19 ส.ค. 2020 เวลา 16:02 • ประวัติศาสตร์
ศึก2ตำหนัก สามก๊กฉบับคนขายชาติ
ในยุคสมัยของเลนเต้ ตั๋งไทเฮามีอำนาจวาสนามาก เพราะเป็นพระราชชนนี ในขณะที่โฮไทเฮาขณะนั้นเป็นลูกสะใภ้ ต้องอยู่ภายใต้บังคับของไทเฮาตามกฎราชสำนัก เหตุนี้ตลอดยุคสมัยนั้นแม้มีข้อระหองระแหงระหว่างแม่ผัวกับลูกสะใภ้เกิดขึ้นบ้าง ก็ไม่รุนแรงนัก เพราะฝ่ายแม่ผัวอิ่มอยู่ด้วยอำนาจ และลูกสะใภ้ต้องตกอยู่ในสภาพจำยอม การข้างในจึงดูสงบเรียบร้อยเป็นปกติ
ครั้นสิ้นแผ่นดินเลนเต้ หองจูเปียนได้เสวยราชสมบัติแล้วสถานการณ์ย่อมเปลี่ยนแปลงไป โฮไทเฮากลับมีฐานะเป็นพระราชชนนี มีอำนาจวาสนาเพิ่มขึ้น ในขณะที่ตั๋งไทเฮากลายเป็นคนแก่ที่เคยมีอำนาจ แต่ยังคงติดยึดในอำนาจนั้น ความระหองระแหงที่ถูกข่มไว้แต่กาลก่อนจึงเกิดขึ้น
อุปมาดังหญ้าแพรกถูกก้อนหินใหญ่ทับไว้ เจริญงอกงามไม่ได้ ครั้นบัดนี้หินก้อนใหญ่นั้นถูกยกออกไปแล้ว หญ้าแพรกย่อมถึงคราวเจริญงอกงามฉันใด ความขัดแย้งระหว่างแม่ผัวกับลูกสะใภ้ก็อุปไมยฉันนั้น
หลังจากเหล่าขุนนางได้พร้อมกันสถาปนาหองจูเปียนขึ้นเป็นกษัตริย์ โดยการจัดการของโฮจิ๋นแล้ว วันรุ่งขึ้นหองจูเปียนกษัตริย์ผู้เยาว์ จึงได้ออกนั่งบนพระราชบัลลังก์ ท่ามกลางมหาสมาคมของเหล่าขุนนาง แต่เนื่องจากยังไม่มีการแต่งตั้งผู้ใดเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ดังนั้นโฮไทเฮาพระราชชนนีจึงอาศัยอำนาจตามกฎมณเฑียรบาลช่วยว่าราชการหลังม่าน
ในมหาสมาคม ฮ่องเต้พระองค์น้อยโปรดเกล้าฯ ให้แต่งตั้งโฮจิ๋นพี่ชายโฮไทเฮาเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน และตั้งให้โฮเบี้ยวน้องชายโฮไทเฮาเป็นผู้ช่วยผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน นอกนั้นโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนยศโดยถ้วนหน้ากัน
ณ บัดนี้ผู้คนในตระกูล โฮ ได้เข้าครองอำนาจรัฐภายใต้บัลลังก์มังกรของฮ่องเต้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ในขณะที่เหล่าขุนนางที่เป็นพวกก็ได้รับผลประโยชน์เลื่อนตำแหน่ง และยศศักดิ์ถ้วนหน้ากัน
การออกว่าราชการหลังม่านของโฮไทเฮาในครั้งนี้ มิได้ผ่านการปรึกษาหารือใดๆ กับตั๋งไทเฮา ดังนั้นเมื่อความทราบถึงตั๋งไทเฮา จึงทรงแค้นพระทัยยิ่งนักที่โฮไทเฮากระทำการประหนึ่งข้ามหน้าข้ามตาราวกับว่าพระองค์ไร้ความหมายใดๆ ในราชสำนักแล้ว
ความน้อยใจของคนแก่บวกเข้ากับความขัดแย้งระหองระแหงระหว่างแม่ผัวกับลูกสะใภ้ที่ตกตะกอนอยู่จึงคละคลุ้งขึ้นมาเต็มหัวอก น้ำพระทัยตั๋งไทเฮาเต็มไปด้วยแรงริษยาพยาบาทถึงขนาดต้องการล้มราชบัลลังก์เพื่อแก้แค้นโฮไทเฮาสถานหนึ่ง และเพื่อให้หองจูเหียบ ผู้หลานที่เลี้ยงมากับมือได้ครองราชสมบัติอีกสถานหนึ่ง
แต่ทว่าอาจมีวาระซ่อนเร้นอยู่ในใจของตั๋งไทเฮาก็เป็นได้ว่าหากหองจูเหียบผู้หลานได้ครองราชสมบัติแทนหองจูเปียนพระโอรสในโฮไทเฮาแล้ว ก็จะทำให้โฮไทเฮาสิ้นอำนาจลง ในขณะที่ตั๋งไทเฮาจะกลับมีบทบาทและพระราชอำนาจเหมือนดังเดิม หรือมากกว่าเดิม
ทั้งนี้เพราะหองจูเหียบกำพร้าแม่ มาบัดนี้กำพร้าพ่อซ้ำเข้าไปอีก ตั๋งไทเฮาซึ่งเป็นผู้เลี้ยงดูมาแต่น้อย ทั้งมีราชศักดิ์เป็นถึงย่าของฮ่องเต้ อำนาจจึงย่อมต้องตกแก่ตั๋งไทเฮาแต่ผู้เดียว จากนั้นไปการถือโอกาสกำจัดโฮไทเฮาเสียก็จะสะดวกเท่ากับการยิงกระสุนนัดเดียว ได้นกถึงสองตัว
มีดำริดั่งนี้แล้ว จึงโปรดให้หาสิบขันทีมาปรึกษาถึงในพระตำหนัก บอกความขุ่นข้องในพระทัยและความประสงค์ให้สิบขันทีทราบแล้วจึงว่านับแต่สิ้นบุญพระเจ้าเลนเต้ ชะตากรรมของสิบขันทีภายใต้บัลลังก์ของหองจูเปียน นั้นต้องเผชิญเฉียดเฉี่ยวประตูยมโลกอยู่เสมอ เพราะทั้งโฮจิ๋นและอ้วนเสี้ยวหาทางสังหารกำจัดเสียอยู่ทุกลมหายใจ ย่อมต้องมีวันพลาดพลั้งเข้าสักวันหนึ่ง เราทั้งสองฝ่ายต่างมีชะตากรรมอย่างเดียวกัน แล้วจะทำฉันใดดี
เตียวเหยียงซึ่งเป็นหนึ่งในสิบขันทีจึงทูลเสนอความเห็นว่า วันพรุ่งนี้เช้าเชิญพระองค์เสด็จออกไปยังพระแกลที่พระเจ้าเลนเต้เสด็จออก แล้วตรัสว่าให้หองจู เหียบเป็นเจ้าต่างกรม ชื่อว่าตันสิวอ๋อง แล้วให้ตั้งตั๋งต๋งผู้น้องพระองค์เป็นเสนาบดีผู้สำเร็จราชการฝ่ายทหาร ขอให้ตั้งข้าพเจ้าทั้งสิบคนนี้เป็นขุนนางผู้ใหญ่ ซึ่งราชการทั้งปวงนั้นจะได้คิดการสืบไป
เป็นอันว่าสิบขันทีตกลงเข้าร่วมขบวนการกับตั๋งไทเฮา วางแผนอย่างเป็นขั้นตอนเพื่อเตรียมการยึดอำนาจต่อไป ตั๋งไทเฮามีความยินดียิ่งนัก
ครั้นเวลาเช้าตั๋งไทเฮาจึงอุ้มหองจูเหียบผู้หลานเสด็จออกไปที่พระแกลตามคำทูลของเตียวเหยียง มิได้เปิดมู่ลี่ขึ้นและได้ตรัสตามคำของเตียวเหยียงทุกประการ
ขุนนางข้าราชการได้แต่งงงวย เพราะบัดนี้มีผู้สำเร็จราชการแผ่นดินเพิ่มขึ้นอีกผู้หนึ่งคือตั๋งต๋ง พระอนุชาในตั๋งไทเฮา และสิบขันทีก็กลับคืนสู่อำนาจเป็นขุนนางผู้ใหญ่มีสิทธิเข้าร่วมปรึกษาราชการแผ่นดินเหมือนยุคสมัยเลนเต้ทุกประการ แต่เพราะความรักตัวกลัวตายไม่มีผู้ใดกล้าขัด การทั้งปวงจึงได้รับการปฏิบัติไปตามรับสั่งของตั๋งไทเฮานั้น
ฝ่ายโฮไทเฮาเมื่อทราบข่าวตั๋งไทเฮาออกว่าราชการหลังม่านก็โกรธหนัก เพราะเข้าใจได้ว่าอำนาจแห่งราชสำนักที่อยู่ในมือพระองค์กำลังจะถูกแย่งชิง และรูปการณ์ส่อเค้าว่าจะเกิดการรัฐประหารยึดอำนาจรัฐ เพราะมีการแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแผ่นดินขึ้นอีกคนหนึ่ง และให้เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินด้านการทหารเสียด้วย เกิดความประหวั่นขึ้นในพระทัย แต่ยังหวังว่าปัญหาระหว่างแม่ผัวกับลูกสะใภ้อาจหาข้อยุติประนีประนอมกันเองได้
ดังนั้นโฮไทเฮาจึงให้แต่งโต๊ะเสวย แล้วให้เชิญตั๋งไทเฮามาหารือเป็นการส่วนพระองค์ ตั๋งไทเฮารับคำเชิญเสด็จมายังตำหนักโฮไทเฮา โดยสิบขันทีได้เข้าถวายงานตามปกติ
โฮไทเฮาแสดงความคารวะแล้วคำนับตั๋งไทเฮาด้วยน้ำจันทน์แล้วว่าพวกเราเป็นอิสตรี ชอบที่จะดูแลการฝ่ายใน หาควรเข้ายุ่งเกี่ยวด้วยการฝ่ายหน้าอันเป็นราชการบ้านเมืองไม่ เพราะไม่เพียงแต่จะผิดกฎมณเฑียรบาลเท่านั้น ยังจะก่อความสับสนเสียหายแก่บ้านเมืองแลราษฎรได้
พร้อมทั้งยกตัวอย่างครั้งพระเจ้าฮั่นโกโจเสด็จสวรรคต พระนางลิเฮาพระมเหสีออกว่าราชการหลังม่านทำให้การแผ่นดินฟั่นเฟือนไป ขุนนางข้าราชการและราษฎรได้รับความเดือดร้อน เกิดการจลาจลขึ้น ในที่สุดพระนางลิเฮาพร้อมด้วยพระญาติกว่าพันชีวิตต้องถูกสังหารหมดสิ้น แลพระองค์กับข้าพเจ้าเป็นสตรี จะออกว่าราชการเมืองนั้นไม่สมควร ถ้ามิฟังข้าพเจ้าเห็นจะเป็นอันตรายเหมือนพระนางลิเฮา
ตั๋งไทเฮายินคำโฮไทเฮาแล้ว ถือว่าเป็นสะใภ้บังอาจสั่งสอนแม่ผัวจึงแค้นใจนัก แรงโทสะริษยาพยาบาทครอบงำพระทัยจึงตรัสว่า ตัวมิได้มีสัตย์ กอปรด้วยหึงสา พาลเอาความผิดนางอองบีหยินแล้ว ให้เอาไปฆ่าเสีย บัดนี้ลูกของตัวได้เป็นใหญ่ ตัวมิได้ยำเกรงเรา มาว่ากล่าวถ้อยคำหยาบช้าดูหมิ่นเปรียบเทียบเราดังนี้ เราหาฟังไม่ ถึงมาตรว่าโฮจิ๋นพี่ของตัวซึ่งได้เป็นเสนาบดีผู้ใหญ่นั้น เพียงแต่ตั๋งต๋งผู้น้องเราจะตัดเอาศีรษะโฮจิ๋นก็จะได้ในลัดนิ้วมือเดียวด้วยง่าย
โฮไทเฮาฟังแล้วเลือดขึ้นหน้าเหมือนกัน ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วว่าเราเห็นผิดช่วยเตือนสติแล้วยังกลับมาโกรธอีกเล่า ตั๋งไทเฮาก็ไม่ยอมแพ้ แล้วบริภาษว่าโฮไทเฮาเป็นผู้น้อยมาก่อน เป็นเมียลูกเรา เคยอ่อนง้อราข้อเราตลอดมา มาบัดนี้ลูกตัวได้ครองราชย์ สิมาตั้งตัวเป็นผู้รอบรู้งานแผ่นดิน ต่างฝ่ายต่างลุกขึ้นจากที่นั่ง ถมึงตึงเป็นวิวาทขึ้น เสียงที่โต้เถียงกันดังยิ่งขึ้นทุกที สิบขันทีอยู่ในที่เฝ้าจึงเข้าห้ามไว้ทั้งสองฝ่ายแล้วเชิญเสด็จตั๋งไทเฮาเสด็จกลับตำหนัก
โฮไทเฮาโกรธแค้นตั๋งไทเฮาเต็มหัวอก ตัดสินพระทัยแตกหักเสียแต่ครั้งนี้ เพราะเห็นว่าหากจะปล่อยไว้นานเนิ่นไป หน่อเหง้าแห่งการรัฐประหารก็จะเจริญเติบโตแตกต้นกิ่งก้านใบจนยากที่จะปราบปราม อันตรายจะมาถึงสกุล โฮ ตกค่ำจึงมีพระราชเสาวนีย์ให้โฮจิ๋นผู้เป็นพี่ชายเข้าเฝ้าที่พระตำหนัก แล้วฟ้องความที่ได้วิวาทกับตั๋งไทเฮาให้โฮจิ๋นฟังทุกประการ
โฮจิ๋นฟังเรื่องราวแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ เห็นด้วยกับโฮไทเฮาว่าจำเป็นต้องกำจัดตั๋งไทเฮาเสีย ปรึกษาแผนการกันแล้ว โฮจิ๋นก็รีบกลับจวน
ครั้นถึงจวนจึงสั่งให้เจ้าหน้าที่เร่งเชิญอัครมหาเสนาบดีพร้อมรองทั้งสองคน และขุนนางที่เป็นพวกมาปรึกษาที่ในจวน เมื่อมาพร้อมกันแล้วโฮจิ๋นจึงว่าตั๋งไทเฮานั้นไม่ใช่พระมเหสีในพระเจ้าฮั่นเต้ แต่เข้าวังมาได้เพราะพระเจ้าฮั่นเต้ได้ขอบุตรคือพระเจ้าเลนเต้มาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ครั้นบุตรได้ครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์จึงได้เข้าวังมา บัดนี้ฮ่องเต้ผู้เป็นบุตรหาบุญไม่แล้วตั๋งไทเฮาจึงหมดสิทธิที่จะอยู่ในวังหลวงอีกต่อไป ทั้งความจุ้นจ้านไม่รู้การแผ่นดินว่าควรมิควรจะทำให้ราชการฟั่นเฟือนไป
โฮจิ๋นเสนอต่อเหล่าขุนนางว่าเราจะให้ตั๋งไทเฮาออกจากวังหลวงไปอยู่ ณ เมืองฮ่อกัง แล้วทำลายแผนการรัฐประหารให้สิ้นซากต่อไป เหล่าขุนนาง ณ ที่นั้นมีความเห็นคล้อยตามเป็นเอกฉันท์
วันรุ่งขึ้นโฮจิ๋นในฐานะผู้สำเร็จราชการแผ่นดินพร้อมด้วยขุนนางจึงเข้าวังตรงไปที่พระตำหนักตั๋งไทเฮา แล้วว่าพระองค์ได้เสด็จมาประทับในวังหลวงโดยอาศัยสิทธิของบุตรซึ่งเป็นฮ่องเต้ มาบัดนี้บุตรของพระองค์หาบุญไม่แล้ว จึงหมดสิทธิที่จะอยู่ในวังหลวงอีกต่อไป แต่เพื่อเห็นแก่ฮ่องเต้พระองค์ก่อน เราจะจัดให้ไปประทับที่พระตำหนัก ณ เมืองฮ่อกัง
ว่าแล้วโฮจิ๋นจึงสั่งทหารให้เชิญเสด็จตั๋งไทเฮาออกจากวังหลวงไปประทับ ณ พระตำหนักเมืองฮ้อกัง จัดทหารรักษาการณ์เฝ้าเวรยามตลอดทุกโมงยาม ห้ามคนในออก ห้ามคนนอกเข้าเป็นเด็ดขาด
พร้อมกันนั้นโฮจิ๋นได้สั่งให้ทหารไปล้อมจวนตั๋งต๋ง ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินฝ่ายทหาร ซึ่งเป็นพระอนุชาของตั๋งไทเฮา เรียกให้สละตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดินฝ่ายทหาร และให้คืนตราประจำตำแหน่ง
ตั๋งต๋งแม้เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินฝ่ายทหาร แต่เพิ่งรับแต่งตั้งใหม่ สรรพกำลังยังไม่พร้อมประกอบทั้งไม่ได้เตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ว่าจะเกิดขึ้นถึงเพียงนี้ จึงตกใจ เหตุการณ์คับขันหาทางออกไม่ได้จึงฆ่าตัวตาย ณ ที่นั้น
โฮจิ๋นยึดเอาตราประจำตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดินของตั๋งต๋งคืนราชสำนักและริบราชบาตรทรัพย์สินและบริวารของตั๋งต๋งเข้าตนเองจนหมดสิ้น
จากนั้นอีกสองเดือนพอข่าวคราวเริ่มเงียบลง โฮจิ๋นจึงจัดส่งคนไปเมืองฮ้อกังลอบวางยาพิษสังหารตั๋งไทเฮาเสีย สำนักพระราชวังให้อัญเชิญพระบรมศพกลับเมืองหลวง ประกอบพิธีแล้วฝังไว้ที่สุสานหลวงตามราชประเพณี
ตั๋งไทเฮาจึงมีชะตากรรมอย่างเดียวกับพระนางลิเฮาในพระเจ้าฮั่นโกโจ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ฮั่นที่ได้ออกว่าราชการหลังม่านแล้วถูกสังหาร แต่เบากว่าบ้างตรงที่โฮจิ๋นไม่อำมหิตเท่ายุคนั้น จึงมิได้สังหารญาติวงศ์พงศาของตั๋งไทเฮาแบบล้างโคตรเหมือนครั้งพระนางลิเฮา
แต่เรื่องหนึ่งที่ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นโดยค่านิยมของเมืองจีน นั่นคือเรื่องที่คนสกุล โฮ ฆ่าคนสกุล ตั๋ง ได้กลายเป็นศึกศักดิ์ศรีของวงศ์สกุลที่ผู้คนสกุล ตั๋ง ผูกใจเจ็บคนสกุล โฮ แต่นั้นมา ตั๋งโต๊ะ คนในสกุล ตั๋ง จึงถูกประทับรอยศึกศักดิ์ศรีของวงศ์ตระกูลกับสกุล โฮ ไว้ในใจด้วย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา