27 ส.ค. 2020 เวลา 13:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
MovieTalk Special Series:
N - O - L - A - N Project 8:
THE DARK KNIGHT
The Dark Knight คืองานภาคต่อของ Batman Begins ที่สร้างมาตรฐานสำคัญให้แก่วงการหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่ ไม่เพียงวิพากษ์สังคมผ่านจุดยืน และมุมมองทางความคิดของตัวละครสำคัญ แต่ยังทำให้ออสการ์ต้องหันมามองหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่อย่างจริง ๆ จัง ๆ เสียที ทั้งหมดทั้งมวลก็เพรา คริสโตเฟอร์ โนแลน และ ฮีธ เลดเจอร์!
MovieTalk จะพาคุณไปสำรวจชุดความคิดของ คริสโตเฟอร์ โนแลน ใน MovieTalk Special Series ชุด N – O - L – A- N - F ด้วยการอุ่นเครื่องไปกับ 10 หนังของเทพโนแลน
The Dark Knight (2008)
Directed: Christopher Nolan/Screenplay: Jonathan Nolan, Christopher Nolan/Story by Christopher Nolan, David S. Goyer/Based on Characters appearing in comic books published by DC Comics/Music: Hans Zimmer, James Newton Howard/Cinematography: Wally Pfister/Edited: Lee Smith/Distributed by Warner Bros. Pictures
Starring : Christian Bale, Michael Caine, Heath Ledger, Gary Oldman, Aaron Eckhart, Maggie Gyllenhaal, Morgan Freeman
Running time 152 minutes
เกิดการปล้นธนาคารขึ้น โจรร้ายทิ้งไพ่โจ๊กเกอร์ไว้ ผู้กองกอร์ดอนขอให้แบทแมนเข้ามาสืบเรื่องนี้ เงินที่ถูกปล้นเป็นธนาคารของพวกสมาคมมาเฟีย และในที่สุดโจ๊กเกอร์ก็ปรากฎตัวขึ้นในระหว่างการประชุมลับ และยื่นข้อเสนอที่จะจัดการกับแบทแมนขณะเดียวกัน ฮาร์วี่ เดนท์ อัยการไฟแรงที่พร้อมจะส่งอาชญากรเข้าคุก บรูซ เวย์นมองว่าเขาคือสัญลักษณ์แห่งความยุติธรรมที่แท้จริง และพร้อมจะสนับสนุน แต่ตัวแปรสำคัญที่ทำให้ทุกอย่างเดินสู่วิกฤตคือ ‘โจ๊กเกอร์’
คริสโตเฟอร์ โนแลน กลับมาสานต่อแบทแมนอีกครั้ง โดยขยายขอบเขตไปโฟกัสที่ขั้วตรงข้ามของแบทแมน นั่นคือ ‘โจ๊กเกอร์’ จนปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือ โจ๊กเกอร์ ที่โดดเด่น มีสีสัน และดำดิ่งไปสู่ความเลวร้ายจนกลายเป็นการแสดงในระดับตำนานที่ต้องแลกด้วยชีวิตของ ฮีธ เลดเจอร์
การสร้างสรรค์ตัวละครโจ๊กเกอร์ที่เหมือนคนโรคจิตก็ไม่ใช่ อัจฉริยะก็ไม่เชิง มีทั้งบ้าคลั่งและอำมหิต การสร้างกลวิธีที่ใช้ชีวิตของคนจำนวนมากให้อยู่ในกำมือใครสักคน และต้องเลือกว่าจะ ‘ทำ’ หรือ ‘ไม่ทำ’ ในฉากวางระเบิดเรือเฟอร์รี่ ทำให้เหมือนกับตั้งคำถามกับคนดู จะเลือกอะไรระหว่าง ‘เอาตัวเองรอด’ โดยมือเปื้อนเลือด หรือ ‘เสี่ยงดวง’ ว่าจะอยู่หรือตายเพราะใครบางคน ถ้าเป็นคุณจะเลือกทำแบบไหน
แค่เพียงฉากนี้ก็อัดแน่นไปด้วยพลัง และต้องลุ้นกันจนหืดจับกระทั่งเรารู้ผลลัพธ์ แต่แล้วโนแลนก็หลอกให้คนดูตายใจก่อนจะอัดคนดูกลับอีกรอบ จนบางครั้งก็ไม่แน่ใจว่าชุดความคิดแบบนี้มันมาจากแรงขับของโจ๊กเกอร์ หรือ โนแลน กันแน่ (ฮา)
ในขณะเดียวกัน คนดูก็ได้เห็นความอลหม่านล้านเจ็ดในชีวิตสองด้านของบรูซ เวย์น มหาเศรษฐีเพลย์บอย และ แบทแมน อัศวินรัตติกาล ที่โลกของทั้งคู่ถูกท้าทาย บรูซ ต้องเห็นคนที่ตนรัก แรเชลที่มีอัยการฮาวีย์ เดนท์เคียงข้าง และ แบทแมนที่ถูกโจ๊กเกอร์ลองเชิงลองใจในบรรทัดฐานของคำว่าความยุติธรรม
การแสดงอันเป็นสุดยอดจนคว้าออสการ์มาครองในวันที่ตัวเองจากไปแล้วของ ฮีธ เลดเจอร์ น่าจะเป็นเครื่องการันตีในการสร้างสรรค์แคแร็กเตอร์ โจ๊กเกอร์ จนกลายเป็นระดับตำนาน การดำดิ่งไปสู่โลกมืดของเลดเจอร์จนเขาไม่สามารถแยกตัวเองออกมาได้ จนยิ่งทำให้อาถรรพ์บทโจ๊กเกอร์ยังคงเป็นที่ถูกกล่าวขานมาจนทุกวันนี้
คริสเตียน เบล กลับมารับบท บรูซ เวย์น-แบทแมน อีกครั้งที่คราวนี้เบลได้มีโอกาสพาคนดูไปพบด้านที่ต้องเสียสละ และความหมายของการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ต้องแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ถาโถมเข้ามา แต่นี่ล่ะคือวิถีทางของฮีโร่ การอุทิศตนเพื่อผู้อื่นและส่วนรวม
เปลี่ยนตัวแสดงจาก แคธี่ โฮล์ม มาเป็น แม็กกี้ กิลเฮนฮาล ที่รับไม้ต่อในบท แรเชล ดอว์ส สาวผู้อยู่ตรงกลาง และต้องเลือกชายหนึ่งในสองคนระหว่าง บรูซ เวย์น รักเก่าในอดีต หรือ ฮาร์วี่ เดนท์ รักใหม่ข้างกาย
แอรอน เอคฮาร์ท ดูดีในบทอัยการฮาร์วี่ เดนท์ ชายผู้ยึดมั่นในการต่อสู้กับเหล่าร้ายตามวิถีทางของกฎหมาย ก่อนจะพลิกผันกลายเป็นชายผู้ทำสิ่งตรงข้ามกับกฎหมายในนาม ทูเฟซ จริง ๆ แล้วตัวละครฮาร์วี่เป็นตัวละครที่น่าเห็นใจเพราะเขาคือผลพวงของการทำสงครามพิสูจน์ความคิดของโจ๊กเกอร์และแบทแมน คนดีจะถูกทำให้กลายเป็นคนชั่วได้หรือไม่
นักแสดงคนอื่น ๆ กลับมาทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น แกรี่ โอลด์แมน ในบท จิม กอร์ดอน, มอร์แกน ฟรีแมน ในบท ลูเซียส ฟ็อกซ์ และ ไมเคิล เคน ในบท พ่อบ้านอัลเฟรด
The Dark Knight ยังเป็นหนึ่งในหนังภาคต่อที่ทำออกมาได้เหนือชั้นกว่าภาคแรก และยกมาตรฐานการสร้างแคแร็กเตอร์ตัวร้ายจนมันกลายเป็นต้นแบบที่การที่หนังซูเปอร์ฮีโร่ต้องมีตัววายร้ายที่น่าจดจำ หรือโดดเด่นยิ่งกว่าซูเปอร์ฮีโร่
ภายในใจของคนเรามีทั้ง ‘ด้านดี’ และ ‘ด้านมืด’ หลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตที่ล่อลวงเราให้เดินสู่ ‘ด้านมืด’ หากแต่ ‘แสงสว่าง’ ที่อยู่ในใจนั่นล่ะ ที่จะนำทางเราให้เลือกที่จะ ‘ใฝ่ดี’ มากกว่าจะ ‘ใฝ่ร้าย’
ขอบคุณที่มาข้อมูล: IMDb, Wikipedia, Rotten Tomatoes, Youtube
ขอบคุณที่มาภาพประกอบ: IMDb, Wikipedia, Rotten Tomatoes, Twitter, The Playlist, Dailymotion, Whatculture.com, FilmLoverss

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา