เอกลักษณ์ไทยกับอาคารผู้โดยสารหลังใหม่
Thai architectural buildings in the new passenger terminal, Suvarnabhumi Airport
อนาคตอันใกล้นี้เราคงจะได้ใช้อาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ในขณะนี้กันนะเจ้าค่ะ ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าน่าจะทันใช้ในเดือนพฤศจิกายนนี้เจ้าค่ะ
ซึ่งไฮไลอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการบ่งบอกตัวตนของสนามบินในแต่ละประเทศนั้นก็คือ การตกแต่งภายในนั้นเองเจ้าค่ะ อย่างเช่น พวกภาพจิตกรรมฝาผนัง ปูนปั้น หรือแม้แต่สถาปัตยกรรมที่สื่อความเป็นชาตินั้นๆ อย่างอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ
ก็ถือได้ว่าเป็นแบบอย่างในการนำเอกลักษณะสถาปัตยกรรมไทยมาตกแต่งได้อย่างสวยงามลงตัวอย่างมากเจ้าค่ะ ซึ่งแสดงให้คนที่มาเยี่ยมเยือนประเทศไทยเรานั้น ได้เห็นถึงความเป็นไทยตั้งแต่แรกของการย่างก้าวลงจากเครื่องกันเลยทีเดียว
อาคารผู้โดยสารแห่งใหม่นี้ มีรูปแบบการตกแต่งที่แสดงถึงตัวตนของไทยไม่แพ้จากอาคารกลุ่มแรกที่สร้างขึ้นก่อนหน้านั้นเลยเจ้าค่ะ ซึ่งในตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการประกอบเข้าที่ตามส่วนต่างๆของอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ ซึ่งวันนี้ฉันจะพาพี่ท่านทุกคนไปทัวร์ชมกันคราวๆ เจ้าค่ะว่าเอกลักษณ์ไทยที่เขาจับมาวางในอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่แห่งนี้มีอะไรบ้าง
1. สุพรรณหงส์ หรือ หงส์ทอง
ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของประเทศที่ทั้งชาวต่างชาติและคนไทยเองคุ้นตามากๆ อย่างเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ที่งดงามของไทยเรา เป็นต้นเจ้าค่ะ โดยหงส์นั้นเป็นสัตว์ชั้นสูง อาศัยอยู่บริเวณถ้ำทองในป่าหิมพานต์นั้นเองเจ้าค่ะ
2.บุษบก หรือ ซุ้มยอด
เป็นซุ้มที่มีหลังคาซ้อนชั้นเป็นยอดแหลม มีบันแถลงประดับโดยรอบ ซึ่งในความหมายของบันแถลงนี้มีอยู่ว่า เป็นการจำลองอาคารหนึ่งๆ ด้วยการนำส่วนที่เรียกว่าหน้าบันมาซ้อนชั้นกันขึ้นไป โดยมากมักซ้อนกันสามชั้น ซึ่งมีความหมายถึงเป็นการจำลองอาคารแสดงฐานานุศักดิ์ นั้นเองเจ้าค่ะ
3.หนังใหญ่
มรดกทางมหรสพของไทยที่มีมาแต่โบราณ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนสยามในสมัยก่อนที่ใช้แผ่นหนังวัวฉลุเป็นรูปตัวต่างๆเป็นเรื่องรามเกียรติ์ ทำการแสดงด้วยแสงเงาทำให้เห็นเงาตัวหนังซึ่งมีลวดลายวิจิตรบนจอผ้าสีขาว มีการเชิดหรือเต้นไปตามจังหวะของดนตรีและมีบทพากย์บทเจรจาสนุกสนานอย่างมาก
นับว่าเป็นเอกลักษณ์ของไทยที่เราควรอนุลักษณ์อย่างมากเจ้าค่ะ เพราะในตอนนี้ประเทศเพื่อนบ้านข้างๆเรา อย่างเคลมโบเดียนั้นก็ได้คัดลอกและเคลมการแสดงหนังใหญ่นี้ไปเป็นเอกลักษณ์ของบ้านตัวเองแล้ว
4. หุ่นละครเล็ก
หุ่นละครเล็กเป็นการแสดงโบราณของไทยอย่างหนึ่งที่งดงามที่ใช้คน 3 คนเป็นผู้เชิดต่อตัวหุ่น 1 ตัว การเชิดนั้น คนเชิดจะต้องมีความสามารถทางด้านโขนเพราะต้องใช้ท่วงท่าของโขนในการบังคับทิศทางและการเคลื่อนที่ของหุ่นละครให้เหมือนกับการฟ้อนโขนมากที่สุด และ 3 คนนั้นต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างมากอีกด้วยเจ้าค่ะ นับว่ายากอยู่มากเหมือนกันศาสตร์นี้
5.หัวโขน
เป็นงานศิลปะชั้นสูงซึ่งใช้สำหรับสวมครอบศีรษะ ปิดบังส่วนหน้าของผู้แสดงโขนอย่างมิดชิด เป็นศิลปวัตถุประเภทประณีตศิลป์ และงานศิลปะที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นอย่างวิจิตรตระการตาตามแบบสกุลช่างไทย สื่อถึงตัวละครต่างๆ เช่น ตัวพระ ตัวยักษ์ เทวดา วานรและสัตว์ต่าง ๆ นั้นเองเจ้าค่ะ
ปัจจุบันนี้เคลมโบเดียก็มีความพยายามอย่างมากในการคัดลองและวาดหน้าให้เหมือนกับหัวโขนไทยมากขึ้นจนมีทีท่าว่าจะน่ากลัวขึ้นทุกวัน และหากยังขืนเป็นอยู่แบบนี้ต่อไป รับรองได้เลยว่าเราต้องจะไม่เหลือมรดกของบรรพบุรุษอะไรที่จะสร้างความแตกต่างจากชนชาติอื่นได้อีกต่อไปเจ้าค่ะ
6.ช้างไทย
สัตว์ตัวใหญ่ที่อยู่คู่กับประเทศไทยมาช้านาน ช้างเป็รสัญลักษณ์หนึ่งที่ทำให้ต่างชาติรู้จักคนไทย โดยเฉพาะคุณยายฮานะโกะที่อยู่ญี่ปุ่นก็เป็นช้างที่เชื่อมสัมพันธไมตรีไทย- ญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดีเจ้าค่ะ ดังนั้นหากคุณรักประเทศไทยก็อย่าลืมรักช้างด้วยนะเจ้าค่ะ
และนี้ก็คือส่วนหนึ่งของความเป็นไทยในอาคารผู้โดยสารใหม่ ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมินี้เจ้าค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างเจ้าค่ะ น่าภูมิใจเนอะที่เรามีรากที่งดงามมากมายถึงเพียงนี้
หากไม่มีบรรพบุรุษคอยสรรสร้างความเป็นไทยเหล่านี้ขึ้นมา เราก็ไม่รู้เลยว่าเราจะเอาอะไรไปพรีเซนต์กับโลกใบนี้ให้รู้จักเรากันนะ ดังนั้นแล้วโปรดช่วยกันรักและหวงแหนความเป็นไทยของเรากันด้วยนะเจ้าค่ะ อย่าให้ไอ้อีหน้าไหน มาขโมยหรือเคลมของเราไปได้เจ้าค่ะ
Le Siam
“สยาม … ที่คุณต้องรู้”
เขียนโดย : Le Siam
ของคุณภาพจาก : Vision from
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
