21 ส.ค. 2020 เวลา 19:54 • ธุรกิจ
Salesforce ทำอย่างไรถึงขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของ SaaS Company ?
เส้นทางแห่งความพยายามที่ไม่ง่ายดายเกือบ 20 ปี
Salesforce ณ ปัจจุบันนี้คือบริษัท Tech CRM Software ที่ครองอันดับ 1 ของบริษัทในอุตสาหกรรม SaaS Company หรือ Software as a Service นั้นเอง
https://www.mikesonders.com/largest-saas-companies/
เชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนที่ทำงานอยู่ในบริษัทที่ต้องจัดการกับข้อมูลที่เยอะ ต้องเคยผ่านตาการใช้งานหรือ ใช้ CRM software อื่นๆ ที่เป็นคู่แข่ง Salesforce เนอะ
ส่วนเพื่อนๆหลายคน ที่ไม่เคยใช้ แต่คงอาจได้ยินชื่อผ่านกันมาบ้าง
งั้นบทความนี้ เรามาย่อยกันว่า Salesforce ทำอย่างไรบ้างตลอด 20 ปีตั้งแต่เริ่มต้นในปี 2000 จนสามารถขึ้นมาครองอันดับ 1 ด้วย ขนาดและ Market Cap ที่ทิ้งห่างอันดับ 2 มาเกือบถึง 3 เท่า !!
เริ่มต้นด้วยการ กำจัดคู่แข่งที่ครองตลาดอันดับ 1 อย่าง Siebel Systems (ของ Oracle)
1
- CEO ของ Salesforce, Marc Benioff ได้มองว่า ถ้าเค้าจะหันมาเล่นธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีการจัดการ การทำงาน และ เทคโลโยี Cloud เค้าจำเป็นที่จะต้อง กำจัด ขาใหญ่ประจำซอยให้พ้นไปก่อน
1
- โดย เหตุการณ์นี้ได้ถูกตั้งชื่อว่าเป็น เหตุการณ์ปั่นหัว ป่วนแบรนด์ที่บ้าคลั่งมากอันหนึ่งเลย
- Marc ให้พนักงานของเค้าที่มีจำนวนหนึ่งไม่มากนัก มาตั้งกลุ่มประท้วง หาขอติเตียนเกี่ยวกับการใช้งาน โดน ได้จัดกลุ่มผู้ประท้วง (หน้าม้า) กลุ่มนึงมาในวันที่ Siebel จัดงาน Conference ในปี 2000
1
- และแน่นอนว่า Siebel Systems เกิดกระแสพูดถึงในแง่ลบมากมายเกี่ยวกับ Siebel Systems จนกระทั่งรายได้และผู้ใช้งานหายไปจำนวนมาก
1
- และแล้วในปีเดียวกันนั้นเอง Marc ก็ได้ออกมาเปิดตัว พร้อมเปิดตัวบริษัท Salesforce ว่า ชั้นนี่ไง ชั้นมีของดีกว่า ! พร้อมจัดงานเลี้ยงใน Theme ของ "The End of Software”
1
"The End of Software party” ทาด๊าาา! เค้าเองละที่เป็นคนจัดม็อบขึ้นมา แห่ !
- จนกระทั่งในปี 2005, Oracle ต้องเข้ามาซื้อ Siebel Systems ไป
การตั้ง Vision ที่แน่วแน่ของ Salesforce คือกาารนำ Software ไปสู่ Cloud
1
- ในปี 2020 คำว่า Cloud system นี้อาจจะดูเชยไปแล้ว ชิน โหล หรือ สามารถทำได้โดยง่ายไปซะแล้ว
- แต่ถ้าย้อนกลับไปในปี 2001-2005 ต้องบอกเลยว่า เกือบ 70% ของผู้คนทั่วไป ยังไม่รู้จักคำว่า Cloud System เลย
- นี้ละคือจุดเปลี่ยนในการเติบโตของ อุตสาหกรรม SaaS company และ Salesforce
1
พวกเค้าจะต้องเป็นเจ้าแรกที่ให้บริการ CRM Software บน Cloud platform
1
- นั้นไม่ใช่เรื่องยากของ Marc, CEO Salesforce ที่ต้องบอกว่าไม่ยาก ก็แน่ละ เพราะว่า Marc เคยเป็นอดีต Vice President ที่ Oracle มาก่อนนะสิ
- นั้นทำให้ Marc ได้เปรียบในการเริ่มก้าวเดินเป็นก้าวแรกกับ concept ของ บริษัทลูกค้าต้องสามารถใช้งาน Software ของพวกเค้าได้ ทุกที่ ทุกเวลา (available anywhere, anytime)
2
- ถึงแม้ว่าคู่แข่งที่เบียดตามเค้ามาติดๆบน Cloud platform อย่าง SAP และ Oracle แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาของ Marc เลย
1
ยุคแห่งการ Install program ด้วยแผ่น CD ได้จบลงแล้ว
- Salesforce ไม่รอช้า โดยพวกเค้าได้ทำตัวให้พร้อมสำหรับการดาวโหลด จากลูกค้ากลุ่มบริษัทในโลก Internet
- เพื่อนๆบางคนอาจจะนึกย้อนไปว่า ในยุคสมัยนั้นการเข้าถึง Internet ยังไม่ใช่เรื่องง่าย และผู็คนยังคงติดการ Install program จากแผ่น CD
1
- แต่ว่า Salesforce กลับมองต่างนะสิ เค้ามองว่า จะปฏิวัติวงการนี้ทั้งที เราจะไปสู่ Cloud มันจะใช้แผ่น CDs ไม่ได้จ้าาาา
- และในขณะที่ คู่แข่งของพวกเค้า อย่าง SAP ยังเป็นการ Install ผ่าน CD และไปลงทะเบียนออนไลน์
1
https://www.salesforceben.com/brief-history-salesforce-com/
- และนี่เองคือจุดเริ่มต้นของการใช้ websites salesforce.com
- โดยทุกอย่างของการใช้งาน ลูกค้าจะสามารถใช้งานจากที่ URL นี้ได้เพียงที่เดียวเท่านั้น เพื่อไม่ให้พวกเค้าสับสน และยังได้ updates อยู่ตลอดเวลา
- ที่สำคัญ Salesforce ได้ใส่ Scarcity marketing เข้าไปว่า Sign-up 5 คนแรก ใช้ฟรี 1 ปี (แต่เห็นว่าเรค้าแจกมากกว่า 5 คนอีกนะ)
1
Dreamforce Event กับ การผลักดันแบรนด์ Salesforce สู่สายตาชาวโลกในปี 2003
1
- คือหลังจากที่ก่อตั้งรากฐานกันอย่างดีแล้ว ณ ตอนนี้พวกเค้าพร้อมแล้วที่จะเปิดตัวสู่ชาวโลก และสามารถรองรับผู้ใช้งานที่อยู่ในประเทศที่ห่างไกลด้วย เทคโนโลยี Cloud !
1
- เพื่อนๆเชื่อไหมว่า หลังจาก Annual event นี้แค่ 1 ปี (ปี 2014) บริษัท Salesforce ได้ประกาศการเข้าสู่ IPO และระดมทุนเกือบ 110$ ล้านดอลล่าร์
1
Salesforce มีความชัดเจนในกลุ่มลูกค้าบริษัท ที่มี Sales Team
1
- ก็คงเกือบทุกบริษัทนี้ละ ที่ต้องมีทีมขาย ไม่มีทีมขาย แล้วจะขายยังไงละ (เอ่ะ ทำไมเราเขียนวนไปมาละ)
1
- โดยพวกเค้าได้เน้นจุดขายของ New Technology ที่จะมาเปลี่ยนการทำงานของ Sales ทีม ของคุณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยระยะเวลาการทำงานที่ลดลง
1
- แน่นอนว่าถ้าขายกับลูกค้าบริษัทที่มีทุนในการพัฒนาส่วนของ Technology ส่วนใหญ่ก็จะปิดการขายได้
- เพราะอะไร ? ก็เพราะ Salesforce สามารถทำ First mover competitive advantage ได้สำเร็จนะสิ เพราะเค้าเป็นเจ้าแรกที่เริ่ม SaaS แบบ Cloud เลยละ (คือ SAP, Orcle เนี่ย ตามมาในปี 2005 เป้นต้นไป)
1
ฉายา “eBay for business software” และ ‘iTunes of business software”
1
- ฉายาข้างบนนี้ได้ถูกตั้งโดยสำนักข่าว Forbes และ Business Week
- นั้นก็เพราะว่า Salesforce ได้จับมือกับ AppExchange และ Apex ที่เป็นแหล่งผลิต third-party developers มือดีหลายๆคน ที่จะมาช่วยให้ Salesforce สามารถสร้าง Add-on ได้นั้นเอง โดยยังเปิดให้กับผู้พัฒนาโปรแกรมคนอื่นๆได้คิดตัว Add-on สำหรับการใช้งาน Salesforce ด้วย
1
- ก็คือ Salesforce สามารถ connected กับ Microsoft Outlook, E-mail ต่างๆได้แล้วนะสิ (ด้วยการ develop ของเหล่า Third party) และนี่คือการใช้ประสิทธิภาพของ Cloud ได้อย่างดีเยี่ยมในยุคนั้น
1
AppExchange
โผเข้ากอดวิธีของ User Customization Content
- หลังจากที่ Salesforce พัฒนาระบบหลังบ้านต่างๆได้อย่างดีแล้ว
- พวกเค้าก็ได้มองมาถึง End User ที่เป็นผู้ใช้งาน ด้วยการเปิดตัว Visualforce ที่สามารถให้ลูกค้าของเค้า สามารถจัดการหน้าต่างการใช้งาน (User Interface) ในแบบที่พวกเค้าต้องการได้เลย
- และในปี 2008 ก็ได้มีการ Redesign Salesforce’s system architecture ใหม่ โดยเน้นไปที่การ customization ให้มากขึ้นไปอีก โดยทำให้ระบบของพวกเค้า functionalities ได้มากกว่า CRM system ทั่วๆไปหรือเจ้าใหม่ๆ (แน่นอนว่าเค้าทำการบ้าน Market Benchmark มาแล้วนะสิ เลยเห็นว่านี้คือการก้าวนำไปอีก 1 ก้าว)
1
1,000$ ล้านดอลล่าร์ Salesforce ทำได้สำเร็จในปี 2009 !!!
- หลังจากที่ปรับเปลี่ยนระบบทุกอย่างใหม่ในปี 2008 พวกเค้าใช้เวลาอีกเพียงแค่ 1 ปี ในการเติบโตฐานผู้ใช้งานและ ก้าวถึง 1,000$ ล้านดอลล่าร์แรก ได้สำเร็จ
- และการเดินหมากต่อไปที่ดีที่สุดคือ .......... เพื่อนๆเดาออกไหมเอ่ย ? วิธีนี้ฮิตมากๆ นั้นคือ การ Acquire บริษัทผู้พัฒนาเจ้าอื่นๆ เช่น Radian 6, ExactTarget Buddy Media
จนมาถึงปัจจุบัน Mulesoft และ Tableau ก็ตกไปอยู่ในอาณาจักรของ Salesforce มูลค่ารวมเกือบ 21,000 $ พันล้านดอลล่าร์ !!!!
1
Salesforce ในปี 2020 ที่มีมูลค่าบริษัทเกือบ $161.4 billion และถูกจัดอันดับว่าเป็นบริษัท SaaS ที่ใหญ่ที่สุด และ มีอัตราการเติบโตอย่างมีมูลค่ามากที่สุด
แต่ตอนนี้ธุรกิจแนว SaaS เริ่มเป็นกระแสยอดฮิตมาก เพราะเทคโนโลยีเหล่านี่ช่วยเหลือเจ้าของบริษัทและพนักงานในการทำงานมาก พูดง่ายๆคือ เป็นที่ต้องการแล้ว
Salesforce ไม่ได้ยืนอยู่คนเดียวอีกต่อไป ถ้าพูดถึงคู่แข่งของเค้าที่น่ากลัวอย่าง Atlassian, ServiceNow, Hubspot
งานนี้แย่ง Competitive advantage กันสุดๆ โดยเฉพาะ Hubspot ที่เป็นแนว CRM เหมือนกัน เพียงแต่ราคาถูกกว่า Salesforce หลายขุมเลยละ (เหมาะกับ MME และ SME)
1
จบแล้วจ้า อย่างที่เพื่อนๆเห็น บริษัทที่ทันสมัย และข้องเกี่ยวกับเทคโนโลยีเหล่านี้ พวกเค้าไม่ได้ปุ้ปปั้บเสกวิมานลอยมาเลยนะ แต่มันคือการปรับตัว การเรียนรู้ และส่วนตัวเรามองว่า ถ้าได้ First move advantage มาเนี่ย จะเป็นก้าวที่ง่ายกว่าเดิม
แต่ First move แล้ว Second step พลาดเนี่ย ก็พังอยู่ดีน้าาา :)
โฆษณา