โศกนาฏกรรมแดนกระทิง! สรุปเรื่องราว 'สงครามกลางเมืองสเปน' แบบ 10 ข้อรู้เรื่อง
WIKIPEDIA CC GRANDIOSE
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
สงครามกลางเมืองสเปนที่เกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1936 - 1939 เป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในประเทศสเปน ที่ต้องบอกว่าสงครามครั้งนี้เป็นหนึ่งในสงครามที่ซับซ้อนมากที่สุด แต่คู่กรณีหลักของสงครามก็คือฝ่ายสาธารณรัฐและฝ่ายกบฏชาตินิยมที่ขยายวงกว้างไปทั่วประเทศ และกล่าวได้ว่าสงครามครั้งนี้เป็นหนึ่งในจุดชนวนเริ่มต้นความขัดแย้งภายในทวีปยุโรป นับตั้งแต่ก้าวขึ้นสู่ปี ค.ศ.1930
และนี่คือเกร็ดสาระน่ารู้ของสงครามกลางเมืองสเปน 10 ข้อ ที่จะทำให้เรารู้ความเป็นมาของสงครามกลางเมืองที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของโลกเรา
1. สาเหตุหลักของสงครามกลางเมืองสเปนนั้นเกิดขึ้นด้วยหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งด้านศาสนา การต่อสู้ระหว่างแนวคิดทางการเมืองที่แตกต่างกันสุดขั้วอย่าง ฝ่ายที่นิยมระบอบประชาธิปไตย ระบอบเผด็จการ และระบอบคอมมิวนิสต์ แต่คู่กรณีหลักก็คือฝ่ายสาธารณรัฐที่มีแนวคิดต่อต้านเผด็จการและยึดมั่นในเสรีภาพ ในขณะที่กลุ่มกบฏชาตินิยมยึดมั่นในกฎหมายและคำสั่งที่เข้มงวด และให้การสนับสนุนศาสนาคริสต์และต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ แน่นอนว่ากลุ่มต่าง ๆ ของทั้งสองฝ่ายก็มีจุดมุ่งหมายและอุดมการณ์ที่ขัดแย้งกันอยู่ด้วยเช่นกัน
2. สงครามกลางเมืองสเปน เป็นสงครามที่ต่างฝ่ายต่างใช้โฆษณาชวนเชื่อที่เข้มข้นและรุนแรงเพื่อหาเสียงสนับสนุนฝ่ายตนเองและโจมตีอีกฝ่าย แต่ฝ่ายซ้ายดูจะได้เปรียบตรงที่แนวคิดของพวกเขาสามารถเข้าถึงหัวใจของคนรุ่นหลังได้ ในขณะที่ฝ่ายขวาจะเน้นไปที่แนวคิดแบบอนุรักษ์นิยมและศาสนาเป็นหลัก
WIKIPEDIA CCO
3. ในช่วงสงครามกลางเมืองสเปน หลายชาติในทวีปยุโรปวางตัวเป็นกลางไม่ขอเข้าไปยุ่งกับกิจการภายในของประเทศสเปน แต่ก็มีบางประเทศที่ให้การสนับสนุนคู่กรณีทั้งสองอย่างลับ ๆ เช่น อังกฤษและฝรั่งเศสวางตัวเป็นกลาง แต่ก็มีทหารอาสาเข้าไปช่วยรบให้ฝ่ายสาธารณรัฐที่ได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายสหภาพโซเวียตด้วยเช่นกัน ส่วนเยอรมนีและอิตาลีที่เป็นแกนนำฝ่ายฟาสซิสต์ ให้การสนับสนุนฝ่ายกบฏชาตินิยม
4. ในช่วงสงครามกลางเมืองสเปน มีทหารอาสาสมัครที่ถูกเรียกว่า ‘กองพลนานาชาติ’ จำนวน 32,000 นาย เข้ามาช่วยรบให้ฝ่ายสาธารณรัฐ โดยทหารอาสาสมัครเหล่านี้มาจากสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส กลุ่มประเทศเครือสหราชอาณาจักร และกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย ส่วนฝ่ายกบฏชาตินิยม ก็ได้รับความช่วยเหลือจากทหารอาสาจากเยอรมนี และประเทศอื่น ๆ ที่มีจำนวนทัดเทียมกับฝ่ายสาธารณรัฐด้วยเช่นกัน
WIKIPEDIA CC GRANDIOSE (ภาพแผนที่แสดงฐานที่มั่นของฝ่ายสาธารณรัฐ (สีคราม) ฝ่ายกบฎชาตินิยม (สีชมพู) ในเดือนกันยายน 1936
5. จอร์จ ออร์เวลล์ นักเขียนและนักข่าวชาวอังกฤษ คือหนึ่งในทหารอาสาสมัครที่เข้าไปช่วยรบในสงครามกลางเมืองสเปนกับฝ่ายสาธารณรัฐเพื่อต่อต้านพวกฟาสซิสต์ จนทำให้เขาและภรรยาถูกลอบสังหารโดยฝ่ายตรงข้าม ไม่เพียงเท่านั้น เขายังถูกหมายหัวจากพวกนิยมคอมมิวนิสต์อีกต่างหาก หลังจากรอดชีวิตกลับมา เขาได้เขียนหนังสือ ‘Homage to Catalonia’ ที่ตีพิมพ์ในปี ค.ศ.1938 โดยเป็นการเล่าเรื่องราวที่เขาได้พบเจอในช่วงสงครามกลางเมืองสเปน
WIKIPEDIA PD
6. ศาสนาคือประเด็นหลักที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งจนก่อให้เกิดสงคราม โดยก่อนเกิดสงคราม ฝ่ายสาธารณรัฐนั้นได้เชิดชูแนวคิดเรื่องอุดมการณ์ต่าง ๆ เช่น บทบาททางการเมือง สิทธิเสรีภาพ ศาสนาและกองทัพ จนทำให้ชาวสเปนที่เคร่งศาสนาไม่พอใจ โดยกลุ่มกบฏชาตินิยมนั้นมีความหลากหลายและบางครั้งก็เป็นปฏิปักษ์กันเอง แต่พวกเขามีเป้าหมายเดียวกันคือต่อต้านพวกคอมมิวนิสต์และยึดมั่นในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก โดยมีสำนักวาติกันให้การสนับสนุนพวกเขาในทางลับอีกด้วย
WIKIPEDIA CCO
7. สงครามกลางเมืองสเปนเริ่มต้นในวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ.1936 ด้วยการก่อรัฐประหารในประเทศโมร็อกโกที่เป็นอาณานิคมของสเปนในเวลานั้นโดยนายพล โฆเซ่ ซานฮัวโฆ กองทัพของเขาสามารถยึดพื้นที่ได้ราวหนึ่งในสามของประเทศสเปน ก่อนที่นายพลซานฮัวโฆจะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางเครื่องบินในอีกไม่กี่วันต่อมา นายพลฟรานซิสโก ฟรังโก จึงก้าวมาเป็นผู้นำฝ่ายกบฏชาตินิยมแทน หลังจากที่นายพลฟรังโกชนะสงครามกลางเมืองสเปน เขาได้ประหารชีวิตเข้าหน้าที่อาวุโสราว 200 คน ที่ยังภักดีต่อฝ่ายสาธารณรัฐ และหนึ่งในนั้นก็คือลูกพี่ลูกน้องของเขาเอง
WIKIPEDIA CCO
8. ยุทธการที่บรูเนตเต้ (Battle of Brunette) คือสงครามชี้ขาดระหว่างฝ่ายสาธารณรัฐและฝ่ายกบฏชาตินิยม ฝ่ายสาธารณรัฐได้เปิดฉากบุกฝ่ายกบฏชาตินิยมที่ตั้งมั่นอยู่ทางทิศตะวันออกของกรุงมาดริดและยึดพื้นที่มาได้ แต่สุดท้ายนายพลฟรังโกได้ตอบโต้กลับจนสามารถยึดพื้นที่กลับมาอีกครั้ง สงครามครั้งนี้ไม่มีผู้ชนะอย่างเด็ดขาด แต่ขวัญกำลังใจฝ่ายสาธารณรัฐเริ่มตกต่ำลง อาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีเริ่มร่อยหรอมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตรวมกันกว่า 40,000 คน และมีรถถังที่ถูกทำลายในสงครามกว่า 100 คน
9. ปาโบล ปิกัสโซ จิตรกรเอกชาวสเปนได้วาดภาพ ‘Guernica’ ที่อ้างอิงมาจากเหตุการณ์จริงในช่วงสงครามกลางเมืองสเปนในปี ค.ศ.1937 โดยในตอนนั้น เมืองกัวร์นิก้า คือฐานที่มั่นสำคัญของฝ่ายสาธารณรัฐทางตอนเหนือ และเมืองแห่งนี้ได้ถูกฝูงบินรบของเยอรมนีทิ้งระเบิด จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเด็กและผู้หญิง ส่วนผู้ชายภายในเมืองส่วนใหญ่ถูกส่งไปรบกันหมด
WIKIPEDIA FAIR USE
10. จำนวนผู้เสียชีวิตในสงครามกลางเมืองสเปนคาดว่าอาจมีจำนวนผู้เสียชีวิตราว 150,000 - 1,000,000 คน สงครามกลางเมืองสเปนสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินจนประเมินค่าความเสียหายไม่ได้ ภายหลังจากสงครามกลางเมืองสเปนยุติลง ได้เกิดโรคระบาดและโรคขาดสารอาหาร และสเปนต้องใช้เวลาหลายทศวรรษกว่าจะฟื้นตัว เนื่องจากสเปนถูกนานาชาติดบอยคอตจนถึงปี ค.ศ.1950 เพราะสเปนภายใต้การปกครองของนายพลฟรังโกนั้นนิยมในลัทธิเผด็จการ
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
