Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Spirits of Siam
•
ติดตาม
8 ส.ค. 2020 เวลา 13:15
#จันทร์เจ้าขาบทที่3ตอนที่4,(8/8/2020)
สวัสดีครับ เพื่อนๆ
วันนี้ผมขอส่งจันทร์เจ้าขา
ตอนล่าสุดมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านให้เพลิดเพลิน ในวัน เสาร์ และวันอาทิตย์นี้นะครับ 😇💚💙❤️
สุขสันต์วันเสาร์นะครับ 🥛😇
บทที่ 3 จิตประภัสสร
ตอนที่ 4 รอยสังหาร
#ณ.เมืองลำพูน บริเวณเขตหนองช้างคืน,
คุณหนูฆฤณ บรรจงม้วนจดหมายที่เขียนถึงคุณพ่อคุณแม่ เก็บใส่กระบอกไม้ไผ่สลัก..จากนั้นจึงปิดฝาที่มีตราท้าวเวสสุวรรณ..
และพันเชือกม้วนอีกครั้ง ..ก่อนจะหยิบใส่ย่ามสะพาย..สอดไว้ใต้ที่นั่งในกูบนั้น..
แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมาพบกับสายตา และรอยยิ้มของคุณหนูดี..
คุณหนูฆฤณ สะดุ้งเฮือกทีหนึ่ง.. กับรอยยิ้มกว้างของคุณหนูดี แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักว่า..
“นี่พี่หนูดี หรือ องค์แม่ นะเจ้าคะ?!?..”
คุณหนูดี ยิ้มตาเล็กและตอบด้วยเสียงใส กังวาลว่า...
“นี่พี่หนูดี เองค่ะ ..”
คุณหนูฆฤณ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ..ก่อนที่จะมองบรรยากาศไม้ใหญ่รอบๆ ที่โยกไหว ไปมา..
แล้วกระซิบถามพี่หนูดี ว่า
“ทำไม พวกเราถึงชอบมาอยู่ในบรรยากาศ วังเวง น่ากลัว ในยามวิกาล แบบนี้บ่อยๆเลยนะเจ้าคะ พี่หนูดี..
1
ที่นี่คือ ที่ไหนหรือเจ้าคะ คุณพี่??..”
หนูดีหันมองคุณหลวง ที่ยืนอยู่ห่างออกไป.. ตรงบริเวณต้นไม้ใหญ่ .. และจึงตอบว่า
“พวกเราอยู่ในเขตเมืองลำพูน บริเวณหนองช้างคืน น่ะค่ะ..”
คุณหนูฆฤณ เพ่งสายตาจ้องออกไปในความมืด มองตามพี่หนูดี แล้วถามต่อว่า
“คุณหลวงหนุ่ม ท่านคุยอยู่กับใครอยู่นะเจ้าคะ พี่หนูดี..”
หนูดี นิ่งสักครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับ ด้วยเสียงเบาๆว่า
“คุณหลวงท่าน กำลังซักถามนางบัวตอง อยู่น่ะเจ้าค่ะ..”
“นางบัวตอง เป็นใครกันรึเจ้าคะ คุณพี่..”
หนูดี หันกลับมายิ้มหวานให้หนูฆฤณ แล้วตอบด้วยเสียงเนิบๆว่า
“ผีนางบัวตอง เป็นคนรักของเจ้าน้อยพรหม นั่นละเจ้า..”
นางบัวตอง และเจ้าน้อยพรหม
คุณหนูฆฤณ ชะงักไปครู่หนึ่ง กับน้ำเสียงตอบของพี่หนูดี จึงกระแอมถามต่อเบาๆว่า..
“อ่ะแฮ่มๆ ..นี่พี่หนูดี หรือ องค์แม่นะเจ้าคะ..”
คุณหนูดี เอียงศีรษะเล็กน้อย ให้คุณหนูฆฤณ แล้วฉีกยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม นิ่งค้างไว้ ไม่ตอบใดๆ..
“ชัดเจน.. เลยเจ้าค่ะ”
คุณหนูฆฤณ ยกมือขึ้นกราบสวัสดีครั้งหนึ่ง .. ก่อนที่จะยกผ้าประเจียดขึ้นมาบังสายตา..
และหันหน้าไปมองกูบช้างของคุณหนูกร ..
ที่มีสมิงไพรหนุ่มถือปืนเฝ้าระวังภัยให้อยู่บนหลังม้า ข้างๆช้างนั้น ..
แล้วจึงรำพึง กับตัวเองว่า
“..คืนนี้ ขอย้ายไปนั่งกูบฟากโน้น แล้วค่อยกลับมาหากูบของพี่หนูดีตอนเช้า พรุ่งนี้.. จะได้มั้ยเจ้าคะ..”
..
..
..
#ณ.คริสตจักรที่ 1 เชียงใหม่,
1
คุณหมอ แมคกิลวารี หยิบแก้วน้ำชาส่งให้มิสเตอร์เอ็ดเวิร์ด ตัวแทนรัฐบาลอเมริกัน..ก่อนที่จะซักถามถึงเรื่องราว ของเจ้าน้อยพรหม จากหนานคำปองผู้เป็นสมาชิกของคริสตจักร ได้ความว่า..
คริสตจักรที่ 1 เชียงใหม่
“เจ้าน้อยพรหมวงศ์ เป็นโอรสของเจ้าไชยลังกา ที่ต้องโทษประหารน่ะขอรับ คุณหมอ..และยังเป็นน้องชายต่างมารดาของ “เจ้าดาราดิเรกรัตน์” เจ้าผู้ครองนครลำพูนองค์ที่ 7
อีกด้วยน่ะขอรับ”
“ด้วยเชื้อสายของเจ้าน้อยพรหมวงศ์ เป็นถึงขนาดนี้ แล้วเหตุอันใด.. จึงต้องโทษประหารนะครับ”
มิสเตอร์เอ็ดเวิร์ดเอ่ยแทรกถาม ด้วยความสงสัย..
“กระผมได้ยินเรื่องเล่าจากชาวบ้านหนองช้างคืนมาว่า
วันหนึ่ง มีช้างพังเชือกหนึ่งอาละวาดวิ่งเข้ามาจะทำลายเรือกสวนไร่นาของชาวบ้าน น่ะขอรับ ..
และเจ้าน้อยพรหม ก็อยู่ที่นั่นพอดี..องค์ท่านจึงเข้าปกป้องชาวบ้านด้วยความกล้าหาญ..โดยใช้ดาบฟันเข้าไปที่ตัวของช้างพังเชือกนั้น..จนวิ่งหนีเข้าไปยังป่าละเมาะและล้มลงขาดใจตรงนั้น..
แต่ทว่า ช้างเชือกนั้นเป็นของ “พระเจ้าอินทวิชยานนท์และเจ้าแม่ทิพย์เกสร” เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ที่โปรดให้ผู้ถือสาส์นยืมขี่มาถึงนครลำพูน น่ะสิขอรับ..”
หนานคำปอง หยุดพูดและลังเลครู่หนึ่ง..
จนมิสเตอร์เอ็ดเวิร์ด ต้องเร่งซักถามต่อว่า
“แล้วเหตุการณ์ต่อจากนั้น เป็นเช่นไร กันรึ หนานคำปอง.. เล่ามาเถิด.. “
หนานคำปอง หันหน้ามองคุณหมอ แมคกิลวารี ครั้งหนึ่ง และเมื่อคุณหมอ แมคกิลวารีพยักหน้าให้พูดต่อได้..
หนานคำปองจึงลดเสียงลงและเล่าต่อว่า..
“เมื่อ เจ้าราชสัมพันธวงศ์ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่รักนับถือกัน ในหมู่เจ้านายล้านนาและเป็นอาของ “พระเจ้าอินทวิชยานนท์” ทรงทราบเรื่อง ก็เรียกเจ้าน้อยพรหมไปตำหนิ ..และเรื่องก็เงียบลงอยู่พักหนึ่ง..ขอรับ”
“แต่ไม่มีใครทราบเลยว่า..เจ้าแม่ทิพย์เกสรยังโกรธแค้นว่าเป็นการหมิ่นเกียรติเจ้านครเชียงใหม่ ..
จนเมื่อเจ้าราชสัมพันธวงศ์ไปพักตากอากาศที่เมืองสันทราย ..เจ้าแม่ทิพย์เกสร จึงถือโอกาสล้างแค้น ด้วยการออกสาส์นในนามของพระเจ้าอินทวิชยานนท์ขอตัว “เจ้าน้อยพรหม” ไปสอบสวน..น่ะขอรับ..”
“เจ้าดาราดิเรกรัตน์ ก็ทรงเห็นว่าเรื่องคงจบไปตั้งแต่ที่เจ้าราชสัมพันธวงศ์ ได้ทรงตักเตือนไปแล้ว
จึงยอมส่งตัวเจ้าน้อยพรหมไปแต่โดยดี ..น่ะขอรับ..
ก่อนจะเดินทางเจ้าน้อยพรหมซึ่งก็คิดเช่นเดียวกับเจ้าดาราดิเรกรัตน์ผู้พี่ จึงได้แวะไปบอกลา สาวบัวตองนางอันเป็นที่รัก..เพื่อจะไปยังนครเชียงใหม่..”
“แต่ทว่า ..”
..
..
เสียงบานประตูโบสถ์ ดังแทรกขึ้น ..
เจ้าแม่อุบลวรรณา ค่อยๆปิดประตูอย่างช้าๆ
แล้วกล่าวทักทายว่า..
“หวังใจว่า ข้าคงจะไม่ได้ขัดจังหวะการสนทนาของคุณหมอและสมาชิกนะเจ้า..”
“เล่าต่อสิหนานคำปอง..
ข้าเองก็อยากฟัง เจ้าเล่าเช่นกัน..”
หนานคำปอง กลืนน้ำลายครั้งหนึ่ง และก้มหน้าไม่กล้าสบตา เจ้าแม่อุบลวรรณา ..
บรรยากาศในโบสถ์ เงียบลง และเย็นยะเยียบ..
ดังประหนึ่งว่ากำลังเผชิญหน้ากับ นางพญาสิงโต ผู้เป็นพญามัจจุราช ที่รอจะขย้ำ เหล่าลูกแกะของพระเจ้า...
..
..
..
จบบทที่ 3 ตอนที่ 4
..
..
..ร้อยเรียงข้อมูล
(T.Mon&Prame)
8/8/2020
บันทึก
30
101
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
นิยายจันทร์เจ้าขา
30
101
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย