1 ก.ย. 2020 เวลา 23:09 • สุขภาพ
🌺หน้าฝน..ระวังโรคหวัด ..การ์ดอย่าตก!🌺
💦ช่วงนี้ฝนตกทุกวัน เด็กๆจะเริ่มไอ น้ำมูกไหล กันบ่อยขึ้น ยิ่งเด็กอนุบาลที่ไปโรงเรียนเป็นปีแรก ยิ่งป่วยได้ง่ายค่ะ เพราะร่างกายยังไม่มีภูมิต้านทานต่อเชื้อโรค ต่างๆ ทั้งไวรัส และ แบคทีเรีย จึงป่วยกันแทบจะทุกเดือน
ปีนี้เด็กๆได้หยุดอยู่บ้านกันนานกว่าปกติ มีความสุขกินได้นอนหลับ น้ำหนักขึ้นมีน้ำมีนวล สุขภาพดี เด็กๆไม่มาเจอกันก็ไม่ป่วยจริงๆค่ะ หมอเด็กได้พักผ่อนกันยาวไป..😀
เด็กๆอยู่บ้านมา 3 เดือน ไม่ป่วยเลย หมอเด็กก็ได้พักผ่อนเต็มที่
แต่หลังจากเปิดห้องเรียนให้มาเรียนได้ตามปกติ ก็ตรงกับช่วงหน้าฝนพอดี💦
ภาพจาก https://www.pinterest.co.kr/pin/497647827578442790/
พอเปิดเรียนเท่านั้นล่ะค่ะ ...ถึงแม้มีมาตรการเข้มงวด...
🎈หน้าโรงเรียนครูวัดไข้ก่อนเข้าโรงเรียน ถ้ามีไข้ จะไล่กลับบ้านทันที! ถึงห้องเรียน ใครไอน้ำมูกไหล ครูโทรเรียกพ่อแม่ ...ยังขับรถไม่ถึงไหนเลย ...ต้องวกมารับลูกกลับบ้าน
(พ่อแม่จะได้เริ่มเรียนรู้ว่า ถ้าลูกป่วยเป็นไข้ ไอ น้ำมูก ต้องหยุดเรียน ไม่อย่างนั้นแต่ก่อน น้ำมูกไหลไอโขลกก็ยังส่งโรงเรียน ...หิ้วถุงยามาให้ครูป้อนที่โรงเรียนอีกต่างหาก ☺️)
🎈เด็กทุกคนต้องใส่หน้ากาก ก็ใส่ในห้องเรียนค่ะ แต่ตอนไปวิ่งเล่นกัน เผลอๆหน้ากากหลุด ฟุดฟิด น้ำมูกย้อย ใส่กัน ...ติดหวัดเบ็ดเสร็จอีกตามเคย☺️
🎈เด็กนั่งโต๊ะห่างๆกัน ก่อนกินข้าวล้างมือ แต่ละคนใช้ช้อน และแก้วน้ำส่วนตัว
..เด็กๆก็ยังไม่วายป่วยค่ะ น้ำมูกไหล ไอ บางคนไข้ขึ้น ก็ต้องพามาหาหมอเอายาไปกิน และหยุดเรียนจนกว่าจะหาย
ระบบทางเดินหายใจ นำอ๊อกซิเจนลงไปสู่ปอด แลกเปลี่ยนเอาคาร์บอนไดอออกไซด์ ออกมา
🎈อาการไอเกิดจากอะไร?🎈
การไอคือกลไกป้องกันตัวเองอย่างหนึ่ง หากมีการสำลักสิ่งแปลกปลอมเข้าไป ร่างกายจะมีปฏิกิริยาตอบสนองส่งสัญญาณประสาทจากศูนย์ควบคุมที่สมองลงมาที่ กล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจให้หดตัวและเพิ่มกำลังในการอัดลมเป่าออกมาอย่าง รวดเร็ว เกิดเสียงที่เราเรียกว่า 'การไอ' นั่นเอง
การไอจะขับมูกส่วนเกินในทางเดินหายใจออกไปด้วยความแรงถึง 300 มิลลิเมตรปรอทเลยทีเดียว
หายใจเข้าปอดขยาย หายใจออก หรือไอ กล้ามเนื้อที่ซี่โครงจะหดตัว
การไอจะเกิดขึ้นเมื่อทางเดินหายใจได้รับความระคายเคืองด้วย เช่น เป็นหวัด เจ็บคอ
เวลาล้มตัวลงนอน แล้วมีน้ำมูกไหลลงในคอก็จะไปกระตุ้นให้หลอดลมหดตัวและเกิดการไอด้วย
เสียงไอที่เกิดจากการอักเสบทางเดินหายใจจะมีความแตกต่างกันตามตำแหน่ง ที่เป็น
บางทีแค่ฟังเสียงไอก็พอจะบอกตำแหน่งได้คร่าวๆแล้วว่า มีการอักเสบที่ส่วนต้น หรือส่วนปลายของทางเดินหายใจ
ทางเดินหายใจส่วนบน : คอ จมูก กล่องเสียง. ทางเดินหายใจส่วนล่าง : หลอดลม และ ปอด
เช่นอักเสบคอ มีการระคายคอจะไอเสียงแห้งๆ
ไอจากกล่องเสียงอักเสบจะเป็นเสียงก้องคล้ายเสียงสุนัขเห่า
หลอดลมอักเสบหรือปอดอักเสบจะไอแบบมีเสมหะอยู่ลึกๆ ค่ะ
 
🎈ใช้ยาแก้ไอช่วยให้ลูกหยุดไอดีไหม ?🎈
อาการไอเป็นสัญญาณเตือนว่าเกิดปัญหาขึ้นในระบบหายใจ จึงไม่ควรกินยาระงับการไอโดยยังไม่ทราบสาเหตุของการไอค่ะ
ยาระงับการไอเป็นยาที่ออกฤทธิ์กดศูนย์ควบคุมการไอที่สมอง จึงต้องเลือกใช้อย่างระมัดระวัง
🌺ส่วนใหญ่เด็กที่ไอมักจะเกิดจากมีเสมหะ หากใช้ยาหยุดการไอกลับจะทำให้เสมหะคั่งค้าง จึงไม่ได้กำจัดเสมหะที่เป็นสาเหตุที่แท้จริงของการไอ🌺
 
ยาแก้ไอที่ใช้ในเด็กส่วนมากเป็นยาขับเสมหะและยาละลายเสมหะค่ะ
ยาขับเสมหะจะกระตุ้นเยื่อบุกระเพาะอาหารทำให้เกิดการหลั่งน้ำเมือกในทางเดิน หายใจมากขึ้น เสมหะจะมากขึ้นในระยะแรก เมื่อไอไล่เสมหะออกหมดจึงจะหยุดไอ
ส่วนยาละลายเสมหะจะลดความเหนียวของเสมหะลง จึงถูกขับออกง่ายขึ้นค่ะ
 
🎈คุณพ่อคุณแม่ที่เคยสงสัยว่า ทำไมกินยาแก้ไอแล้วลูกไอมากขึ้น คงจะเข้าใจแล้วนะคะว่าเป็นเพราะยานั้นคือยาขับเสมหะ ไม่ใช่ชนิดกดอาการไอ🎈
แพทย์จะพิจารณาใช้ยากดการไอในรายที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น เช่นไอมากจนพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือการไอที่เจ็บปวด เช่นคนไข้หลังผ่าตัดหรือไอจากเยื่อหุ้มปอดอักเสบ
ภาพจาก https://mgronline.com/infographic/detail/9620000106631
🎈หากเราช่วยให้เสมหะออกได้ดีเท่าใด เด็กก็จะหายจากการไอเร็วขึ้นเท่านั้น🎈
✅เสมหะจะออกได้ดีเมื่อ
 
1.เสมหะไม่เหนียว...ต้องให้เด็กดื่มน้ำมากขึ้น เพราะน้ำคือยาละลายเสมหะ ที่ดีที่สุด
2.เสมหะไม่ติดค้างในหลอดลม ช่วยได้โดยการเคาะปอด ในเด็กที่นอนป่วย ให้ขยับเปลี่ยนท่านอนพลิกทางซ้ายบ้างทางขวาบ้าง อย่าให้นอนในท่าเดียวนาน ๆ
3.รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ ยาปฏิชีวนะ และยาละลายเสมหะ
💦ช่วงหน้าฝน ขอให้รักษาสุขภาพกันค่ะ ทุกๆท่านไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ดื่มน้ำให้เพียงพอ💦
🎈ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ออกไปนอกบ้าน หมั่นล้างมือบ่อยๆ อย่าเอามือขยี้ตา อย่าจับจมูกปาก🎈
🌺การ์ดอย่าตกค่ะ!🌺
บทความโดย
พญ ศิริพัฒนา ศิริธนารัตนกุล

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา