20 ส.ค. 2020 เวลา 14:04 • ธุรกิจ
การประเมินโอกาสทางธุรกิจ
การที่จะเข้ามาสู่การเป็นผู้ประกอบการที่มีธุรกิจเป็นของตัวเองได้นั้น ควรที่จะต้องมีการกลั่นกรองและประเมินโอกาสทางธุรกิจเสียก่อน ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดนะคะ
และสำหรับผู้ที่จะเข้ามาเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ ควรคำนึงถึงสัญญาณสำคัญบางอย่างที่จะบอกว่า ถึงเวลาหรือยังที่จะกระโดดเข้ามาเริ่มต้นธุรกิจของตนเองอย่างจริงจัง
สัญญาณดังกล่าวนั้น ก็คือสัญญาณความพร้อม ซึ่งมีอยู่ 2 ประการ คือ
📌 ความพร้อมด้านความรู้
📌 ความพร้อมด้านการเงิน
การจะพิจารณาว่าข้อไหน ควรยกขึ้นมาพิจารณาก่อน อาจจะค่อนข้างตัดสินใจยากทีเดียวนะคะ ถ้าหากจะพิจารณาในด้านวิชาการสักหน่อย เรื่องความรู้ความชำนาญมีความสำคัญมาก แต่ในความเป็นจริง และจากประสบการณ์จริงของผู้เขียนเอง เรื่องเงินทุนก็มีความสำคัญมากเหมือนกัน น่าจะนำมาพิจารณาก่อน แต่อย่างไรสะ สัญญาณทั้งสองต่างก็มีความสำคัญที่จะส่งเสริมซึ่งกันละกันได้อย่างดีค่ะ
การมีเงินทุนสนับสนุนอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่ไม่มีความรู้ความชำนาญในธุรกิจที่ทำ อาจเป็นกำลังเสริมพอที่จะใช้ในการศึกษาหรือเพิ่มทักษะและประสบการณ์ในธุรกิจนั้นๆ
ภาพจาก freepik
ส่วนการที่มีความรู้อย่างถ่องแท้ในธุรกิจที่ทำ หรือมีประสบการณ์มาพร้อม ก็อาจทำให้มีความน่าเชื่อถือ จนมีผู้ยอมให้การสนับสนุนในเรื่องของเงินทุนก็เป็นได้ค่ะ อย่างเช่นปัจจุบันนี้ ก็มีกลุ่มคนที่มีเงินทุนหนาๆ คอยให้การสนับสนุนกลุ่มธุรกิจ Startup ที่มีไอเดียเจ๋งๆ แต่ขาดเงินทุนขับเคลื่อนธุรกิจ พอทั้งสองฝ่ายมาเจอกันก็พอดิบพอดี วินวินกันไปทั้ง 2 ฝ่าย
ภาพจาก freepik
แต่ถ้าหากปราศจากซึ่งสัญญาณทั้งสองนี้แล้ว นั่นหมายความว่า คุณยังไม่มีความพร้อมที่จะมาเป็นเจ้าของธุรกิจของตนเองอย่างแน่นอน ควรต้องพิจารณาหาวิธีเพิ่มปัจจัยอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่างให้พร้อมเสียก่อน ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่วงจรของการดำเนินธุรกิจนะคะ
สัญญาณลำดับต่อไป คือโอกาสที่เราจะเป็นเจ้าของกิจการได้นั้น มีช่องทางใดบ้าง ซึ่งได้แก่
1. รับช่วงกิจการต่อจากครอบครัว
2. ซื้อกิจการ
3. ซื้อแฟรนไชส์
4. เริ่มธุรกิจใหม่ด้วยตัวเอง
ช่องทางแรก 👉 คือการรับช่วงกิจการต่อจากครอบครัว ช่องทางนี้ ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นโอกาสเฉพาะสมาชิกในครอบครัวที่มีธุรกิจเป็นของตัวเองอยู่แล้ว
ช่องทางที่ 2 👉 คือ การเข้าซื้อกิจการ หรือการเซ้งกิจการต่อจากผู้อื่น เป็นช่องทางที่ทำให้ก้าวเข้าสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว การที่เจ้าของเดิมไม่อาจดำเนินธุรกิจต่อไปได้ อาจเกิดจากความจำเป็นด้านต่างๆ หรืออาจเกิดจากการดำเนินธุรกิจมีปัญหา แต่หากเราสามารถมองเห็นโอกาสและวิธีในการแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้ ก็ย่อมสามารถดำเนินธุรกิจนั้นต่อไปได้ และอาจสร้างกำไรได้ดีกว่าเจ้าของเดิมก็เป็นได้ค่ะ
ช่องทางที่ 3 👉 การซื้อแฟรนไชส์ การเข้าเป็นเจ้าของกิจการ โดยผ่านช่องทางนี้ เป็นโอกาสการเริ่มต้นธุรกิจ ที่มีข้อแม้ว่า ต้องมีปัจจัยเงินทุนสนับสนุนอยู่พอสมควร เนื่องจากเจ้าของแฟรนไชส์จะเป็นผู้จัดเตรียมหรือให้ความรู้ในธุรกิจแก่ผู้ประกอบการอย่างรวดเร็ว พร้อมเริ่มธุรกิจได้ทันที จึงจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ค่อนข้างสูงเป็นการชดเชยค่ะ
ช่องทางที่ 4 👉 คือการเริ่มต้นธุรกิจด้วยตัวเอง เป็นช่องทางที่ หากพิจารณาแล้วว่ามีสัญญาณความพร้อม ก็สามารถเริ่มต้นทำธุรกิจได้เลย ซึ่งโอกาสเช่นนี้หาได้ไม่ง่ายนัก และผู้ที่ต้องการจะเป็นผู้ประกอบการ ควรจะต้องรอจังหวะและเวลาที่เหมาะสม ให้เห็นว่าพร้อมจริงๆ แล้วค่อยเข้าสู่วงการจะดีกว่าค่ะ
นอกจากนี้ ก็มีอีกสัญญาณ ที่สามารถพบเห็นได้ในช่วงที่มีวิกฤติเศรษฐกิจแบบนี้นะคะ ซึ่งเป็นโอกาสที่สร้างเถ้าแก่หน้าใหม่มาแล้วหลายรายในอดีต นั่นก็คือ สัญญาณจากเหตุการณ์ภาคบังคับ ที่ต้องออกจากงานเดิม หรืองานประจำ เป็นเหตุการณ์ที่บังคับให้ต้องเปลี่ยนงานนั่นเองค่ะ
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดวิกฤติเลวร้ายแค่ไหน ถ้าผู้ใดสามารถเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสได้ ก็จะสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และยังเปิดโอกาสให้ก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ประกอบการธุรกิจของตนเองได้เป็นอย่างดีด้วยค่ะ
Cr. บันไดสู่ความมั่งคั่ง (ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)
เรียบเรียงโดย : ลงทุนในบัญชีและภาษี
ช่องทางอื่นในการติดตาม เพจลงทุนในบัญชีและภาษี
ขอบคุณทุกการมีส่วนร่วม และการติดตามนะคะ 🙏🙏😊😘

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา