30 ก.ค. 2020 เวลา 12:59 • การศึกษา
ไอน์สไตน์เชื่อว่าในอนาคตความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้มนุษย์สามารถหาข้อเท็จจริงได้ไม่ยาก แม้ในสมัยของไอน์สไตน์ยังไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ และระบบอินเทอร์เน็ต แต่ด้วยความเป็นอัจฉริยะของเขาทำให้เขาสามารถมองเห็นโลกล่วงหน้าได้เป็นร้อยปีเลยทีเดียว
ประเทศสิงคโปร์ได้ปฏิรูประบบการศึกษาครั้งใหญ่ โดยเน้นสอนที่ทักษะการคิดมากกว่าความรู้ การสอบในประเทศตะวันตก อนุญาตให้นำเครื่องคิดเลข และหนังสือเข้าห้องสอบได้ เพราะคำถามในข้อสอบจะเป็นการถามทักษะการคิด เช่น ทำไมสหรัฐอเมริกาจึงเกิดสงครามกลางเมือง แทนที่จะถามว่าสงครามกลางเมืองเริ่มในปีใด หรือใคร ชื่ออะไรเป็นผู้นำฝ่ายเหนือ ผู้นำฝ่ายใต้ ข้อสอบคณิตศาสตร์ก็จะถามว่า 3 คูณ 5 หมายถึงอะไร ก. สามบวกกันห้าครั้ง ข. ห้าบวกกันสามครั้ง ค. สามเท่าของห้า ง. ห้าเท่าของสาม จ. ถูกทุกข้อ แทนที่จะถามว่า 3 คูณ 5 เท่ากับเท่าไร
หลักสูตรการศึกษาต้องสอนเน้นไปที่ทักษะในการเรียนรู้ และวิธีคิด ต้องให้นักศึกษาได้เห็นปัญหา และตั้งวงวิเคราะห์กันถึงแนวทางของการแก้ไข ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีวิธีเดียว และผิดหรือถูกไม่ใช่เรื่องสำคัญ ที่สำคัญคือให้เด็กได้รู้จักกระบวนการคิด ยอมรับความเห็นผู้อื่น รู้จักถกปัญหา รู้ว่าจะไปหาข้อมูลหรือข้อเท็จจริงเพิ่มเติมได้ที่ไหน
ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ระบบการศึกษาจะเน้นเรื่องการทำงานกลุ่ม เพราะถ้านักเรียนมีทักษะนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเรียนมากและกว้าง แต่เรียนเฉพาะจุดที่ตัวเองสนใจก็พอ เมื่อมาทำงานเป็นทีม ทุกคนก็รับผิดชอบในส่วนที่ตนเองถนัด ดังนั้น การเรียนในโรงเรียน กิจกรรมจึงเป็นสิ่งจำเป็น เช่น กิจกรรมกีฬาสี การซ้อมเชียร์ ประกวดทีมทำโครงการต่าง ๆ การแข่งขันเต้นเป็นทีม ฯลฯ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้แม้จะไม่ทำให้เก่งวิชาการ แต่ทักษะที่ได้นั้นมีค่ามากกว่าข้อเท็จจริงมากมายนัก
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
ที่มา : หนังสือ "มรดก ไอน์สไตน์" | ทันตแพทย์สม สุจีรา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา