4 ส.ค. 2020 เวลา 12:59 • หุ้น & เศรษฐกิจ
GOLD UPDATE : Demand ทองคำในไตรมาสที่ 2 ลดลง 11% แต่การถือครองโดยกองทุน ETF และรัฐบาลยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจัยสนับสนุนการพุ่งขึ้นของราคายังคงแข็งแกร่ง
1
กระแสเงินไหลเข้าตลาดทองคำจากกองทุน ETF ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์แทบจะหักล้างกับ Demand ที่ลดลงในภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยเฉพาะ Demand จากผู้บริโภคทั่วไปที่ลดลงอย่างมากเนื่องจากการระบาดของ COVID-19
Demand ทองคำในไตรมาสที่ 2 ลดลง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2019 สู่ระดับ 1,015.7 ตัน และ Demand ในช่วง 6 เดือนแรกของปีลดลง 6% สู่ระดับ 2,076 ตัน โดยเป็นผลมาจาก Demand ของผู้บริโภคที่ลดลงอย่างรุนแรง ขณะที่ Demand ในภาคการลงทุนนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก
นอกจากนี้ การตอบสนองโดยธนาคารกลางและรัฐบาลกลางทั่วโลก ผ่านการพิมพ์เงินเพื่ออัดฉีดสภาพคล่องและการลดอัตราดอกเบี้ย ได้เป็นเชื้อเพลิงให้เกิดการซื้อทองคำโดยกองทุน ETF มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 734 ตัน ซึ่งช่วยสนับสนุนให้ราคาทองคำพุ่งทะยานสู่ระดับสูงสุดตลอดกาลในหลายสกุลเงิน
โดยรวมแล้วราคาทองคำเพิ่มขึ้น 17% ในช่วงครึ่งปีแรกเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในทองคำแท่งและทองคำเหรียญลดลงอย่างรุนแรงถึง 17% ในไตรมาสที่ 2 สู่ระดับ 396.7 ตัน ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างพฤติกรรมของนักลงทุนชาวตะวันออกและตะวันตก เนื่องจาก Demand จากตลาดฝั่งเอเชียและตะวันออกกลางนั้นชะลอตัวลง ขณะที่ Demand จากนักลงทุนฝั่งตะวันตกกลับเพิ่มสูงขึ้น
Demand ทองคำในภาคเครื่องประดับสำหรับครึ่งปีแรกลดลงถึง 46% เมื่อเทียบปีต่อปี สู่ระดับ 572 ตัน ขณะที่ Demand จากภาคเทคโนโลยีลดลง 13% สู่ระดับ 140 ตัน โดยทั้ง 2 อุตสาหกรรมนี้ได้รับผลกระทบจากมาตรการ Lockdown
ขณะเดียวกัน การซื้อจากธนาคารกลางได้ชะลอตัวลงถึง 39% ในไตรมาสที่ 2 แม้ว่าพวกเขายังคงถือครองด้วยระดับสูงสุดตลอดกาล ซึ่งโดยรวมช่วงครึ่งปีแรกนี้ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำเพิ่ม 233 ตัน
ส่วนฝั่ง Supply ก็ได้รับผลกระทบจากการระบาดเช่นเดียวกัน โดยปริมาณผลผลิตลดลง 6% สู่ระดับ 2,192 ตัน ซึ่งคิดรวมทั้งภาคการขุดเหมืองและทองคำหมุนเวียนในตลาด
นักลงทุนมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับภาพรวมของเศรษฐกิจโลก ขณะที่กองทุน ETF ได้ถือครองทองคำไว้มากที่สุดอันดับ 2 ของโลกแล้ว หลังจากที่ระดับการถือครองของพวกเขาแซงหน้าระดับการถือครองในคลังสำรองของประเทศเยอรมนี โดยปัจจุบันเป็นรองเพียงการถือครองในคลังสำรองของสหรัฐฯ เท่านั้น ตามรายงานที่มีการเปิดเผยออกมาล่าสุดนี้
ทั้งหมดนี้ ได้กลายมาเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งสู่ระดับสูงสุดตลอดกาล ท่ามกลางการระบาดของ COVID-19 ที่ยังคงรุนแรงในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังได้แรงสนับสนุนจากความกังวลที่ว่าเงินกระดาษอาจเสื่อมค่าลงในอนาคต เนื่องจากการพิมพ์เงินอย่างมหาศาลของรัฐบาลจะทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ส่วนปัจจัยสำคัญอีก 2 อย่างก็คือความตึงเครียดด้านภูมิศาสตร์ทางการเมือง และหนี้สินของรัฐบาลที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าในขณะนี้ราคาทองคำในตลาด Futures จะพุ่งแตะระดับ 2,000 ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังมีการคาดการณ์ว่าราคาของมันจะพุ่งขึ้นไปได้อีกมาก ยกตัวอย่างเช่น Goldman Sachs Group Inc. ที่ออกมากล่าวว่าราคาทองคำอาจพุ่งขึ้นไปสู่ระดับ 2,300 $/Oz ขณะที่ RBC Capital Markets เพิ่มโอกาสที่ราคาจะพุ่งไปถึงระดับ 3,000 $/Oz เป็น 40%
ขณะเดียวกัน ประสิทธิภาพของทองคำได้เร่งความเร็วมากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ทองคำใช้เวลาประมาณ 4 เดือนจากการไต่ระดับจาก 1,650 $/Oz ไปเป็น 1,800 $/Oz แต่ล่าสุดนี้มันใช้เวลาไม่ถึง 4 สัปดาห์ในการไต่ระดับจาก 1,800 $/Oz ไปเป็น 1,950 $/Oz
อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงอยู่ว่าตอนนี้ค่าเฉลี่ยของ RSI ซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่าตลาดกำลังอยู่ในสภาวะที่มีการซื้อขายมากหรือน้อยเพียงใด ได้ทำระดับอยู่ที่ประมาณ 83 โดยตัวเลขของ RSI ที่มากกว่า 70 จะเป็นการบ่งบอกว่าตลาดมีการซื้อมากเกินไป (Overbought Zone) และตัวเลขที่สูงกว่า 80 จะเป็นการบ่งบอกว่าตลาดมีการซื้ออย่างมหาศาล (Extremely Overbought Zone)
ในทางกลับกัน หากตัวเลข RSI อยู่ต่ำกว่า 30 นั่นจะหมายถึงตลาดมีการขายมากเกินไป (Oversold Zone) และหากต่ำกว่า 20 ก็จะเป็นการบ่งบอกถึงการขายที่มหาศาล (Extremely Oversold Zone)
ดังค่า RSI ที่ระดับ 83 ในปัจจุบันนี้จึงกำลังบ่งบอกเราว่าทองคำกำลังอยู่ในภาวะตลาดกระทิงอย่างแข็งแกร่ง แต่ในทางกลับกันก็หมายถึงความเสี่ยงที่จะโดนเทขายอย่างรุนแรงในระยะสั้น ๆ
ส่วนเรื่องของสัญญาในตลาด Comex ที่ World Maker เคยอัพเดทไปว่าเป็นความเสี่ยงของเมื่อเดือนก่อน พบว่าล่าสุดมีทั้งสัญญาที่ปิดไปแล้ว และสัญญาที่ทำ Contract Roll (เลื่อนระยะเวลาการซื้อขาย) ออกไปในเดือนต่อ ๆ ไปแทน
โดยความเคลื่อนไหวตลอดเดือนที่ผ่านมาพบว่าในช่วงท้ายของเดือนกรกฏาคม มีการลดสัญญาซื้อขายของเดือนสิงหาคมลงไปอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันสัญญาเดือนธันวาคม 2020 ก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน
สัญญาเดือนสิงหาคมที่มีการส่งมอบทองคำกันจริง ๆ (กล่าวคือไม่ใช่การเก็งกำไร) ล่าสุดเหลืออยู่ 12,592 สัญญา ขณะที่สัญญาซื้อขายเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นจาก 139,818 เป็น 400,100 สัญญา
อย่างไรก็ตาม การถือครองสัญญา Sell โดยกลุ่ม Swap หรือธนาคารทองคำแท่งลดลงเพียงเล็กน้อยสู่ระดับ 262,796 สัญญา ซึ่งตรงนี้ World Maker คาดว่าจะมีการทำ Contract Roll เพื่อยืดระยะเวลาการซื้อขายของพวกเขาออกไป
ดังนั้นแล้วในปัจจุบันจะเห็นว่าสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของช่วงเดือนกันยายนไปจนถึงพฤศจิกายนยังคงเบาบางมาก เมื่อเทียบกับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของเดือนธันวาคมที่ปัจจุบันมี Volume สูงถึง 178,754 หน่วย
สรุปก็คือ ราคาทองคำในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ยังได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคอย่างแข็งแกร่ง และมีโอกาสสูงมากที่ราคาจะพุ่งขึ้นไปเหนือระดับ 2,000 $/Oz ได้ภายในปีนี้
ส่วนคำถามที่ว่า เราควรเข้าซื้อที่ราคาเท่าไหร่ดี ? ตรงนี้หากมองในมุมของ World Maker อยากให้ผู้อ่านรอการเทขายลงมาจากราคาปัจจุบันประมาณ 100-250 $/Oz ก่อนจึงจะเป็นราคาที่เหมาะสมในการเข้าไปลงทุนเพื่อถือครองในระยะยาวต่อไป
ยกตัวอย่างเช่น หากระดับปัจจุบันอยู่ที่ 2,000 $/Oz หากท่านต้องการจะลงทุนในทองคำ ก็ควรรอจนกว่าจะมีจังหวะที่ราคาลดลงมาเหลือ 1,900 $/Oz หรือ 1800 $/Oz จึงสมควรแก่การเข้าซื้อของท่าน
ทั้งนี้ หากพอร์ตของท่านมีทุนหนา และมีการบริหารความเสี่ยงที่ดีพอ ท่านอาจจะรอราคาทรุดตัวลงมาเพียง 50-100 $/Oz ก็สามารถเข้าซื้อและถือในระยะยาวได้เช่นกัน แต่ควรตั้ง SL ไว้ให้ดีด้วย
โปรดอ่าน !! ทิ้งท้ายเพื่อเตือนสติ
(1.) หากไม่ได้เกิดจากการศึกษาอย่างถ่องแท้ด้วยตนเอง หรือไม่เคยมีประสบการณ์จริงในตลาดหุ้น ท่านก็ไม่ควรจะปักใจเชื่อบทวิเคราะห์ใด ๆ ในทันที ถึงแม้ว่ามันจะน่าเชื่อถือแค่ไหนก็ตาม
(2.) หากจะปักใจเชื่อในบทวิเคราะห์ใด ๆ ก็ขอให้ผ่านทุกขั้นตอนนี้ไปก่อน
"อ่าน -> คิด -> พิจารณา -> พิสูจน์ด้วยตนเอง"
(3.) สุดท้ายแล้วไม่มีบทวิเคราะห์ใด จะถูกต้องเสมอ 100% ดังนั้นแล้วท่านจึงควรอ่านบทความนี้ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาและตัดสินใจ มากกว่าการอ่านเพื่อท่องจำ และเชื่อไปตามนั้น โดยไม่เคยคิดจะตั้งข้อสงสัยใด ๆ เลย
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา
World Maker
สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่
อยากลงทุน อยากมีเงินเก็บอย่างจริงจัง แต่ไม่มีพื้นฐาน World Maker มีคอร์สเรียนดี ๆ มาแนะนำให้ครับ รายละเอียดคลิกเลย !!

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา