20 ส.ค. 2020 เวลา 13:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
MovieTalk Special Series:
N - O - L - A - N Project 3:
F O L L O W I N G
Following เป็นหนังเรื่องแรกของ คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่ทำให้เห็นความเป็นคนช่างคิดเป็นระบบ และนำระบบความคิดนั้นมาสอดรับใช้งานในหนังได้อย่างมีชั้นเชิง และเต็มไปด้วยวิธีการเล่าเรื่องที่ยากจะคาดเดา วิธีนำเสนอที่ไม่เรียงตามเส้นเวลาเหมือนกับหนังปกติทั่วไป การใช้ภาพขาว-ดำในการนำเสนอหนังทั้งเรื่อง ก่อนที่ในเวลาต่อมาโนแลนจะนำมาใช้อีกครั้งในหนังเรื่องที่สอง Memento ที่กลายเป็นงานที่คนดูนอกอังกฤษได้รู้จักตัวเขา งานของเขามากขึ้นในเวลาต่อมา
MovieTalk จะพาคุณไปสำรวจชุดความคิดของ คริสโตเฟอร์ โนแลน ใน MovieTalk Special Series ชุด N – O- L – A- N Fด้วยการอุ่นเครื่องไปกับ 10 หนังของเทพโนแลน
Following (1998)
Directed: Christopher Nolan/Screenplay: Christopher Nolan/Music: David Julyan/Cinematography: Christopher Nolan/Edited: Gareth Heal, Christopher Nolan/Distributed: Momentum Pictures
Starring: Jeremy Theobald, Alex Haw, Lucy Russell, John Nolan
Running time69 Mins
ชายคนหนึ่งไร้งานทำเป็นหลักแหล่ง สิ่งที่เขาชอบทำคือการตามดูใครสักที่เดินไปมาบนท้องถนน ด้วยความสนใจใคร่รู้ชีวิตคนนั้น แต่กฎข้อหนึ่งของชายหนุ่มคือ เขาไม่ตามดูเป้าหมายซ้ำคนเดิม
แต่เมื่อเขาแหกกฎที่ตนเองตั้งไว้ เมื่อเขาตามดูชายชื่อ ค็อปป์ ชายใส่สูท ในครั้งที่สองและถูกจับได้ แต่แทนที่จะถูกแจ้งจับ ค็อปป์ชักนำชายหนุ่มเข้าสู่โลกแห่งการล่วงล้ำชีวิตคนอื่นอย่างมืออาชีพ ชายหนุ่มเริ่มถลำลึกเข้าสู่วิถีแห่งการติดตาม เขาเริ่มทำมากกว่าตามดูชีวิตสาวผมบลอนด์ที่พัวพันกับมาเฟีย และนำไปสู่เหตุพลิกผันสุดคาดเดา
คริสโตเฟอร์ โนแลน เริ่มต้นผลงานชิ้นแรกด้วย Following หนังยาวเรื่องแรกของตนเองด้วยการระดมหาทุนสร้างเอง นักแสดงในหนัง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อนฝูง คนรู้จักเป็นส่วนใหญ่ สถานที่ถ่ายทำส่วนใหญ่ก็คือที่พัก ร้านอาหารของคนกันเอง 6, 000 เหรียญ! คือทุนสร้างของหนังเรื่องนี้ ( ในขณะที่ Dunkirk หนังเรื่องล่าสุดของโนแลนใช้ทุนทาง 100 ล้านเหรียญ)
Following ถูกนำเสนอด้วยภาพขาว-ดำตลอดเรื่อง และสิ่งที่เป็นลายเซนต์ของโนแลนก็คือ วิธีเล่าเรื่องแบบไม่ตามลำดับเวลา ใครที่เคยดูหนังของโนแลนจะพบว่า หนังของเขาแทบจะทุกเรื่อง เรียกร้องสมาธิจากคนดูเป็นอย่างมาก ผ่านวิธีการเล่าเรื่อง แบบไม่ลำดับเวลา (หนังทั่วไปจะเล่าเรื่องแบบ 1 2 3...10 แต่หนังของโนแลน อาจจะเริ่มที่ 8 1 2 5 6 3 4 7 9 10) ซึ่งคงมีผู้กำกับไม่กี่คน ที่สามารถเล่าเรื่องแบบนี้ได้อย่างน่าติดตามและไม่มั่ว! นั่นทำให้เห็นถึงความเป็นระบบในชุดความคิดของโนแลน
ชายหนุ่มในหนัง แม้จะรู้ว่าคือพระเอกของหนังซึ่งปกติพระเอกคนดูย่อมให้ความเป็นคนดีแก่ชายหนุ่ม แต่ชีวิตประจำวันของเขาที่ไม่ปกติ คือ Follow ชีวิตคนแปลกหน้าที่เดินสวนกันบนท้องถนนด้วยความสนใจใคร่รู้ คนดูจึงไม่สนิทใจที่จะบอกว่าชายหนุ่มเป็นคนดี ซึ่งสถานการณ์จะเปลี่ยนทันทีถ้านี่คือหนังตลกตลก ซึ่งจะมีเหตุการณ์ชวนฮาตามมา แต่ในเมื่อมันอยู่ในมือของโนแลน Follow ย่อมมีอะไรที่ซับซ้อนกว่านั้น
ในขณะเดียวกัน โนแลนก็บังคับคนดู Follow ชายหนุ่มตามด้วยความสนใจใคร่รู้ ผ่านวิธีการเล่าเรื่องที่ไม่ตามลำดับเวลา ยิ่งทำให้คนดูอยากรู้มากขึ้นไปอีก
และเมื่อพิจารณาลึกลงไป เราจะพบว่าการดูหนังอย่างที่เราทำกันมาเป็นร้อยปีนั้นมันก็ไม่ต่างจากการ Follow ชีวิตคนอื่น โรงหนังที่ปิดไฟมืดภาพที่ใช้บนจอบอกเล่าเรื่องราว นี่คือการเล่นกับคำว่า Following ที่เป็นทั้งชื่อหนัง การกระทำของตัวละคร, คนดูตลอดจนวิธีการเฝ้าดูชีวิตคนอื่น ใครที่เคยดู Memento ( ผลงานเรื่องที่สองของโนแลน) จะเห็นวิธีการเดียวกันนี้ถูกนำมาใช้อย่างได้ผล และมีชั้นเชิงมากกว่าเดิม โดยเฉพาะตอนจบของหนังที่ทำให้คนดูไปไม่เป็นและอดไม่ได้ที่ต้องย้อนกลับไปดูหรือนั่งปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด Following ก็เช่นเดียวกันมีบทสรุปที่คาดไม่ถึง
ไม่น่าเชื่อว่าหนังที่ถูกสร้างเมื่อ 21 ปีก่อน แม้จะมีโอกาสได้ดูในเวลานี้ มันจะมีความ'ล้ำ'อยู่โดยที่กาลเวลาไม่สามารถทำอะไรได้ แล้วเป็นไงทุกวันนี้ใครต่อใครก็พร้อมจะ Follow ชีวิตคนแปลกหน้ากันจนเป็นเรื่องปกติ หรือไม่จริง?
สัญชาตญาณอย่างหนึ่งของมนุษย์คือการสนใจใคร่รู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องของตนเอง ยิ่งอยากรู้มากเป็นพิเศษ
ขอบคุณที่มาข้อมูล: IMDb, Wikipedia, Rotten Tomatoes, Youtube
ขอบคุณที่มาภาพประกอบ: IMDb, Wikipedia, Rotten Tomatoes, Twitter, The Playlist, Dailymotion, Whatculture.com, FilmLoverss

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา