24 ก.ค. 2020 เวลา 03:50 • ศิลปะ & ออกแบบ
5 วิธีรับมือกับ Fast Fashion
Fast Fashion คืออะไร จะวางตัวอย่างไรในยุคที่แฟชั่นติดไซเรนแบบนี้
Fast fashion คือกระแสความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของวงการแฟชั่น ทำให้เกิดกระแสผลิตมาจำหน่ายเร็ว ผลิตขึ้นมามากแต่ราคาถูก ทำให้คนตัดสินใจซื้อได้ไม่ยาก คนที่ชื่นชอบแฟชั่นหรือไหลไปตามกระแสก็มักจะซื้อเสื้อผ้าบ่อยๆ และต้องโละทิ้งไปอย่างเยอะมากในช่วงเวลาที่ไม่นาน อีกสิ่งที่หลายๆ ฝ่าย กังวลเกี่ยวกับ Fast Fashion เลยก็คือ การทำให้วงจรแฟชั่นสั้นลงแทนที่แฟชั่นจะมาตามฤดูกาลในแต่ละปี ก็จะมีการผลิตออกมาบ่อยขึ้นมากขึ้นซึ่งเป็นการผลาญทรัพยากรเป็นอย่างยิ่ง ผู้ที่ใช้แรงงานในอุตสาหกรรมผลิตเสื้อผ้าต้องทำงานหนักมาก แต่ได้รับค่าจ้างอย่างไม่เป็นธรรมด้วย
ดังนั้นคงจะดีหากว่าเรารู้ทัน และทำการรับมือกับ Fast Fashion ได้เอาไว้เสียก่อน เราจะไม่ติดอยู่ในวังวนของ Fast Fashion ได้โดย
1. สีธรรมดาๆ ใส่ได้หลายโอกาสกว่า
เทรนด์สีของแฟชั่นนั้นเปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อยๆ ครึ่งปีแรกสีโทนพาสเทลอาจจะได้รับความนิยม ส่วนช่วงครึ่งปีหลังอาจจะเป็นสีสันแสบตาแทนก็ได้ ทำเอาเปลี่ยนตามกันไม่ทันเลยทีเดียว โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่มีสีสันฉูดฉาดนั้น ค่อนข้างจะนำมาสวมใส่ยากในชีวิตจริง ดังนั้นแล้วควรจะต้องมีเสื้อผ้าโทนสีธรรมดาติดตู้เสื้อผ้าเอาไว้อยู่เสมอ อย่างเช่น สีขาว สีดำ สีครีม สีเทา สีกรมท่า สีเหล่านี้สามารถใส่ได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าเทรนด์แฟชั่นจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหนก็ตาม
2. ยืนพื้นรูปทรงเสื้อผ้าที่เรียบง่าย
เสื้อผ้าลำลองที่เรียบง่ายอาจจะดูน่าเบื่อไปสักหน่อย แต่ข้อดีของเสื้อผ้าแนวนี้ก็คือ สามารถหยิบมาใส่ได้ในทุกโอกาส และสามารถดัดแปลงให้เข้ากับแฟชั่นอื่นๆ ด้วย อย่างเช่น เสื้อยืด เสื้อเชิ้ต เสื้อคลุมคาร์ดิแกน แจ๊กเก็ตยีนส์ สามารถนำมาใส่ได้ในทุกๆ วันเลย ไม่ต้องห่วงว่าตอนนี้แฟชั่นจะเป็นยังไงก็ตาม เพราะใส่ยังไงก็ไม่ทางตกยุคเลย
3. ไม่มีอะไรดีเท่าเสื้อผ้าที่ได้ใช้งานจริง
มีแฟชั่นเสื้อผ้ามากมายหลากหลายแบบ ที่เรารู้สึกอยากจะลองสวมใส่ หรือว่ามีเอาไว้ในครอบครอง แต่พอซื้อมาจริงๆ แล้วมันก็อยู่แต่ในตู้เสื้อผ้า ไม่ค่อยได้หยิบออกมาใส่ใช้งานจริงสักเท่าไหร่เลย เพราะจะหยิบมาใส่ทีไรก็รู้สึกได้ว่าไม่เหมาะไม่โอเคนัก ไว้ใส่คราวหน้าดีกว่า แต่จนแล้วจนรอดเราก็ไม่ได้หยิบออกมาใช้ให้คุ้มกับราคาที่เสียไปเลย ดังนั้นในหลายๆครั้งก่อนที่จะหยิบเงินออกมาจ่ายค่าเสื้อผ้าชุดใหม่ๆ ก็ควรตระหนักให้ดีว่าเราได้ใส่มันจริงไหม มีโอกาสจะได้ใช้บ่อยๆ หรือเปล่า ถ้าคิดว่าซื้อไปก็คงเก็บเอาไว้ใส่ก็อย่าเพิ่งซื้อ หรือตัดใจไม่ซื้อจะดีกว่า จะได้ประหยัดทั้งพื้นที่ในตู้เสื้อผ้าและเงินในกระเป๋าของคุณเองด้วยนะ
4. เลือกเสื้อผ้าที่มีคุณภาพดี
เสื้อผ้าราคาถูกหลายๆ ชิ้นนั้น อาจจะมีคุณภาพทั้งของผ้า และการตัดเย็บก็ไม่ดีเลย เพราะเขาเน้นลดต้นทุนเพื่อการขายที่ได้ราคาถูกๆ ในขณะที่เสื้อผ้าที่ดีมีคุณภาพนั้น อาจจะราคาสูงสักหน่อยแต่ถ้าได้ใช้งานจริงแล้วได้ความทนทาน เนื้อผ้าดี ไม่ต้องรีดก็ได้ไม่ยับจนเกินไป หรือใส่แล้วระบายเหงื่อ ทำให้ไม่มีกลิ่นตัว ก็น่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากกว่า การเลือกใช้สินค้าราคาที่ราคาถูกแต่เพียงอย่างเดียวนะคะ
5. มีรูปแบบเสื้อผ้าเป็นของตัวเอง
ถ้าคุณเป็นคนยึดมั่นในแนวเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่อยู่แล้ว ต่อให้แฟชั่นจะไปในทิศทางไหน มีสีอะไรกำลังเป็นที่นิยมก็จะไม่ส่งผลกระทบอะไรกับคุณเลย เพราะทุกวันนี้คุณก็เสื้อที่ตัวเองก็รู้สึกชอบและพอใจกับมันดีอยู่แล้ว ไม่ต้องเหนื่อยกับการไล่ตามแฟชั่นให้ทัน และไม่ต้องสิ้นเปลืองไปกับค่าเสื้อผ้ามากเกินความจำเป็นด้วย มีแค่ชุดที่ชอบก็ใส่ไปได้นานๆ แล้ว
ดังนั้นหากเราเป็นส่วนหนึ่งที่ลดการใช้ Fast Fashion ก็จะช่วยรักษาทั้งทรัพยากรโลก รักษาวงการแฟชั่น และประหยัดเงินในกระเป๋าด้วยนะคะ แฟชั่นตามได้แต่ก็ไม่ควรเปลี่ยนบ่อย เปลี่ยนเร็วหรือมากเกินความจำเป็นเสมอไปค่ะ มั่นใจแฟชั่นของตัวเองเข้าไว้ มีเสื้อผ้าหรือแฟชั่นเรียบๆ เผื่อเอาไว้บ้าง Fast Fashion แค่ไหนเราก็เอาอยู่ค่ะ
บทความ โดย : Akine_noxx
เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper
ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ หากชื่นชอบกันด้วยนะคะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา