9 ส.ค. 2020 เวลา 01:26 • หุ้น & เศรษฐกิจ
GOLD UPDATE : การกลับตัวขึ้นมาของอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงอาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำและหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี
การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนที่แท้จริง* (Real Yields Rate) อาจเปรียบเปรยได้กับการสาดน้ำเย็นเข้าใส่ความเร้าร้อนของตลาดทองคำและหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างมากในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
*ในที่นี้หมายถึงอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรที่หักลบกับอัตราเงินเฟ้อแล้ว
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ได้ฟื้นตัวขึ้นจากระดับติดลบที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ จนทำให้ราคาทองคำและดัชนี Nasdaq ซึ่งติดตามหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวต่ำลง ขณะที่ดัชนีเงิน Dollar ปรับตัวขึ้นมามากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Real Interest Rate) ก็ได้เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 30 วันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากมีรายงานการจ้างงานในเดือนกรกฎาคมที่แข็งแกร่งเกินคาดการณ์
ตลอด 2-3 เดือนมานี้ การลดลงอย่าต่อเนื่องของ Real Yields ได้เป็นแรงขับเคลื่อนให้นักลงทุนจำนวนมากเปลี่ยนทรัพย์สินของพวกเขาให้กลายเป็นทองคำ ส่งผลให้ราคาของมันพุ่งทะยานสู่ระดับสูงสุดตลอดกาลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
การกระตุ้นครั้งใหญ่ของ FED ก็ถูกมองเป็นอีก 1 ปัจจัยสำคัญที่จะระงับไม่ให้อัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ต่าง ๆ สูงขึ้นโดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาล และได้ทำให้หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีที่มีราคาสูงอยู่แล้วสามารถไต่ระดับขึ้นไปอีกได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากนักลงทุนยอมจ่ายกับอะไรก็ตามที่พวกเขามั่นใจว่าจะให้ผลตอบแทนในเชิงบวก ท่ามกลางวิกฤตที่มีความรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในรอบศตวรรษ
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเหล่านี้กำลังจะหมดไป หลังจากการเผยแพร่ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่เป็นบวก ซึ่งได้คลายความกังวลที่ตรึงให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอยู่ในระดับติดลบมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ โดย U.S. 10-Year Real Yield เพิ่มขึ้นกว่า 0.2% ในเวลาเพียง 5 ชั่วโมงของการซื้อขายในวันศุกร์
Sameer Samana นักกลยุทธ์ระดับอาวุโสฝ่ายการตลาดโลกของ Well Fargo Investment กล่าวว่า
"อัตราผลตอบแทนที่ต่ำลงเคยผลักดันให้ผู้คนย้ายทรัพย์สินของพวกเขาไปยังหุ้นที่กำลังเติบโต แต่ในทางกลับกันนั้น การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนก็จะไปชะลอกระแสเงินที่ไหลเข้าสู่หุ้นเหล่านั้น"
การที่อัตราผลตอบแทนปรับตัวสูงขึ้น ได้ทำให้ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 1.3% ซึ่งหักล้างกับการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 7 วันที่ผ่านมา ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวลง 2.3% ซึ่งเป็นการลดลงที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา หลังจากพุ่งทะยานขึ้นไปทำระดับสูงสุดตลอดกาลใหม่ที่ 2,075 $/Oz ส่วนเงินดอลลาร์แข็งตัวขึ้น 0.8%
Evercore ISI หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนของ Evercore ISI กล่าวว่า
"ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้นด้วยเหตุผลที่ดี นั่นก็คือตัวเลขการจ้างงานออกมาดีเกินคาดมาก และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์นั้นทำให้ราคาน้ำมัน และโลหะมีค่าลดลง"
World Maker's Viewpoint : แน่นอนว่าการปรับตัวขึ้นของพันธบัตรและเงินดอลลาร์นั้นจะส่งผลลบกับทองคำตามที่ได้อธิบายไปแล้วในเบื้องต้น แต่หากจะพูดกันในระยะยาวแล้วล่ะก็ World Maker ไม่อาจยืนยันได้ว่าการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์จะสิ้นสุดลงแต่เพียงเท่านี้
เนื่องจากธนาคารกลางและรัฐบาลต่างก็พิมพ์เงินออกมาอย่างมหาศาล ซึ่งเมื่อคำนวณปริมาณดูคร่าว ๆ แล้วนั้น พบว่าสามารถทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงได้อย่างมากทีเดียว ดังนั้นในอีกความหมายนึงก็คือ มีความเป็นไปได้สูงว่าการอ่อนค่าลงในครั้งนี้พึ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นในช่วงนี้ของอัตราผลตอบแทน อาจทำให้ราคาทองคำและหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงบ้างในช่วงไตรมาสที่ 3 นี้ หากฟื้นตัวนั้นในตลาดพันธบัตรนั้นมีความคงทนและต่อเนื่อง
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา
World Maker
สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่
อยากลงทุน อยากมีเงินเก็บอย่างจริงจัง แต่ไม่มีพื้นฐาน World Maker มีคอร์สเรียนดี ๆ มาแนะนำให้ครับ รายละเอียดคลิกเลย !!

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา