Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หมอยาเล่าเรื่อง:Pharmacy talk
•
ติดตาม
26 ส.ค. 2020 เวลา 13:22 • การศึกษา
#รีวิวชีวิตการทำงานของเภสัชกรระหว่างรพ.รัฐ vs เอกชนต่างกันอย่างไร???
#หมอยาเล่าเรื่อง
จากคำถามน้องในเพจค่ะ ว่าชีวิตการทำงานของเภสัชกรระหว่างการทำงานรพ.รัฐ vs เอกชน
มีความกดดันต่างกันไหม อย่างไรบ้าง รุ้งเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงให้เพื่อนๆได้ทราบกัน หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน ประสบการณ์ และสิ่งแวดล้อมต่างๆที่อาจจะแตกต่างกันไปบ้างนะคะ
1
#รพ.รัฐ
✏ข้อดี
1. มีระบบสวัสดิการข้าราชการที่ดีทั้งตัวเภสัชกรเองและพ่อแม่ สามี-ภรรยา และลูกเบิกจ่ายได้ ยาที่ได้จะเป็นยาอย่างดีกว่าสิทธิอื่นๆ เช่น ยานอกบัญชี ยาที่เป็นยา original หรือยาที่จ่ายโดยหมอเฉพาะทาง ผู้ที่ใช้สิทธิข้าราชการมีสิทธิในการเข้าถึงยาต่างๆ ยาดีๆได้มากกว่าสิทธิการรักษาอื่น สามารถเบิกค่ารักษาตัวต่างๆได้มากและครอบคลุม
2. โรงพยายาลที่มีอยู่ทั่วทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงง่ายเวลาคนไข้เจ็บป่วย คนไข้ที่มารักษาในรพ.รัฐจะมีทุกสิทธิการรักษาทั้งบัตรทอง ประกันสังคม ข้าราชการ และเงินสด และส่วนใหญ่จะฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย หรือมีค่าใช้จ่ายน้อยมาก ถ้ายาที่ได้รับอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ
3. ระบบงานขึ้นอยู่กับแต่ละรพ. ถ้าระบบรพ.นั้นดีอยู่แล้วการทำงานก็จะราบรื่นตามที่ระบบกำหนดไว้
4. รพ.รัฐมีการร้องเรียนที่น้อยกว่ารพ.เอกชนมาก จากประสบการณ์ตรง อาจเป็นเพราะคนไข้อาจจะไม่ได้คาดหวังความสะดวกสบาย ความพึงพอใจ ความรวดเร็วน้อยกว่ารพ.เอกชน ทำให้ทำงานรพ.รัฐอาจรู้สึกกดดันน้อยกว่าเอกชน
5. รพ.รัฐ จะมีสวัสดิการห้องพักบ้านพักให้ฟรี ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายลงไปได้ ส่วนสภาพของบ้านพัก ห้องพักจะใหม่หรือเก่าก็แล้วแต่ที่
#หมอยาเล่าเรื่อง
#รพ.รัฐ
📍ข้อจำกัด
1. คนไข้ที่มาใช้บริการในรพ.ศูนย์ รพ.ประจำจังหวัดจะมีจำนวนคนไข้จำนวนมาก ทำให้ต้องทำงานอย่างเร่ง เพื่อรองรับคนไข้จำนวนมากที่รอรับบริการอยู่ ภายในเวลาและพื้นที่ อัตรากำลังที่จำกัด ระยะเวลาในการรอคอยการรับบริการจะนานกว่ารพ.เอกชน แต่ถ้ารพ.ชุมชนขนาดเล็กอาจจะไม่ค่อยเจอปัญหานี้เท่าที่ควร อาจจะมีคนไข้เยอะช่วงเช้าถึงเที่ยงหรือบ่าย พอบ่ายเย็นก็จะไม่ค่อยมีคนไข้แล้ว
2. ค่าตอบแทนรพ.รัฐจะน้อยกว่ารพ.เอกชนอาจจะเท่าถึงสามเท่า ตั้งแต่เงินเดือนที่สตาร์ท และค่าชั่วโมง OT เงินเดือนจะขึ้นน้อยตามอายุงาน
3. เพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นพี่ที่เป็นอาวุโสกว่า การทำงานจะมีระบบอาวุโส วัยวุฒิอยู่มาก การเลื่อนตำแหน่ง หรือการจะเป็นหัวหน้ากลุ่มงาน หัวหน้าฝ่ายมักจะพิจารณาจากวัยวุฒิ ความอาวุโส
4. ระบบราชการมีความล่าช้า ยุ่งยากเวลาจะดำเนินงาน งานออกสาร การย้ายต้องรอรอบย้าย รอครบอายุงาน อาจจะไม่ปุ๊บปั๊บรวดเร็วทันใจ และมักจะมีระบบรอตกเบิกเงินเดือน เบี้ยเลี้ยงต่างๆ บางทีอาจจะหลายเดือนถึงปี หากมีเรื่องต้องรีบใช้เงินต้องอยู่เวรเพราะเงินค่าอยู่เวรจะออกก่อน ไม่ค่อยรอตกเบิก หรือรพ.ขาดทุน ขาดสภาพคล่องอาจมีตกเบิก ค้างเงิน ลดเบี้ยเลี้ยงพิเศษต่างๆ
5. ประสบการณ์ในการทำงานรพ.รัฐที่เราเคยเจอไม่ค่อยดีนักเกี่ยวกับระบบ และมีความกดดันในการทำงานที่เจอมีมากกว่ารพ.เอกชน อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละที่ตามประสบการณ์ของแต่ละบุคคลเช่นกัน
เคยเจอตั้งแต่ประกาศรับจ้างเป็นลูกจ้างชั่วคราวหรือลูกจ้างรายเดือน พอรับเข้าไปแล้วไม่ใช่อย่างที่ประกาศอ้างว่าติดกฎเกณฑ์ราชการนั่นนี่ สรุปจ้างเป็นลูกจ้างรายวัน ไม่ได้ค่าใบประกอบวิชาชีพ 5,000 บาทต่อเดือนอ้างว่าเป็นลูกจ้างรายวันจะไม่ได้ ทั้งที่ควรได้ สอบผ่านใบประกอบวิชาชีพแล้วต้องได้ตายตังอยู่แล้ว ค่าจ้างถูกกว่าเรทเงินเดือนรพ.รัฐทั่วไป ถือเป็นการเอารัดเอาเปรียบและมีการจัดจ้างงานที่ไม่เป็นธรรมเลย
เคยเจอเวลาที่ทำงานผิดพลาดจะโดนกดดัน ดุว่า หรือใช้ถ้อยคำที่รุนแรง กดดัน หรือเจอการ Bully จากเพื่อนร่วมงาน โดยเฉพาะรุ่นพี่ที่อาวุโสกว่า ทำให้ไม่มีความสุขในการทำงาน และรู้สึกเครียดและกดดันมาก
1
#หมอยาเล่าเรื่อง
# รพ.เอกชน
💊 ข้อดีจากประสบการณ์ของเราเอง
1. ค่าตอบแทนมากกว่ารพ.รัฐ 2-3 เท่าขึ้นไป แล้วแต่ที่และประสบการณ์ ความสามารถพิเศษ และทักษะภาษา
2. เพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่จะเป็นอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน เวลาทำงานเหมือนเพื่อน พี่น้อง คุยกันทำงานกันง่าย มีสภาพแวดล้อมที่ดี ทั้งสถานที่สวยงาม และบุคคลเป็นมิตร
3. มีวันหยุดที่มากขึ้น ได้วันหยุดต่อเดือน 9-10 วันเลือกวันหยุดเองได้ มีความอิสระในการทำงานมากกว่า ทำให้มีความสุขในการทำงานมากกว่า มีความสบายใจมากกว่า
4. มีระบบการทำงานที่รวดเร็ว ทันสมัย สะดวก สบาย เพื่ออำนวยความสะดวกกับการทำงานและลูกค้าที่มารับบริการให้เกิดความพึงพอใจ สะดวก สบายในการได้รับการบริการ
5. ภาระงานที่เคยเจอที่รพ.เอกชนจะไม่เยอะเมื่อเทียบกับรพ.รัฐ มีระบบการตรวจสอบที่ดี ทันสมัย เพื่อลดความผิดพลาดในการทำงาน ทำให้ทำงานได้ถูกต้อง แม่นยำมากขึ้น
6. เวลาเจ็บป่วยสามารถใช้สิทธิประกันสังคมในการรักษาและมีสวัสดิการรพ.ประจำปีหลักหลายหมื่น-แสนต่อปี แล้วแต่รพ.และระดับการปฏิบัติงาน และมีส่วนลดให้สำหรับพ่อแม่ และญาติสายตรง
7. มีการให้บริการที่รวดเร็ว สะดวกสบาย ทันสมัย เพื่อให้ลูกค้ามีความพึงพอใจและกลับมารับบริการ
#รพ.เอกชน
💊ข้อจำกัด
1. จะไม่มีสวัสดิการห้องพักให้ อาจจะมีค่าเช่าห้องพัก แต่เมื่อเทียบกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นและความสะดวกสบายที่ได้รับก็ถือว่าคุ้มค่า
2. อาจจะมีแรงกดดันในด้านการให้บริการให้ลูกค้าพอใจมากที่สุด ต้องสำรวมกิริยา วาจา ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดจาไพเราะ มีความเป็น profesional เนื่องจากหากลูกค้าไม่พอใจ อาจมีการร้องเรียนถึงเภสัช หรือกลุ่มงานได้
3. ลูกค้ามีความคาดหวังสูงกว่ารพ.รัฐบาล จะต้องบริการให้ดีที่สุด เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า
4. ต้องมีใจรักบริการและทนต่อแรงกดดันในการทำงานบริหงการ เช่น สถานการณ์ที่มีลูกค้าไม่พอใจ ต่อว่า ร้องเรียน มีความหลากหลายอย่างมากของลูกค้าที่มารับบริการ จะต้องเตรียมตัวเตรียมใจกับสถานการณ์ที่กดดันเหล่านี้ และแก้ปัญหาหน้างานให้ได้ ให้ประสบความสำเร็จ เพื่อให้ลูกค้าพอใจและกลับมารับบริการเป็นประจำ
3
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ก่อนนะคะ หากเพื่อนๆมีข้อสงสัยอะไร หรือมีความคิดเห็น ข้อเสนอแนะอะไรก็ comment มากันได้เลยนะคะ หวังว่าข้อมูลการรีวิวนี้จะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะคะ
#ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
2 บันทึก
12
11
9
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
กว่าจะมาเป็นเภสัชกร
2
12
11
9
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย