2 ส.ค. 2020 เวลา 14:38
#จันทร์เจ้าขาบทที่3ตอนที่3
(2/8/2020)
สวัสดีครับ เพื่อนๆ 😇
วันนี้ผมขอส่งจันทร์เจ้าขาบทที่3ตอนที่3 มาให้เพื่อนๆได้อ่านให้เพลิดเพลิน ในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้นะครับ ❤️💚💙😇
สุขสันต์วันอาทิตย์นะครับ ทุกคน ❤️💚💙
บทที่ 3 จิตประภัสสร
ตอนที่ 3 เจ้าพรหมน้อย
#บนเรือปิแอร์ณ.สยามประเทศ
ปาวี แกะซองจดหมายจากฝรั่งเศสที่มีตราประทับลำดับความลับสูงสุดของกระทรวงอาณานิคมด้วยความระมัดระวัง
จากนั้น เขาจึงเลื่อนเก้าอี้ถอยหลังออกไป เพื่อขยับหยิบเอาจดหมายในซองนั้นออกมาอ่าน..
จดหมายนั้นมีกลิ่นซิการ์..
ปนด้วยกลิ่นจางๆ ของน้ำหอม Eau de Cologne
สูตรตระกูล Farina ว่ากันว่า นี่ เป็นลักษณะเฉพาะตัวของจดหมาย (Scented letter) ที่ลงนามชื่อใน ครอบครัวคาร์โน่..
1
แขนขวานั้นคงจะกดทับจดหมายอยู่นาน ด้วยกลิ่นของโอเดอโคโลญจ์ และข้อมือนั้นก็กำลังตวัดเขียนด้วยลายมือ ที่มีความมุ่งมั่น และความคิดอันซับซ้อน .. ซ่อนอยู่ในแต่ละบรรทัด..
ควันและเถ้าซิการ์ ก็หล่นติดอยู่บนจดหมายอยู่พอสมควร ตามนิสัยที่ชอบอ่านตรวจทานจดหมายซ้ำไปซ้ำมาของคนในตระกูลนี้ ..
ก่อนที่จะเซ็นต์ลงนาม..ด้วยลายมือที่หนักแน่น สั่งการด้วยสิทธิอำนาจ..
ปาวี ค่อยๆหลับตา ใช้ความคิด..เมื่ออ่านจดหมายฉบับนั้นจบลง..
เสียงในหัวของปาวี เป็นเสียงของคาร์โน่จูเนียร์ ตามถ้อยคำที่อ่าน..ดังว่า
“เจ้าหน้าที่ของเราได้แจ้งกับผมว่า..คุณได้ใช้เวลาว่างจากงานกองโทรเลขอินโดไชนา-สยาม.. เป็นครูสอนภาษาฝรั่งเศส และยังถ่ายทอดวิชาการทำแผนที่ให้กับเหล่ายุวชนชาวสยามในราชสำนัก เป็นการลับๆ
..ผมจึงขอทราบความคิด และแผนการของคุณสักหน่อยว่า..
โดยภราดรภาพ..
คุณมีเหตุผลอะไรซ่อนอยู่กันแน่?!?..คุณถึงใช้เวลาอยู่ในสยาม นานกว่าแผนการที่ได้ตกลงกันในการหารือครั้งก่อน..
อย่างไรก็ตาม ผมขอให้คุณจงรีบเร่งออกจากสยาม และไปยังพนมเปญในทันที..โดยต้องออกจากสยาม..ภายใน 5 วันทำการนับตั้งแต่วันที่ได้เซ็นต์รับจดหมายฉบับนี้..
ส่วนจดหมายชี้แจงนั้น ขอให้คุณส่งโดยส่วนตัวให้ผมในภายหลัง ..
โดยละเอียด..อีกครั้ง
ขอแสดงความนับถือ,
ซาดิ คาร์โน..”
ปาวีระบายควันบุหรี่ยาว และลืมตา มองออกไปนอกหน้าต่างเรือ ทางฝั่งพระนคร สายตาจับนิ่งที่หอคอยสูง อยู่ครู่หนึ่ง แล้วรำพึงกับตัวเองว่า
“เมื่อหลายปีก่อน..
ข้าได้พบกับภราดรภาพแห่งประตูแห่ง
มิคาเอล.. ซึ่งข้าได้ขอให้ข้าได้พบกับเจ้าหนูปิแอร์ อีกครั้งหนึ่ง..ในชาตินี้”
“และข้าก็คิดว่า ข้าได้พบเจ้าหนูปิแอร์อีกครั้งแล้วจริงๆ.. ที่สยามประเทศแห่งนี้.. แต่ข้าได้พบกันเพียงไม่นาน..
พวกเจ้าประตูแห่งมิคาเอล..ก็จะให้ลูกชายของฮิปโปไลท์มาบังคับข้าให้แยกจาก เจ้าหนูปิแอร์อีกครั้ง..
หึหึ..พวกเจ้ายังรู้จักจ่าปาวีกระดูกเหล็ก.. ผู้ควบคุมหน่วยรบพิเศษคนนี้..
น้อยเกินไปสักหน่อยแล้ว..
ข้าเห็นถึงประสงค์แห่งพรของฮิปโปไลท์ที่ขอจากภราดรภาพประตูมิคาเอล..ให้เจ้าลูกคุณหนูคาร์โน่อย่างชัดแจ้ง..
ตั้งแต่ครั้งแรก..
ถ้าฮิปโปไลท์คิดว่า เจ้าลูกคุณหนูจะควบคุมหมากเรืออย่างข้าได้..
หึหึ..ข้าก็จะเร่งเดินตามแผนในหมากนี้ ให้สำเร็จ..แล้วมันก็จะพังทลายเร็วขึ้น
ตามประสงค์เช่นกัน..
อย่างที่เจ้านึกไม่ถึงเลยทีเดียว..เจ้าผู้กระหายอำนาจแห่งองค์จักรพรรดิ
แล้วข้าจะคอยดูว่า เจ้าจะรับมือกับความสูญเสียนี้อย่างไร.. ฮิปโปไลท์ผู้ปราดเปรื่อง.. หึหึหึ”
ปาวีจึงเปิดลิ้นชัก หยิบกระดาษ ขึ้นมาเตรียมเขียนจดหมาย 3 ฉบับ
โดยฉบับแรกนั้น ปาวีเขียนหัวเรื่องว่า ขอลาออกจากสถานภาพครูสอนพิเศษในราชสำนัก..สยาม
..
..
..
จดหมายฉบับที่สอง ถึง ผู้ว่าราชการพลเรือน อินโดไชน่า เลอ มีคร์ เดอ วีเลค์ (Charles Le Myre de Vilers)
..
..
และฉบับที่สาม ถึงทูตฝรั่งเศสประจำย่างกุ้ง หลุยส์ โวสิยง (Loius Vossion)
..
..
#ณ.คุ้มกลางเวียงเชียงใหม่
“มีข่าวลือถึงเหตุเพลิงไหม้ บ้านเรือน แลอาเพศโรคระบาด..รอบๆนอกเขตเมืองเชียงใหม่ มาตั้งแต่ปีที่แล้ว
กระผมก็คิดว่าไม่น่าจะร้ายแรง
แต่หากมาปีนี้ เหตุร้ายนี้กลับลามเข้ามาถึงเมืองเชียงใหม่..”
(เสียงกระซิบ)
“มีคนรายงานว่า ในทุกเหตุร้ายนั้น .. มีพยานหลายคนเห็นตรงกันว่า..มีร่างที่ไร้ศีรษะยืนถือดาบอยู่ในกองเพลิง ..ไล่ฟันแทงผู้ที่กำลังหนีออกมาจากกองเพลิง..”
“สำหรับอาเพศโรคระบาดเอง.. ก็มีพยานเห็นกันหลายคนว่า.. มีร่างที่ไร้ศีรษะ เดินอยู่ในยามวิกาล .. และหากร่างนั้นหยุดเดิน.. พลางชี้ดาบไปที่เรือนใด.. อีกไม่นาน เรือนที่ถูกชี้นั้น ก็จะเกิดอาเพศโรคระบาด..”
“เค้าลือกันว่าเป็น เจ้าพรหมน้อย โอรสของเจ้าไชยลังกา ทรงมาทวงคืนความยุติธรรมน่ะขอรับ..”
เจ้าพรหมน้อย และนางบัวตอง
(เสียงกระซิบ เบาลงกว่าเดิม)
“คราเจ้าอุปราช (บุญทวงษ์) ทรงสิ้นในปีที่แล้ว.. ก็มีพยานลือกันว่า.. ร่างไร้ศีรษะนี้ มายืนรำดาบอยู่หลายคืน กว่าพระองค์จะทรงสิ้นพระชนม์..
เจ้าอุปราช (บุญทวงศ์)
และเมื่อเจ้าอุปราช ทรงสิ้นพระชนม์นี่เอง..ร่างไร้ศีรษะจึงสามารถเข้ามาอาละวาดในเขตเมืองเชียงใหม่ ได้น่ะขอรับ” หนานปัญญา กราบทูลเสร็จ ก็ก้มลงหมอบกราบนิ่งกับเรือน รอฟังเจ้าทิพเกสรรับสั่งว่าจะให้กระทำการสิ่งใด ต่อไป..
“เจ้าจงไปบอกข่าว คุณหมอแมคกิลวารี เจ้าอุบลวรรณาและข้าหลวงอังกฤษว่าข้าประสงค์หารือ ในเรื่องเหล่านี้ .. ด้วยข้าร้อนใจ..จึงขอให้จงรีบมาพบข้าโดยเร็ว ในเย็นวันนี้.. “
“ส่วนเจ้าคำปอง..จงไปนำตัวเด็กน้อยที่รอดจากกองเพลิงมาพบข้าในเย็นวันนี้.. ข้าอยากจะรู้ถึงลักษณะชายไร้ศีรษะ ที่เด็กน้อยคนนั้นเผชิญหน้าในกองเพลิงวันก่อน.. จงรีบไปเถิด”
“แต่ในเรื่องนี้ขอเจ้าทั้งสอง จงกระทำให้เงียบอย่างที่สุด อย่าให้ผู้ใดรับรู้.. เกรงว่าจะเกิดการตระหนก จนวิปลาสกันไปใหญ่..”
เจ้าทิพเกสร สั่งด้วยพระสุรเสียงหวานใส แต่เด็ดขาด ตามลักษณะเฉพาะของพระองค์ท่าน..
..
..
..
เจ้าทิพเกสร
จบบทที่ 3 ตอนที่ 3 เพียงเท่านี้
ขอบคุณครับ
(T.Mon)
2/8/2020

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา