Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Play Now Thailand
•
ติดตาม
31 ก.ค. 2020 เวลา 13:23 • กีฬา
เรื่องของเสื้อชุดขาวทีมมิลานกับนัดชิงถ้วยยุโรปใบใหญ่
หลังจากความปราชัยในครั้งแรกของการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศถ้วยยูโรเปี้ยนคัพในปี 1958 ต่อทีมราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ไป
ต่อมาในปี 1963 มิลานฝ่าเข้ามาถึงนัดชิงได้อีกครั้งโดยเจอกับ เบนฟิก้า ยอดทีมจากโปรตุเกส มิลานที่ถูกจับฉลากในฐานะทีมเยือน ต้องลงเตะในเสื้อชุดแข่งขันสีขาวและสามารถเฉือนเอาชนะเบนฟิก้าคว้าแชมป์ยุโรปถ้วยใหญ่-ยูโรเปี้ยนคัพ มาครองได้สำเร็จ ถือเป็นปฐมบท หน้าแรกของประวัติศาสตร์แชมป์ 7 สมัยของสโมสร...
จากสถิติที่ถูกบันทึกไว้ มิลานเป็นทีมที่ได้เล่นในรอบชิงชนะเลิศถ้วยยุโรปใบใหญ่ทั้งหมด 11 ครั้ง (มากเป็นอันดับสองรองจากทีม เรอัล มาดริด ที่ทำได้ 16 ครั้ง) แต่มีเรื่องที่น่าสังเกตว่า มิลานได้แชมป์ภายใต้ชุดแข่งสีขาวถึง 6 ครั้ง มีเพียงเกมส์ชนะอาแจกซ์ในปี 1969 ที่สวมเสื้อชุดลายแดง-ดำ ผมลองเอาสถิติของผลงานจากการใส่เสื้อทั้ง 2 มาเปรียบเทียบให้อ่านกันเล่นๆครับ :
ใส่เสื้อชุดเยือน-สีขาว 8 ครั้ง ชนะ 6
ใส่เสื้อชุดเหย้า-แดงดำ 3 ครั้ง ชนะ 1
ส่วนเสื้อ มิลาน ชุดเยือนสีขาวที่หยิบมาเล่าตัวนี้ เป็นเสื้อที่ใช้ในเกมส์นัดชิง UCL ฤดูกาล 1993-94 ซึ่งมีเรื่องที่น่าสนใจจะมาย้อนทวนความทรงจำให้ผู้อ่านทุกท่านครับ...
ทั้งบาร์เซโลน่าและมิลานต่างก็เพิ่งจะจบฤดูกาลโดยเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศตัวเอง บาร์ซ่าชุดดรีมทีมภายใต้การคุมทีมของโยฮัน ครัฟฟ์ ได้รับการคาดหมายจากสื่อทุกสำนักว่าน่าจะมีโอกาสเป็นแชมป์สมัยที่ 2 ในปีนี้ ซึ่งพวกเขาเคยครองแชมป์ครั้งแรกเมื่อ 2 ปีก่อน...
มิลานเข้าสู่รอบชิงในสภาพทีมที่พิการเกือบครึ่งทีม : มาร์โก แวน-บาสเท่น ศูนย์หน้าตัวเก่งเจ็บพักยาว , เลนตินี่ กองหน้าค่าตัวแพงที่สุดในโลกมีอาการบาดเจ็บ , ขณะที่นักเตะกำลังหลักที่เป็นหัวใจในเกมส์รับ ฟรังโก บาเรซี่ และ คอสตาคูต้า ทั้งคู่ต่างก็ติดโทษแบน...ในขณะที่ฝั่งบาร์ซ่ามีขุมกำลังที่สมบูรณ์ บรรดาเหล่านักเตะต่างก็มีความพร้อมในเกมส์นี้...
กฎของยูฟ่าในสมัยนั้นกำหนดให้แต่ละสโมสรเลือกส่งนักเตะต่างชาติลงเล่นได้เพียง 3 คน...คาเปลโล่ โค้ชมิลานเลือกใช้งาน มาร์แซล เดอไซญี่-สโวนิเมีย โบบัน-และ เดยัน ซาวิเซวิค โดยดร็อปทั้ง ปาแปง-ราดูโชยู-และไบรอัน เลาดรู็ป ซึ่งดูแล้วเหมือนเป็นการเสริมเกมส์แดนกลางสนามให้แข็งแกร่ง...ขณะที่ฝั่งบาร์ซ่า 3 นักเตะต่างชาติที่ครัฟฟ์เลือกคือ โรมาริโอ้-ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ-และ โรนัลด์ คูมัน และเลือกดร็อปกองกลางตัวเพลย์เมคเกอร์อย่าง ไมเคิล เลาดรู็ปผู้พี่...
เกมส์ในสนามตลอด 90 นาที กลับเป็นมิลานที่ครองเกมส์และเล่นได้ดีกว่าคู่แข่ง เปาโล มัลดินี่ ที่ขยับมาเล่นตำแหน่งปราการหลังตัวกลางในเสื้อหมายเลข 6 ขณะที่ คริสเตียน ปานุชชี่ ใส่เสื้อหมายเลข 3 เล่นเป็นแบ็คซ้าย แผงหลังมิลานช่วยกันจัดการกองหน้าของคู่แข่งได้อยู่หมัด ส่วนเกมส์ในแดนกลาง สี่มิดฟิลด์ของมิลานที่มี อัลแบร์ตินี่ เป็นแกนหลัก ต่างก็โชว์ท็อปฟอร์มสร้างสรรค์เกมส์ได้เหนือกว่าทีมคู่แข่งอย่างชัดเจน จบเกมส์ ทีมปีศาจแดงดำของอิตาลี ถล่มทีมเจ้าบุญทุ่มจากสเปนไปอย่างพลิกความคาดหมายด้วยสกอร์ 4 : 0 คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 5 ไปครอง...
บรรดานักวิจารณ์ต่างออกมาคอมเมนท์ถึงความปราชัยของบาร์ซ่าในครั้งนี้ ส่วน ฟาบิโอ คาเปลโล่ ออกมาพูดหลังจากจบเกมส์ไปแล้วว่า “ผมคิดว่าเป็นความผิดพลาดอย่างยิ่งของบาร์ซ่า ที่ ครัฟฟ์ เลือกดร็อป ไมเคิล เลาดรู็ป ออกไปจากรายชื่อนักเตะในเกมส์นี้ เพราะเค้าคือนักเตะที่ผมรู้สึกกลัวและมีความกังวลมากที่สุด”...และในที่สุด ไมเคิล เลาดรู็ป ก็เลือกย้ายไปเล่นให้กับทีมคู่ปรับ เรอัล มาดริด เมื่อจบฤดูกาล.....
⚽️
เขียนโดย : เชิดศักดิ์ พัฒนะคูหา
#มาดริด #มิลาน #ฟุตบอล #เล่นเป็นเรื่อง #PlayNowThailand
อัพเดตข่าวสารกีฬาก่อนใคร
พร้อมมีของรางวัลพิเศษให้ร่วมสนุกกันเป็นประจำ
ร่วมไลค์ ร่วมแชร์ Play Now Thailand
https://www.facebook.com/KhelNowThailand/
1 บันทึก
4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เกร็ดกีฬา
1
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย