ.2535) ในเรื่อง “Batman Returns” โดยมีคีตันแสดงเป็นแบทแมนเช่นเดิม ก่อนที่ในปีค.ศ.1995 (พ.ศ.2538) “Batman Forever” ได้ออกฉาย โดยเปลี่ยนตัวแบทแมน จากคีตัน เป็น “วัล คิลเมอร์ (Val Kilmer)” แสดงเป็นแบทแมน และเป็นการเปิดตัวโรบินครั้งแรก แสดงโดย “คริส โอ ดอนเนลล์ (Chris O’Donnell)” ก่อนจะปิดท้ายด้วยแบทแมนแห่งยุค 90 ด้วย “Batman and Robin” ซึ่งออกฉายในปีค.ศ.1997 (พ.ศ.2540) และมี “จอร์จ คลูนีย์ (George Clooney)” แสดงเป็นแบทแมน
ภาพยนตร์แบทแมนแห่งยุค 90
จากนั้นแบทแมนก็หายไปจากจอเงินเป็นเวลาหลายปี จนในปีค.ศ.2005 (พ.ศ.2548) แบทแมนจึงได้กลับสู่จอเงินใน “Batman Begins”
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการเล่าถึงที่มาของแบทแมน โดยคราวนี้ ผู้กำกับคือ “คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan)” และ “คริสเตียน เบล (Christian Bale)” แสดงเป็นแบทแมน
ภาพยนตร์แบทแมนของโนแลนนั้นมีความดาร์ก มืดหม่น ไม่มีความเป็นการ์ตูนเหมือนแบทแมนที่ผ่านๆ มา
ภาพยนตร์ชุดแบทแมนของโนแลนประสบความสำเร็จ และมีภาคต่อตามมาอีกสองตอน คือ “The Dark Knight” ที่ออกฉายในปีค.ศ.2008 (พ.ศ.2551) และ “The Dark Knight Rises” ซึ่งออกฉายในปีค.ศ.2012 (พ.ศ.2555)
ภาพยนตร์ชุดแบทแมนของโนแลน
ภาพยนตร์ชุดแบทแมนของโนแลนนั้นทำรายได้รวมกันกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 75,000 ล้านบาท) และพิสูจน์ให้เห็นว่าแบทแมนนั้นไม่เคยตกยุค
ความนิยมของแบทแมน ทำให้เกิดซีรีส์ “Gotham” ซึ่งออกฉายในปีค.ศ.2014 (พ.ศ.2557) ซึ่งจะบอกเล่าเรื่องราวของบรู๊ซ เวย์น ก่อนจะเป็นแบทแมน และในปีค.ศ.2016 (พ.ศ.2559) แบทแมนก็ได้ปรากฎตัวอีกครั้งใน “Batman v Superman”
แบทแมน ยังคงปรากฎตัวตามสื่อต่างๆ รวมทั้งแผนที่จะผลิตภาพยนตร์หรือสื่อเกี่ยวกับแบทแมนในอนาคตอีกมากมาย
ถึงแม้ฮีโร่ตัวนี้ จะมีอายุมากกว่า 80 ปีแล้ว แต่ก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามนต์สเน่ห์ของอัศวินแห่งรัตติกาลนั้นเป็นอมตะ และยังคงได้รับความสนใจจากแฟนๆ ไปตลอดกาล
จบลงแล้วสำหรับซีรีส์ชุดแบทแมน
เรื่องต่อไปจะเป็นเรื่องอะไร ฝากติดตามด้วยนะครับ
- 5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
