4 ก.ย. 2020 เวลา 09:34 • ปรัชญา
๓๐.เธอคือมหาวิหารแห่งความรัก
ความซื่อสัตย์สุจริตนั้นจำเป็นด้วยหรือ
ที่เธอจะรับตราประทับหมายมาจากโบสถ์
มันไม่ใช่เลือดเนื้อและวิญญาณของเธอเองดอกหรือ
และมันมิได้ถูกจำกัดลง
จากอิสรภาพอันยิ่งใหญ่ในความดี
ต้องสูญเสียสาระ
และพอกพูนทิฏฐิอันแกร่งกร้าวขึ้นดอกหรือ
และไม่ช้านานมานี้เอง
ที่ความสว่างได้เลือนหายไปจากความทรงจำอันบริสุทธิ์
และตัวเธอค่อย ๆ ถูกดูดกลืน
เข้าสู่โลกมืดแห่งความรุนแรง
นิ้วที่สงวนไว้ในถุงมือเมื่อหยิบยื่นนั้นเป็นการให้แล้วหรือ
แขนที่เหวี่ยงไปแต่ไร้แววตานั้นชี้ทางให้ผู้พลัดถิ่นเล่า
กลั้นลมหายใจเพื่อดื่มน้ำในกะลาของชนต่างผิวนั้น
เธอได้เป็นคนของชาติชั้นและวรรณะ, เธอทำมันทำไม?
เมื่อเธอไร้มือ ปราศจากแววตาปรานีและไม่มีลมหายใจ
โบสถ์แห่งลัทธิของเธอ เตรียมแท่นนอนอันศักดิ์สิทธิ์ไว้
หลักศิลาสลักนาม ทั้งศรัทธาอันแรงกล้าถูกปักหมาย
และเธอได้ตายไปนานนักหนาแล้วจากศรัทธาในตัวเอง
น้ำตาที่หลั่งไหลต่อชะตากรรมของผู้เข็ญใจ
เสียงกระซิบอันเต็มไปด้วยมุทิตา
เธอได้ยินและรู้สึกด้วยตัวเองไม่ได้หรือ
จำเป็นนักหรือ ที่เธอต้องเป็นตัวละคร
ที่ผู้อื่นจะต้องบอกบทให้ซ้ำแล้วซ้ำอีก
เธอยิ่งเคอะเขิน และพบแต่ความผิดพลาด
ต่อหน้าศิลาหลักแห่งความยุติธรรมและเมตตา
เธอเองคือมหาวิหารแห่งความรักและการอุทิศ
ลุกขึ้นเถิด สะกดความไร้ศรัทธาให้หลับเสีย
บอกข่าวทุกข์ยากของเธอเอง
และปวงพี่น้องทั้งโลกของเธอ
ต่อเทพเจ้าแห่งความยุติธรรมและเมตตา
ร้องขอโทษด้วยเสียงของตัวเอง
และด้วยน้ำตาแห่งความจริง
เดินออกจากป่าช้าอันวังเวงนั้นเสีย
เริ่มวันใหม่อันผุดผ่องด้วยตัวของเธอเอง
และลืมป่าช้านั้นเสียให้สิ้น
เพราะว่าเธอคือชีวิต
และทุกสิ่งที่เธอแสดงออกนั้นคือความจริง
“แสงดาวและคนเดินทาง”
เขมานันทะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา