สัญญายึดไม้ที่วิการามจะใช้ทุบตีมีนา เธอไม่สามารถทนเห็นใครทำร้ายผู้หญิงได้อีกต่อไป ต่อให้เธอคนนั้นจะทำความผิดใหญ่หลวง แต่เธอก็ควรจะได้รับความเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นคน
“จำไว้ว่าฉันเกลียดคนโกหก และคนโกหกก็ไม่ควรจะได้รับเกียรตินั้น เรื่องนี้ต้องรู้ถึงหูพ่อแม่ของหล่อน อบรมสั่งสอนกันยังไง ลูกสาวถึงได้มีนิสัยขี้โกหก”
ซานโต๊สสั่งให้โมหิตโทรศัพท์ไปบ้านเดิมของมีนา เธอรายงานความประพฤติสุดทนของสะใภ้ตัวดี ที่เป็นต้นเหตุของการที่บ้านถูกงัด พร้อมเชิญให้พ่อแม่ของมีนามาที่นี่ เพื่อรับตัวลูกสาวกลับบ้านเดิมไป
สัญญารู้สึกแย่ที่แม่สามีพูดจาดูถูกพ่อแม่ของมีนา จู่ๆ เธอก็ได้ยินเสียงแม่สามีหันมาเรียกเธอว่า “คนโกหก” แทน พ่อแม่ของเธอถูกต่อว่าและตั้งคำถามเกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดู ทั้งยังเห็นภาพพี่ชายและพี่สะใภ้ของเธอยกมือไหว้ร้องขอการอภัยอย่างน่าสงสาร
ไม่…เธอทนไม่ได้หากใครจะมาชี้นิ้วกล่าวโทษพ่อแม่ที่เธอเคารพรัก พี่สะใภ้ที่แสนดี รวมทั้งพี่ชาย แม้เขาจะสมควรได้รับการลงโทษก็ตาม สัญญาค่อยๆ ถอยหลังแล้วเดินหนีออกจากที่ตรงนั้นซึ่งเปรียบเสมือนลานประหารนักโทษ
เธอเปลี่ยนใจแล้ว เธอจะพยายามยอมรับการแต่งงาน เธอจะไม่ปริปากบอกใครว่าเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เธอจะลืมความฝันที่จะเป็นตำรวจให้สิ้น และจะใช้ชีวิตตามที่พี่ชายได้สร้างเรื่องโกหกเอาไว้
แต่คำถามคือการแต่งงานที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการโกหกจะจีรังยั่งยืนขนาดไหน?...
เพื่อไม่ให้ครอบครัวต้องแตกแยก ไร้ซึ่งความสงบสุข สุราชพยายามใจเย็น พูดจาโน้มน้าวมารดามิให้ขับไล่มีนาออกจากบ้าน
“แม่ครับ ลูกสะใภ้ก็เปรียบเหมือนพระแม่ลักษมีที่นำพาความเจริญ ความมั่งคั่งมาสู่บ้าน ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลดิวาลีที่เราจะต้องบูชาพระแม่ลักษมี แม่จะขับไล่เทพีแห่งโชคลาภออกจากบ้านหรือครับ”
เมื่อลูกชายมาไม้นี้ คนที่เคร่งครัดธรรมเนียมประเพณีเลยจำใจยอมให้สะใภ้มีนาอยู่บ้านต่อไป แต่เธอจะถูกเมินเฉยเสมือนไม่ใช่สมาชิกในครอบครัว วิการามถอนหายใจโล่งอกพลางขอบคุณพี่ชายทางสายตาที่ทำให้เรื่องเลวร้ายจบลงด้วยดี
ในวันดิวาลี สัญญามีโอกาสได้ไปที่ร้านขนมหวานรติเป็นครั้งแรก เพื่อจุดตะเกียงและตกแต่งร้านให้สว่างไสว ความจริงร้านนี้ก็อยู่เยื้องๆ กับบ้านรติ ติดกับร้านขายส่าหรีของวิการามและมีนา เพียงแต่ที่ผ่านมาเธอไม่สนใจ มองข้ามไปก็เท่านั้น
ช่วงหน้าเทศกาลนี้ขนมหวานจะขายดีเป็นพิเศษ แม้สุราชจะยุ่งอยู่กับการดูแลลูกค้า แต่สายตาก็คอยมองภรรยาคนสวยวางไส้ตะเกียงลงในตะเกียง เทน้ำมันร้อนๆ ก่อนจะจุดไฟให้ความสว่าง
“คุณรู้ไหม เมื่อตะเกียงกับไส้ตะเกียงอยู่แยกกัน มันไม่มีความหมายอะไรเลย แต่เมื่อมันมาอยู่คู่กันเหมือนกับสามีและภรรยา มันจะมีพลังมากพอที่จะช่วยกันกระจายความสุข และขับไล่ความทุกข์ที่เข้ามา”
สุราชช่วยสัญญาจุดไฟตะเกียงในระหว่างที่ว่างเว้นจากลูกค้า พร้อมเปรียบตะเกียงกับไส้ตะเกียงดั่งสามีและภรรยา เพื่อให้สัญญาเห็นภาพตาม หวังว่าเธอจะเชื่อใจเขาและบอกความในใจหรือปัญหาที่สุมรุมเร้าเธออยู่ออกมา
แน่นอนว่าสัญญาเข้าใจความนัยที่เขาต้องการจะสื่อ แต่เวลานี้เธอยังไม่พร้อมจะไว้ใจและสานสัมพันธ์กับใครทั้งนั้น เพราะขนาดพี่ชายแท้ๆ ยังหักหลังเธอได้
สุราชพยายามอดทนต่อท่าทีเย็นชาที่สะท้อนกลับมา ทุกอย่างต้องใช้เวลา เขาจึงได้แต่มอบจี้ห้อยคอเพื่อเป็นของขวัญในวันดิวาลีแก่หญิงสาว สัญญารับมาแต่ก็ไม่ใส่ใจตามเดิม เพราะตอนนี้เธอห่วงใบประกาศนียบัตรที่ถูกขโมยไปมากกว่า
สัญญาห่วงว่ามีนายังไม่ทานข้าว จึงตั้งใจนำถาดอาหารไปให้เธอที่ห้อง ระหว่างทางเธอเห็นวิการามคุกเข่าอ้อนวอนขอการอภัยจากมารดา แม้เขาจะต้องสะบั้นความสัมพันธ์กับมีนาก็ตาม แต่เขาก็ยอมเพื่อแม่ผู้เป็นดั่งพระเจ้าของเขา ซานโต๊สจึงยกโทษให้แต่โดยดี ในขณะที่ผู้เป็นสะใภ้เฝ้าวิงวอนขอการอภัยแทบเท้า กลับไม่ได้รับความเมตตาแม้แต่น้อย
หญิงสาวรู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรงในความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น ในฐานะลูกสะใภ้ด้วยกัน สัญญารู้สึกสงสารและเห็นใจมีนามากที่ไม่ได้รับการดูแลจากบ้านหลังนี้เท่าที่ควร
“พี่สะใภ้ดีกับฉันมาก ฉันจะบอกอะไรให้นะ ผู้คนอาจเปรียบสะใภ้เหมือนพระแม่ลักษมี แต่สำหรับบ้านหลังนี้ สะใภ้ก็เหมือนวัวที่แม่สามีซื้อมาจากตลาด พวกเราทำงานไม่ต่างจากสาวใช้ มีความแตกต่างข้อเดียวระหว่างสาวใช้ชาโตรีกับสะใภ้ของที่นี่ คือชาโตรีนอนในครัว แต่สะใภ้นอนในห้องของลูกชายเขาเท่านั้น”
หญิงสาวได้ฟังแล้วก็เศร้าใจ ดีนะที่คืนนี้สุราชนอนค้างคืนที่ร้าน เพราะเธอไม่อยากจะมองแม้แต่หน้าของเขา เธอเห็นกับตา ได้ยินกับหู ลูกชายบ้านนี้ไม่เคยคิดที่จะยืนหยัดเคียงข้างภรรยาของเขาเลย
เห็นพี่สะใภ้ทำหน้ากล้ำกลืนฝืนทน มีนาก็แอบสาแก่ใจที่พ่นพิษในใจผู้มาใหม่ได้สำเร็จ ในเมื่อเธอไม่มีความสุขแล้ว ก็อย่าหวังเลยว่าคนอื่นจะมีความสุข…
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
