ทำไมนักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันถึงไม่ดังเหมือนยุคก่อนๆ?
หากย้อนไปเมื่อหลายศวตรรษที่ผ่านมา ในสมัยนั้นนักวิทยาศาสตร์ ถือว่ามีอิทธิพลต่อผู้คนมาก เพราะเป็นยุคแห่งการบุกเบิกเทคโนโลยี และการค้นพบต่างๆมากมาย นักวิทยาศาสตร์จึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนมวลมนุษยชาติ และเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล
Science Club by Bottle of Sun
พวกเขาโด่งดังกับผลงานตีพิมส์ระดับนานาชาติ หรือได้รับรางวัลโนเบลมากมาย ในยุคนั้นแม้ประชาชนอาจจะไม่เข้าใจในผลงานนั้น แต่ก็ยกย่องบรรดานักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ เพราะเชื่อว่า พวกเขาจะทำให้โลกของเรา "ดีขึ้น" ถือว่าเป็นยุครุ่งเรืองของอาชีพนักวิทยาศาสตร์ เพราะเงินรางวัลนั้นสูงมากๆ
ในศตวรรษที่ 18-20 ถือว่าเป็นยุคของการค้นพบต่างๆทางวิทยาศาตร์ ที่ต่อยอดมาเป็นเทคโนยีและนวัตกรรมจวบจนปัจจุบันนี้ นักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากมาย ที่เรามักรู้จักในสมัยเรียน เช่น อัลเบิร์ต ไอสไตน์, เจมส์ วัตต์, เจมส์ เคลิร์ก แมกซ์ เวลล์, แมกซ์ พลังค์, นีล บอร์, นิว ตัน,มารี กูรี, เบนจามิน แฟลงคลิน, กาลิเลโอ, ดาวินชี, นิโคลา เทสล่า, โทมัส อัลวา เอดิสัน, และ ชาร์ล ดาวิน เป็นต้น
พวกเขาเหล่านี้กลายเป็นบุคคลสำคัญของโลก ความน่าสนใจคือ นอกจากความเก่งระดับอัจฉริยะแล้ว วาทะ ตรรกะ ความคิด และบุคคลิกที่ไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไปเหล่านี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์กลายเป็นไอดอลของคนทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน
จนกระทั่งยุคศตวรรษที่ 21 (ศตวรรษปัจจุบัน)
นักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงก็จากโลกไป เริ่มมีการบุกเบิกเทคโนโลยี และนวัตกรรม จนเทคโนโลยีนั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราทุกคนไปแล้ว
แต่ทำไมนักวิทยาศาสตร์ในยุคปัจจุบันถึงไม่ค่อยโด่งดังเหมือนยุคก่อนๆ
หรือพวกเขา ไม่เก่ง ไม่ใช่อัจฉริยะ หรืออย่างไร?
จริงๆแล้วพวกเขาเก่งมากทีเดียวเลยค่ะ เก่งระดับอัจฉริยะกันหลายคนเลย นั่นก็คือ บิล เกต,สตีฟ จอบส์, อีลอนส์ มักซ์,มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก, ปีเตอร์ ธีล และเจบส์ เบสโซ เป็นต้น
หลายคนอาจรู้จักเขาในนามนักธุรกิจ แต่สำหรับดิฉัน พวกเขาคือนักวิทยาศาสตร์ในคราบนักธุรกิจนั่นเอง
หรือหากจะเปรียบเทียบง่ายๆ จะคล้ายๆกับ โทมัส อัลวาเอดิสัน และ อัลเฟรด โนเบล เลยค่ะ
จริงๆมีนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ในยุคเราที่หลายคนรู้จัก นั่นคือ สตีเฟน ฮอร์คิง หรือ คาร์ล เซเกน เป็นต้น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์สายนี้จะทำงานแนวคิด วิจัย เพื่อค้นคิดทฤษฎีใหม่ๆ ค้นพบปรากฏการณ์ต่างๆของธรรมชาติ (ซึ่งคล้ายกับยุคก่อนๆ)
แต่นักวิทยาศาสตร์ในคราบนักธุรกิจ จะเป็นสายต่อยอดความคิดของนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบแล้ว
มาต่อยอด ให้เกิดเป็นเทคโนโลยี และนวัตกรรมนั่นเอง
เนื่องด้วยบริบทสมัยก่อนกับปัจจุบันนั้นเปลี่ยนไปมาก เมื่อการคิดค้น ถูกนำมาพัฒนาต่อเป็นเทคโนโลยีและนวัตกรรมจึงมีบทบาทสำคัญต่อภาคธุรกิจที่กลายเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจโลก
ซึ่งเทคโนโลยีที่เราใช้ในปัจจุบันนั้น แรกเริ่มมาจากอุปกรณ์ที่ใช้สำรวจอวกาศทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ, ระบบGPS(ค้นพบจากทฤษฎี สัมพัธภาพของไอสไตน์), Google, ทีวี, คอมพิวเตอร์ หรือ ดิจิตัลต่างๆ เป็นต้น
ซึ่งการพัฒนาที่ประสบความสำเร็จ ก็มาจาก เหล่าเศรษฐีอัจฉริยะ ที่มีเลือดนักวิทยาศาตร์อยู่ในตัว
เคยสังเกตไหมคะ บุคคลที่รวยที่สุดอันดับต้นๆของโลก อย่างบิล เกต,สตีฟ จอบส์, อีลอนส์ มักซ์, ปีเตอร์ ธีล,มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก และเจบส์ เบสโซ ส่วนใหญ่จบจากสาขาฟิสิกซ์ คณิตศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ทั้งนั้น ก่อนที่จะประสบความสำเร็จกลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆของโลก พวกเขาต้องทดลอง ศึกษาและใช้ความอัจฉริยะที่มีทุ่มเททั้งหมดกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล
ดังนั้นถ้าถือว่านักวิทยาศาสตร์ยุคเราไม่ดังเหมือนยุคก่อน คงบอกได้ว่า ไม่จริง คนเหล่านี้ก็คือนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ ที่อยู่ในคราบนักธุรกิจนั่นเอง
ครั้งหน้า EP2 จะมาเล่าต่อว่า ทำไมเศรษฐีอันดับต้นๆของโลกที่มีชื่อเสียงถึงจบสายวิทยาศาสตร์มาและทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโลยีทั้งนั้น?ทำไมถึงประสบความสำเร็จมากมายขนาดนี้? ทำไมธุรกิจการซื้อขายผลิตภัณฑ์ทั่วไป ถึงไม่อยู่อันดับต้นๆ?
ติดตามต่อ ตอนที่2 นะคะ
2 สิงหาคม 2563
ท่านเด็ก
- 4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
