โบสถ์เสร็จกระท้าพิธีฉลองในวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1891
คริสตสมาชิกในเชียงใหม่-ล้าพูน และจังหวัดใกล้เคียง มารวมกันที่โรงเรียนหญิงประมาณ 500 คน พากันเดินขบวนอย่างมีระเบียบตรงมายังโบสถ์ใหม่ ซึ่งอยู่ตรงข้ามถนนเจริญเมือง ในการนมัสการพิเศษมอบพระวิหารของพระเจ้านั้น ผู้เทศนาคืออาจารย์แม็คกิลวารี ท่านได้ใช้พระธรรมยะเอสเคล บทที่ 47 ข้อ 1-5 เป็นหัวข้อเทศนา หมอดอดด์เป็นผู้อธิษฐาน มอบถวายโบสถ์ให้แก่องค์พระผู้เป็นเจ้า ท่านอาจารย์คอลินส์ ได้ประกอบพิธีศีลบัพติสมาแก่สมาชิกใหม่รวม 5 ท่าน ศิษยาภิ
บาลนันตา (ครูนันตา) ประกอบพิธีศีลระลึก นับจากวันนั้นเป็นต้นมาโบสถ์อันถาวรของคริสตจักรที่ 1 เชียงใหม่
ได้เรีมต้นสืบต่อมาด้วยอายุอันยาวนาน ที่ดินของโบสถ์เจ้าหลวงในสมัยนั้นเป็นผู้ยกให้ (แต่ปรากฏว่าหลังท่าน
อาจารย์แม็คกิลวารี ต้องให้เงินแก่ผู้อาศัยอยู่เดิมเป็นการตอบแทนในอันที่จะไปหาที่อยู่ใหม่) นับแต่อาจารย์แม็คกิลวารี และอาจารย์วิลสัน ได้ประกาศตั้งคริสตจักรที่ 1 เมื่อ 19 เมษายน ค.ศ.1868 (พ.ศ. 2410) จนถึงบัดนี้ก็มีอายุครบ 151 ปี บริเวณของโบสถ์และตัวอาคารของโบสถ์ ปัจจุบันได้เป็น
โรงเรียนเชียงใหม่คริสเตียนไปแล้ว และนับจากวันฉลองโบสถ์หลังนั้น 9 สิงหาคม ค.ศ. 1891 (พ.ศ. 2434)
จนถึงบัดนี้ 127 ปี เปรียบกับคนอายุ 127 ปี ก็นับว่าแก่ชราลงมาก เช่นกันกับตัวอาคารของโบสถ์มีความช้ารุดทรุด
โทรมอย่างเห็นได้ชัด คณะธรรมกิจของคริสตจักรและบรรดาสมาชิกจึงมีความเห็นว่า ต้องสร้างตัวอาคารโบสถ์ใหม่ขึ้นมาแทน เหตุผลในการที่จะสร้างนั้น ถ้าประมวลแล้วก็เป็นดังนี้คือ โบสถ์ผุพังลงมาก เสาโบสถ์ช้ารุดน่ากลัวอันตราย ประการที่ 2 โบสถ์ที่สร้างมา 127 ปีแล้วที่ว่าโอ่โถงในสมัยนั้น ขณะนี้คับแคบลง สมาชิกของคริสตจักรเพิ่มมากขึ้น ต้องแบ่งการนมัสการเป็นสองรอบ อนึ่งถ้าหากว่ามีนักเรียนจากสองโรงเรียนคือ ปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย กับโรงเรียนดาราวิทยาลัย มาร่วมนมัสการเหมือนสมัยก่อนแล้ว โบสถ์จะยิ่งไม่พอบรรจุ นี่แหละคือเหตุผลอันใหญ่ยิ่งที่จะต้องสร้างโบสถ์ใหม่ เหตุผลในการที่ย้ายที่ตั้งของโบสถ์มาอยู่ ณ ที่นี้ มันก็เป็นที่ตั้งของโบสถ์ในสมัยเริ่มแรก ตามที่กล่าวมานั้นก็คือว่าโบสถ์หลังใหม่ต้องมีเนื้อที่กว้างกว่า บริเวณของโบสถ์ก็ต้องกว้างเช่นกัน อีกอย่างก็คือว่า ในบริเวณเดียวกันนี้สมควรจะมีสถาบันต่าง ๆ เกี่ยวกับคริสตสถาน เป็นต้นว่า ที่ท้าการของคณะสตรีคริสเตียน อนุชนกองประกาศเผยแพร่ กองบรรณศาสตร์ สถานฝึกอาชีพ คลังสมุดคริสเตียน และก้าลังอยู่ในขั้นด้าริ์อยู่ คือสถานที่ส้าหรับคนชรา (แหละอีกประการหนึ่งก็คือ เดิมที่ทางราชการจะขยายถนน เชียงใหม่-ล้าพูน การขยายถนนนั้นต้องลุกล้้าเข้ามายังที่ดินของโบสถ์ ก็ยิ่งจะท้าให้อาณาเขตของโบสถ์แคบลงไป คณะกรรมการจึงต้องหาที่ใหม่ ที่จะต้องใช้แทนโบสถ์เก่าของเรา ซึ่งก็ได้สร้างโบสถ์ใหม่ของเราปัจจุบันนี้ ส้าหรับการขยายถนนของเทศบาลก็ได้
ขยายจริง แต่ได้เปลี่ยนนโยบายใหม่แทนที่จะขยายเข้ามาในโบสถ์ของเรา กลับเป็นว่าขยายไปทางล้าน้้าปิงเสีย)
ทางคริสตจักรที่ 1 ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นเรียกว่า “กรรมการสร้างโบสถ์” ในที่สุดแบบแปลนโบสถ์ซึ่งอาจารย์ เทเลอร์ พอทเตอร์ สถาปนิกของสภาคริสตจักรได้เป็นผู้ออกแบบ แบบแปลนโบสถ์ที่เราใช้นมัสการนี้ชนะการประกวดในสหรัฐอเมริกา ได้รับรางวัลที่ 1 เป็นผลให้อาจารย์ผู้ออกแบบได้รับเชิญให้ไปสอนยังมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา การก่อสร้างได้เริ่มและเสร็จลงด้วยเงิน 1,200,000 บาท (สภาฯ ให้มา500,000 บาท) ศาลารวีวารศึกษา ครอบครัวของพ่อเลี้ยงจันทรตา อินทราวุธ เป็นผู้ให้เงินในการก่อสร้าง
170,000 บาท หอระฆังและไม้กางเขน บุตรหลานตระกูลสิงหเนตร ได้สร้างเป็นอนุสรณ์แก่ตระกูลประมาณ 50,000 บาท กำลังอยู่ในขั้นพิจารณาแบบแปลน ส้าหรับบริเวณโบสถ์เก่า รวมทั้งตัวอาคารศาลา ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโรงเรียนเชียงใหม่คริสเตียน เป็นโรงเรียนราษฎร์ เป็นโรงเรียนของคริสตจักร โรงเรียนนี้เริ่มตั้งจากโรงเลี้ยงเด็กของคณะสตรีคริสเตียน และได้ตั้งเป็นโรงเรียนโดยสมบูรณ์ตามกฎหมายเมื่อ 7 ปีมานี้เอง ขณะนี้โรงเลี้ยงเด็ก (แบบอนุบาล) มีเด็กทั้งชาย-หญิง
150 คน ชั้นประถมปีที่ 1 ถึงชั้นประถมปีที่ 7 มีนักเรียนรวมชาย-หญิง (โรงเรียนนี้เป็นสหศึกษา) 275 คน
โรงเรียนจะเปิดถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในปี 2514 สำหรับปี 2512 จะเปิดชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พ.ศ. 2513 มัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนก้าลังเจริญเติบโตขึ้น ท่านที่มีบุตรหลานโปรดให้ความไว้วางใจแก่โรงเรียน โรงเรียนนี้จะอบรมลูก หลาน ของท่านให้ได้ทั้งความรู้ดี บ่มนิสัยดี ทั้งกวดขันความประพฤติ แหละประการส้าคัญ ยิ่งโรงเรียนตั้งอยู่บนรากฐานของพระคริสต์ เด็กจะได้รับการศึกษาอบรมแบบชีวิตคริสเตียน ในไม่ช้านี้โรงเรียนจะมีอาคารเรียนถาวร ซึ่งจะสร้างเป็นอาคาร 3 ชั้น จึงขอฝากโรงเรียนให้อยู่ในความอนุเคราะห์และอยุ่ในความอุปการะของท่านด้วย