มาเพื่อเปลี่ยน! บทบาทของ ’ศาสนาคริสต์’ ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงการเมืองและกฎหมายของโลกตะวันตกยุคโบราณ มีอะไรบ้าง?
WIKIPEDIA PD
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
กลางคริสต์ศตวรรษที่หนึ่ง ศาสนาคริสต์ในช่วงแรกถือเป็นส่วนหนึ่งของศาสนายูดาห์ โดยถือกำเนิดครั้งแรกในบริเวณอิสราเอลและตะวันออกกลาง ก่อนขยับขยายไปทั่วดินแดนในเวลาไม่กี่ศตวรรษ และกลายเป็นศาสนาที่มีความสำคัญต่อผู้คน ไม่ใช่แค่เพียงในแง่ของศาสนาที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่ยังรวมไปถึงข้อกฎหมายและการเมืองอีกด้วย และนี่คือเกร็ดสาระน่ารู้ของศาสนาคริสต์ที่มีอิทธิพลต่ออารยธรรมยุคแรกเริ่มของมนุษย์
1. เมโสโปเตเมียได้ชื่อว่าเป็นอู่อารยธรรมแรกของมนุษย์ ในช่วงเวลานั้นชนชั้นผู้ปกครองมักถูกมองว่าเป็นสมมติเทพที่มาจากสรวงสวรรค์ ในอารยธรรมของชาวตะวันตกสมัยยุคกรีกและโรมันเองก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับชีวิตของมนุษย์มากนัก ยกตัวอย่างเช่นชาวสปาร์ตัน ถ้าพวกเขาเห็นทารกแรกเกิดมีรูปร่างที่ไม่สมส่วนก็จะถูกโยนทิ้งหน้าผาทันที ส่วนพวกโรมันก็มีการค้าทาส และนำทาสมาใช้แรงงานและการประลองในกิจกรรมสันทนาการ แต่ศาสนาคริสต์เป็นส่วนสำคัญในการบอกกล่าวผู้คนว่าชีวิตทุกชีวิตล้วนมีค่าและสมควรได้รับการปกป้อง
WIKIPEDIA PD
2. ในยุคที่อารยธรรมกรีกและโรมันยังรุ่งเรือง แทบเรียกได้ว่าผู้หญิงคือพลเมืองชั้นสอง ที่ไม่ได้มีบทบาททางสังคมเหมือนผู้ชายทั่วไป สังคมกรีกและโรมันไม่ให้ความสำคัญกับผู้หญิงที่ไม่ได้แต่งงานเท่าไรนัก เรียกได้ว่าผู้หญิงคือหนึ่งในสินทรัพย์ของสามี แต่หลังจากที่ศาสนาคริสต์เข้ามา ก็ได้มอบสิทธิและอำนาจบางอย่างให้ผู้หญิง เช่น ให้ผู้หญิงที่เป็นม่ายมีสิทธิ์ในทรัพย์สมบัติของสามีที่เสียชีวิต และไม่จำเป็นต้องแต่งงานใหม่ถ้าหากพวกเธอไม่ต้องการ รวมไปถึงค่านิยมเกี่ยวกับเรื่องรักเดียวใจเดียว กล่าวคือ ให้ผู้ชายที่แต่งงานแล้วไม่สามารถนอกใครไปมีผู้หญิงคนอื่นได้อีกนอกจากภรรยาของตัวเอง
3. ในโลกยุคโบราณ ชีวิตของเด็กทารกแรกเกิดนั้นเรียกได้ว่าไม่มีความแน่นอนใด ๆ ทั้งสิ้น เด็กกลุ่มนี้บางส่วนถูกพ่อแม่นำไปขายเป็นแรงงานทาสหรือโสเภณี บางคนก็ถูกปล่อยทิ้งไว้ให้เสียชีวิต ยกตัวอย่างเช่นชาวสปาร์ตัน ที่มีการคัดเลือกเด็กทารกแรกเกิดว่ามีสุขภาพแข็งแรงดีหรือไม่ ถ้าไม่เด็กเหล่านี้จะถูกสังหาร ส่วนชาวโรมัน ในหลายครอบครัวก็ไม่มีความพร้อมในการเลี้ยงบุตร ก็อาจนำเด็กทารกแรกเกิดไปทิ้ง แต่หลังจากศาสนาคริสต์ได้เข้ามามีบทบาทในสังคมของชาวโรมัน เรื่องดังกล่าวก็กลายเป็นเรื่องผิดศีลธรรมและผิดกฎหมายไป
WIKIPEDIA PD
4. ในยุคแรกเริ่มที่ศาสนาคริสต์ถูกเผยแพร่ไปทั่วดินแดนเอเชียไมเนอร์และยุโรป ในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่จักรวรรดิโรมันยังรุ่งเรือง ชนชั้นสูงมองว่าศาสนาคริสต์คือพวกนอกกรีตและจำเป็นต้องกำจัดทิ้ง เพื่อไม่ให้ใครมามีอำนาจเหนือจักรพรรดิแห่งโรมัน แต่ภายหลัง จักรพรรดิคอนสแตนตินมหาราช ได้ทรงรับและเปลี่ยนมานับถือคริสต์ จนนำมาสู่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ พระองค์ได้เริ่มทำนุบำรุงศาสนาคริสต์และประกาศให้ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำชาติ พร้อมกับสร้างเมืองหลวงของจักรวรรดิโรมันแห่งใหม่ทางทิศตะวันออกโดยใช้ชื่อว่า 'คอนสแตนติโนเปิล'
5. ภายหลังที่จักรวรรดิโรมันตะวันตกล่มสลายลงไป แต่อำนาจของศาสนจักรยังคงแข็งแกร่งและทรงพลัง ที่แม้แต่เหล่าบรรดาอนารยชนที่พิชิตกรุงโรมได้ยังไม่กล้าเข้าไปยุ่ง และยังต้องรับฟังเพื่อให้ตนเองได้อำนาจอันชอบธรรมในการปกครองอิตาลีต่อไป โดยเฉพาะพระสันตะปาปา ที่ยังมีอำนาจในช่วงรอยต่อความวุ่นวายหลังจากจักรวรรดิโรมันล่มสลาย พระสันตะปาปายังคงทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางรวมอำนาจเอาไว้ในช่วงเวลาที่วุ่นวายดังกล่าวในนครรัฐวาติกันนับตั้งแต่นั้นจวบจนถึงปัจจุบัน
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
