18 ส.ค. 2020 เวลา 16:51 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
Wernher Von Braun แท้จริงแล้วเขาคือจอมวายร้ายหรือเจ้าวิสัยทัศน์แห่งยุคกันแน่??
ชายผู้อยู่เบื้องหลังการไปเหยียบดวงจันทร์ของอเมริกา
หลายคนคงจะสงสัยว่าใครเหรอ? . . .
แวร์นแฮร์ ฟ็อน เบราน์ (Wernher von Braun) วิศวกรและสถาปนิกอวกาศชาวเยอรมัน ผู้ที่ช่วยให้อเมริกาปล่อยดาวเทียมดวงแรกของชาติได้สำเร็จ และช่วยพามนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์ ในอเมริกาเขาถูกยกย่องให้เป็น "บิดาแห่งจรวดและวิทยาศาสตร์อวกาศ"
แต่เขาก็คือคนที่พัฒนาจรวด V2 ให้กับกองทัพนาซีในสงครามโลกครั้งที่2 ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 9,000 คน ผลงานนี้เป็นเหมือนเงามืดที่ปกคลุมผลงานเอกอุของเขาจนวันตาย
เบราน์ เกิดเมื่อ 23 มีนาคม 1912 ในตระกูลมีเกียรติที่เมือง Wirsitz ซึ่งปัจจุบันเป็นเมือง Wyrzysk ประเทศโปแลนด์
ฉายแววโดนเด่นด้วยการจบปริญญาเอกสาขาฟิสิกส์ด้วยอายุเพียง 22 ปี ก่อนเข้าร่วมกับกองทัพนาซีในฐานะเจ้าหน้าที่พลเรือนระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ฟ็อน เบราน์ เมื่อครั้งยังร่วมงานกับกองทัพนาซี
เห็นโปรไฟล์หรูอย่างนี้แต่ เบราน์ นั้นเคยตกทั้งเลขและฟิสิกส์สมัยเรียนมัธยมด้วยที่เขาทุ่มเทไปกับการเอาดีด้านภาษาศาสตร์ จนมาได้ยินทฤษฏีการเดินทางสู่อวกาศและดาราศาสตร์ที่ทำให้เขาเบนเข็มมาเอาดีด้านคณิตและฟิสิกส์เมื่อตอนอายุ 20 ปี
โดยวิทยานิพนธ์จบของเบราน์ ที่มหาวิทยาลัยเบอร์ลินนั้นเป็นเรื่องทฤษฏีและการทดสอบเครื่องยนต์จรวดขนาด 300 ถึง 660 ปอนด์
จนมาในปี 1934 เบราน์และทีมงานประสบความสำเร็จในการปล่อยจรวดขึ้นไปได้สูงมากกว่า 2.4 กิโลเมตร แต่ด้วยคำสั่งของพรรคนาซีทำให้การทดลองทั้งหมดต้องยุติยกเว้นว่าจะเป็นการพัฒนาภายใต้การบริหารงานของกองทัพเท่านั้น
ทั้งนี้ เบราน์ ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคนาซีตั้งแต่ปี 1937 แต่ภายหลัง เบราน์ ให้การว่าเขาถูกบังคับโดยหน่วยตำรวจลับหรือ SS
ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่า เบราน์ตั้งใจเข้าร่วมกองทัพเพื่อสานต่อการทดลองของเขา หรือถูกบังคับกันแน่ ซึ่งภายหลังเบราน์ย้ำเสมอว่าความสนใจหลักของเขาคือการพัฒนาเทคโนโลยีจรวดเพื่อการเดินทางสู่อวกาศ และไม่ชอบเลยที่ต้องถูกใช้ในสงคราม
ภายใต้การนำทีมของเบราน์ กองทัพนาซีสามารถพัฒนาจรวด V2 ที่น่าพรั่นพรึ่งสำหรับกองกำลังสัมพันธมิตร ด้วยความเร็วเหนือเสียงพุ่งเข้าสู่เป้าหมายแบบไร้การเตือนล่วงหน้า
การทดสอบจรวด V2 โดย NASA
เมื่อจรวด V2 ลูกแรกพุ่งเข้าสู่นครลอนดอนได้สร้างความตื่นตะลึงให้กับกองทัพอังกฤษเป็นอย่างมากกับอาวุธมหาประลัยที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน
* * จรวด V2 * *
สิ่งประดิษฐ์แรกของมนุษย์ที่เรียกได้ว่าสามารถบินขึ้นไปแตะขอบอวกาศได้ เพราะระยะบินสูงถึง 88 กิโลเมตรจากพื้น ความเร็วสูงสุดกว่า 5,600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร็วกว่าเสียงร่วม 4 เท่า
ด้วยความยาว 14 เมตร น้ำหนักกว่า 13.2 ตัน บรรทุกหัวรบขนาด 1 ตัน ระยะยิงไกลกว่า 320 กิโลเมตร เครื่องยนต์ของจรวด V2 นั้นสามารถสร้างแรงยกได้กว่า 60,000 ปอนด์
ส่วนประกอบของจรวด V2
จรวด V2 ถือเป็นการเปิดศักราชของขีปนาวุธและจรวดสมัยใหม่ มันได้สร้างผลงานด้วยการสังหารผู้คนเกือบ 9,000 คนไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จากการยิงทั้งหมด 3,000 ลูกตั้งแต่เดือนสิงหาคม 1944
แต่เคราะห์ดีที่ความแม่นยำของจรวด V2 นั้นต่ำ โดยมีอัตราการยิงเข้าเป้าหมายที่ต้องการเพียง 1 ใน 5 เท่านั้น ถ้าหากจรวด V2 นั้นมีระบบนำวิถีแบบเดียวกับขีปนาวุธในปัจจุบันแล้วละก็นั่นย่อมหมายถึงฝันร้ายของประเทศอังกฤษแน่นอน
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เบราน์และทีมของเขาได้ยอมจำนนต่อกองกำลังสัมพันธมิตรในปฏิบัติการ "Paper Clip" โดยข้อมูลงานวิจัยถูกเก็บรักษาไว้ไม่ได้ถูกทำลายตามคำสั่งของกองทัพนาซี
ทั้งนี้ปฏิบัติการ "Paper Clip" นั้นจุดมุ่งหมายหนึ่งคือการรวบรวมเหล่ามันสมองของเยอรมัน ทั้งนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร ช่างชำนาญงาน เพื่อนำมาใช้ประโยชน์กับอเมริกาในอนาคต โดยสามารถกวาดต้อนไปได้กว่า 1,600 คนโดยหนึ่งในนั้นก็คือ เบราน์
ส่วนหนึ่งของทีมมันสมองของนาซีที่กวาดต้อนมาได้จากปฏิบัติการ "Paper Clip"
จากการสาธิตเทคโนโลยีจรวด V2 ทำให้เบราน์ได้รับตำแหน่ง Director of NASA’s Marshall Space Flight Center หลังจากการก่อตั้ง NASA ในปี 1958
โดยหนึ่งในผลงานเด่นของเบราน์และทีม คือทำให้อเมริกาสามารถปล่อยดาวเทียมดวงแรกของตนสำเร็จได้ในเดือนมกราคม 1958 หลังจากอดีตสหภาพโซเวียตออกตัวนำไปก่อนด้วยดาวเทียมสปุกนิค 1 และ 2 ในปี 1957
ที่ NASA เบราน์ ได้นำทีมพัฒนาเทคโนโลยีจรวดอันนำไปสู่ จรวด SaturnV หนึ่งในจรวดที่ทรงพลังที่สุดในโลกตราบจนทุกวันนี้
เครื่องยนต์ F-1 ทั้ง 5 ของจรวดท่อแรกของจรวด SaturnV
ซึ่งเครื่องยนต์ F-1 ของจรวด SaturnV แต่ละเครื่องนั้น ให้แรงขับกว่า 1.5 ล้านปอนด์ หรือกว่า 25 เท่าของเครื่องยนต์จรวด V2
เมื่อรวมกันจรวด SaturnV นั้นจะมีแรงขับกว่า 7.5 ล้านปอนด์ในการพุ่งทะยานออกจากแท่นปล่อย แรงมหาศาลนี้เพื่อที่จะยกเอาตัวจรวดที่สูงกว่า 111 เมตร หนักกว่า 28,000 ตันไปสู่ดวงจันทร์ได้
หน้าตาและ Spec ของเครื่องยนต์ F-1
เครื่องยนต์ F-1 ของจรวด SaturnV ยังคงถือครองสถิติเครื่องยนต์จรวดห้องเผาไหม้เดี่ยวที่ให้กำลังขับสูงสุดต่อเครื่อง (เครื่องยนต์ raptor ของ SpaceX ให้แรงขับที่ 500,000 ปอนด์ต่อเครื่องหรือแค่ 1 ใน 3 ของเครื่อง F-1)
ทั้งนี้หลักการทำงานของเครื่องยนต์จรวด V2 นั้นเรียกได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของเครื่องยนต์จรวดในปัจจุบันเกือบทั้งหมดเลยทีเดียว
เบราน์ ลาออกจาก NASA ในปี 1972 แต่ก็ยังได้ใช้ความรู้ความสามารถของเขาในการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้กับอเมริกาตราบจนวาระสุดท้ายของเขาในปี 1977 ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัล prestigious National Medal of Science ในปี 1975
วายร้ายหรือเจ้าแห่งวิสัยทัศน์คงไม่มีใครจะบอกได้ แต่ที่แน่นอนคือสิ่งที่มาจากมันสมองของเขาได้นำพามนุษยชาติไปเหยียบดวงจันทร์

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา