Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คลังความรู้ by SpokeDark
•
ติดตาม
22 ส.ค. 2020 เวลา 04:00 • ประวัติศาสตร์
คดีประวัติศาสตร์อาเซียน! '1MDB' คดีทุจริตสุดฉาวสะเทือนบัลลังก์ 'ราจิบ ราซัค' อดีตผู้นำมาเลเซีย
WIKIPEDIA CC MALAYSIAN GOVERNMENT
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
หากจะพูดถึงผู้นำประเทศที่มีประวัติฉาวโฉ่ที่สุดคนหนึ่งในแถบอาเซียน เห็นจะไม่พ้นนายราจิบ ราซัค นักการเมืองจากพรรคอัมโน (UMNO) พรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศมาเลเซีย ที่มีบทบาทสำคัญในการปกครองประเทศมาเลเซียนับตั้งแต่ได้รับเอกราชมาจากอังกฤษตั้งแต่ปี ค.ศ.1957 โดยนโยบายของพรรคอัมโนคือการปกป้องวัฒนธรรมมาเลเซีย คุณค่าอิสลาม และดำเนินนโยบายแบบอนุรักษ์นิยม
สำหรับนายราจิบ ราซัค เคยเป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียในปี ค.ศ.2009 - 2018 ระหว่างการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย เขาได้จัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติที่ถูกเรียกว่า 1Malaysia Development Berhad หรือกองทุน 1MDB ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อแสวงหากำไรโดยเฉพาะ เพื่อทำให้กรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียเป็นศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค และคาดหวังให้มาเลเซียเป็นประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี ค.ศ.2020 แต่กองทุนดังกล่าวไม่เหมือนกับกองทุนโดยทั่วไปของประเทศอื่น ๆ เนื่องจากกองทุน 1MDB เป็นการใช้เงินกู้จากต่างประเทศ แทนที่จะใช้การกู้เงินจากกองทุนเงินสำรองระหว่างประเทศ จนทำให้เกิดรัฐบาลมาเลเซียเป็นหนี้จำนวนมหาศาล โดยยอดหนี้ในปี ค.ศ.2015 คิดเป็นมูลค่ากว่า 4.2 หมื่นล้านริงกิตเลยทีเดียว
WIKIPEDIA CC MALAYSIAN GOVERNMENT
ในปีเดียวกันนี้ มีรายงานว่ากองทุน 1MDB ได้ผิดนัดชำระหนี้จำนวน 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่เจ้าหนี้ต่างชาติ และปีต่อมาก็มีสื่อยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ รายงานว่า โครงการส่วนใหญ่ที่กองทุน 1MDB ไปลงทุน ซึ่งประกอบไปด้วยแหล่งน้ำมันและเหมืองแร่ในต่างประเทศล้วนประสบปัญหาขาดทุน จนนำมาสู่การสืบสวนโดยอัยการสูงสุด อับดุล ปาลาอิล จากสำนักงานอัยการสูงสุดของมาเลเซีย ที่ได้สืบสวนเพื่อหาข้อมูลว่ากองทุน 1MDB นำเงินไปลงทุน ณ ที่ใดบ้าง จนเริ่มปรากฏหลักฐานว่า ตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ.2013 -กุมภาพันธ์ ค.ศ.2015 มีเงินจำนวนกว่า 2,672 ล้านริงกิต ถูกโอนจากกองทุน 1MDB ไปยังบัญชีส่วนตัวของนายราจิบ ราซัค
จากกรณีดังกล่าวได้นำมาสู่การประท้วงครั้งใหญ่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์เพื่อเรียกร้องให้นายราจิบ ราซัค ลาออกจากตำแหน่ง แม้แต่คนในรัฐบาลของเขาเองก็ยังออกมาวิจารณ์เขาโดยตรง และบุคคลกลุ่มนี้ได้ถูกนายราจิบ ราซัค ปรับออกจากคณะรัฐมนตรีกลางวาระ โดยให้เหตุผลว่าเขาต้องการทีมงานที่มีเอกภาพมากกว่านี้ ต่อมาในเดือนสิงหาคม ค.ศ.2015 สำนักงาน ป.ป.ช.ของมาเลเซียก็ได้ออกมาแถลงข่าวว่า เงินโอนดังกล่าวเป็นเงินบริจาค ไม่ใช่เงินจากกองทุนแต่อย่างใด แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าใครเป็นผู้บริจาคและบริจาคไปเพื่ออะไร ต่อมาสมาชิกของพรรคอัมโนก็ออกมาแถลงข่าวว่า เงินบริจาคดังกล่าวเป็นเงินจากซาอุดิอาระเบียที่บริจาคให้เพื่อตอบแทนที่มาเลเซียช่วยต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลามหัวรุนแรงราว 681 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีรายงานว่าชุมชนมุสลิมในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านของมาเลเซียก็ได้รับเงินบริจาคนี้ด้วยเช่นกัน
WIKIPEDIA CC UMNO
ต่อมาในเดือนกันยายน ค.ศ.2015 สื่อยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ ได้รายงานว่าทางการสหรัฐฯ กำลังทำการสืบสวนข้อกล่าวหาทุจริตนี้เช่นกัน โดยมุ่งเป้าไปที่ทรัพย์สินของนายราจิบ ราซัค ในสหรัฐฯ ที่ได้ซื้อผ่านบริษัทนอมินีตลอดหลายปีที่ผ่านมา ภายหลังนายราจิบ ราซัค ได้ทำการปลดอัยการสูงสุด อับดุล ปาตาอิล พ้นจากตำแหน่ง และทำการแต่งตั้งนาย โมฮัมเหม็ด อาปันดี อาลี ขึ้นมาเป็นอัยการสูงสุดคนใหม่ ที่ได้ออกมากล่าวยืนยันกับสื่อว่า จำนวนเงินมหาศาลที่ถูกโอนไปยังบัญชีส่วนตัวของนายราจิบ ราซัค เป็นเงินบริจาคส่วนตัวจากราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศและการคลังของซาอุดิอาระเบียก็ออกมาแถลงข่าวตอบโต้ว่าไม่พบข้อมูลการโอนเงินบริจาคดังกล่าว แต่ภายหลังก็มีรายงานจากแหล่งข่าวที่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อ ที่ได้ระบุว่านายราจิบ ราซัค ได้คืนเงิน 620 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปให้ราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียแล้วเมื่อปี ค.ศ.2013 แต่ไม่มีคำอธิบายว่าเงินที่เหลือ 61 ล้านดอร์ลาร์กับนายราจิบ ราซัค นั้นหายไปได้อย่างไร
WIKIPEDIA CC ISHAK
ท่ามกลางข่าวคราวด้านลบของนายราจิบ ราซัค ที่ถาโถมเข้ามา นายมหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียและสมาชิกคนสำคัญของพรรคอัมโน ได้ประกาศลาออกจากพรรค เนื่องจากไม่พอใจที่พรรคอัมโนให้การสนับสนุนการคอร์รัปชั่นภายในของนายราจิบ ราซัค ที่ถูกกดดันจากสื่อมวลชนและประชาชน จนทำให้เขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งในปี ค.ศ.2018 จนต้องพ้นจากตำแหน่ง
ภายหลังนายราจิบ ราซัค ได้ถูกนำตัวไปสู่ขั้นตอนทางกระบวนการยุติธรรม โดยถูกสั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศเพื่อป้องกันการหลบหนีคดี และภายหลังศาลมาเลเซียได้พิพากษาให้นายราจิบ ราซัค ต้องโทษต้องถูกจำคุก 12 ปีฐานใช้อำนาจในทางมิชอบ ความผิดฐานฟอกเงิน 10 ปี และกระทำผิดหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินที่ดูแลอยู่ ยังไม่รวมข้อหาหนักอย่างน้อยอีก 32 กระทง จากการยักยอกเงินจากกองทุน 1MDB กว่า 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
123RF
6 บันทึก
16
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ประวัติศาสตร์ I
6
16
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย