8 ส.ค. 2020 เวลา 05:31 • ประวัติศาสตร์
“Semion Mogilevich” อาชญากรที่ทรงอำนาจที่สุดในโลก
“Semion Mogilevich” เป็นผู้ทรงอิทธิพลแห่งโลกใต้ดินมาตั้งแต่ยุค 90 (พ.ศ.2533-2542) และได้รับการขนานนามว่าเป็น “อาชญากรที่ทรงอำนาจมากที่สุดในโลก”
เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจมืดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการค้ายาเสพย์ติด โสเภณี จนถึงการค้าอาวุธนิวเคลียร์ และเคยได้ชื่อว่าเป็นภัยต่ออิสราเอลและยุโรปตะวันออก
และที่เขาแตกต่างจากเจ้าพ่อคนอื่นๆ นั่นคือเขามีการศึกษา
เขาเรียนจบปริญญาทางด้านเศรษฐศาสตร์และการเงิน ทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นคนที่มีการศึกษาคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าเขาจะข้องเกี่ยวกับธุรกิจมืดก็ตาม
เขาเกิดในปีค.ศ.1946 (พ.ศ.2489) ที่ยูเครน โดยเขาเติบโตมาในครอบครัวที่มีพ่อแม่เป็นชาวยิว
Mogilevich เริ่มเข้าสู่วงการอาชญากรรมในยุค 80 (พ.ศ.2523-2532) เมื่อเขาได้ทำการหลอกลวงเพื่อนๆ ชาวรัสเซียเชื้อสายยิว ที่ต้องการจะอพยพไปอิสราเอลหรือรัสเซีย
Mogilevich สัญญาว่าเขาจะรับซื้อที่ดินและทรัพย์สินของครอบครัวผู้อพยพเหล่านี้ ก่อนจะนำไปขายทอดตลาดและแบ่งเงินให้อย่างยุติธรรม แต่สุดท้าย เขาก็โกงเงินทั้งหมดเข้ากระเป๋าตัวเอง ทำให้ถูกจับกุม
ในช่วงปลายของสหภาพโซเวียต ทหารผ่านศึกชาวรัสเซียจำนวนมากต่างไม่ได้รับโอกาสทางสังคมเท่าที่ควร พวกเขาจึงตั้งแก๊งอาชญากรรม และทำธุรกิจผิดกฎหมาย และเป็นช่วงที่แก๊งอาชญากรรมในรัสเซียเบ่งบาน
และช่วงเวลานี้เอง ก็เป็นช่วงที่ Mogilevich กำลังรุ่ง เขาได้ตั้งบริษัทปิโตรเลียมขึ้นมาบังหน้า แต่ที่จริงแล้ว ใช้เป็นที่ฟอกเงินให้กับแก๊งอาชญากรรมต่างๆ ซึ่งสร้างผลประโยชน์และอิทธิพลให้เขาอย่างมาก รวมทั้งเขายังเริ่มการค้าโสเภณี และมีบางคนที่เริ่มยกย่องเขาว่าเป็น “อาชญากรที่ทรงอำนาจที่สุดในโลก”
ต่อมา Mogilevich ได้ย้ายไปอิสราเอล ก่อนที่จะแต่งงานและย้ายไปยังปราก และได้เริ่มตั้งไนท์คลับขึ้นมาอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งต่อมา ไนท์คลับเหล่านี้เป็นที่ซ่องสุมของโสเภณี
ค.ศ.1993 (พ.ศ.2536) Mogilevich ได้ร่วมมือกับครอบครัวอาชญากรอีกครอบครัวหนึ่ง ร่วมกันทำธุรกิจค้าเพชรและของเก่า รวมทั้งงานศิลป์ต่างๆ ซึ่งแต่ละอย่างนั้น ล้วนแต่เป็นของที่ถูกขโมยมา
ปีต่อมา Mogilevich ได้ใช้เงินซื้อใบอนุญาตค้าอาวุธ และกว้านซื้อกิจการค้าอาวุธจำนวนมากในฮังการี และลือกันว่าเขายังค้าอาวุธนิวเคลียร์อีกด้วย
นอกจากนั้น เขายังซื้อสายการบินที่ล้มละลายของเอเชียกลาง โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้ในการขนเฮโรอีนจากสามเหลี่ยมทองคำ
1
ในช่วงเวลานี้ เอฟบีไอเริ่มจับตามอง Mogilevich เนื่องจากเขามีส่วนร่วมในการหลอกลวงนักลงทุนให้ลงทุนในบริษัทของเขา ซึ่งเขาได้ปลอมแปลงเอกสาร ทำให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นกว่า 2,000%
นอกจากนั้น เอฟบีไอยังได้รับข้อมูลอีกว่าเขานั้นได้ติดสินบนตำรวจฮังการีและหน่วยสืบราชการลับเยอรมัน ให้คอยป้อนข้อมูลศัตรูให้แก่เขา และยังทำให้ทางการเบลเยี่ยม ออสเตรีย และเยอรมนีไม่กล้าที่จะสืบสวนเขา เนื่องจากเขาได้รับความคุ้มครองจากหน่วยงานความมั่นคงในยุโรป และต่างก็มีผลประโยชน์ร่วมกัน
1
นอกจากนั้น เขายังหันเหธุรกิจ ลงทุนในธุรกิจก๊าซในรัสเซียอีกด้วย
แต่ Mogilevich ก็ถูกจับในปีค.ศ.2008 (พ.ศ.2551) ในข้อหาเลี่ยงภาษี แต่ได้รับการประกันตัวออกไป
ภายหลัง เขาถูกตั้งค่าหัวโดยเอฟบีไอ มีค่าหัวกว่า 100,000 ดอลลาร์ (ประมาณสามล้านบาท)
แต่จนถึงวันนี้ Mogilevich ก็ยังคงสุขสบาย เนื่องจากได้รับความคุ้มความจาก “Vladimir Putin” ผู้นำรัสเซีย โดยทั้งสองคนนี้มีความสนิทสนมกันอย่างดี
นอกจากนั้นยังมีกระแสข่าวว่า “Donald Trump” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก็มีความเกี่ยวข้องกับ Mogilevich เนื่องจากลูกน้องของ Mogilevich ได้เคยทำธุรกิจกับ Trump และเคยใช้อาคารของ Trump ในการฟอกเงิน และลูกน้องบางส่วนก็ยังเคยอาศัยอยู่ใน Trump Tower ของ Trump อีกด้วย
ปัจจุบัน Mogilevich นั้นอาศัยอยู่ในมอสโคว และมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มอิทธิพลต่างๆ รวมทั้งนักการเมืองยูเครนและรัสเซียอีกด้วย ทำให้เขายังคงสุขสบายดี
จึงอาจจะเรียกได้ว่าเขาเป็นอาชญากรที่ทรงอิทธิพลและยากที่จะแตะต้องคนหนึ่งของโลกก็ว่าได้
โฆษณา