3 ข้อ ที่เมกายอมรับว่าจีนเหนือกว่าทางการทหาร
ตามที่เราได้นำเสนอเป็นเรียกน้ำย่อยไปก่อนหน้านี้เกี่ยวกับ รายงานพัฒนาการทาง
การทหารของจีน ที่จัดทำโดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ประจำปี 2020 นี้ ยังคงมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกหลายส่วนให้ได้นำเสนอกันยาวๆ วันนี้ เราจะนำเสนอ 3 ข้อที่สหรัฐ
อเมริกายอมรับว่า ณ ปัจจุบันนี้จีนมีขีดความสามารถเท่ากันหรือแซงสหรัฐไปแล้ว
สหรัฐได้กล่าวในรายงานว่า จีนได้พัฒนาปรับปรุงความทันสมัยด้านการทหารได้ทัดเทียมหรืออาจจะแซงสหรัฐอเมริกาไปแล้วใน หลายประเด็นด้วยกัน แต่ที่หลักสำคัญมีอยู่ด้วยกัน 3 ข้อ ได้แก่
1. การต่อเรือ ปัจจุบันจีนมีกองทัพเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้ว โดยกำลังรบทางเรือทั้งหมด รวมเรือผิวน้ำและเรือดำน้ำ มีจำนวนกว่า 350 ลำ โดยกว่า 130 ลำเป็นเรือรบหลักผิวน้ำ ( Major Surface Combatants)
เรือรบจีน
กองทัพเรือสหรัฐในช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้ ยังมีจำนวนเรืออยู่ 293 ลำเท่านั้น ทั้งนี้ จีนได้ก้าวเป็นชาติที่ผลิตเรือในระดับท๊อปๆของโลกได้แล้วในเรืองของขนาดระวางบรรทุกที่สามารถต่อได้ และจีนยังเพิ่มขีดความสามารถในการต่อเรือ ทั้งในเรื่องของจำนวน และขีดความสามารถให้กับเรือทุกชั้นของกองทัพเรือจีนอีกด้วย
ตรงนี้เองกระทรวงกลาโหมสหรัฐอาจเพิ่มข้อกังวลจากการที่สหรัฐฯเองยังไม่สามารถเดินตามแผนที่จะขยายจำนวนเรือให้ถึง 350-355 ลำได้ในอนาคตอันใกล้ และอาจมีการตัดเรือออกอีกจากจำนวน 293 ลำ ที่มีอยู่ปัจจุบัน เช่น แผนการลดจำนวน Arleigh Burke-class destroyers จาก 13 เป็น 9 ลำ และแผนการปลดประจำการ Ticonderoga-class cruisers จำนวน13ลำ จากทั้งหมด 22 ลำเป็นต้น (ที่มา https://nationalinterest.org/blog/buzz/us-navys-dream-355-ship-fleet-dead-108576)
2. ข้อที่สองนี้สหรัฐมองว่า ระบบจรวดร่อนและขีปนาวุธภาคพื้นดินของจีนมีความเหนือกว่า โดยจีนสามารถพัฒนาขีปนาวุธทุกรูปแบบได้โดยไม่ถูกจำกัดโดยสนธิสัญญา
หรือกฏหมายระหว่างประเทศใดๆ
ขีดความสามารถในการโจมตีทางยุทธวิธีของขีปนาวุธจีน
สหรัฐฯ คาดการณ์ว่า จีนมีขีปนาวุธแบบยิงจากภาคพื้น( Ground-Launched Ballistic Missiles : GLBM )รวดร่อนแบบยิงจากภาคพื้นพิสัย (GLCM) 500 - 5500
กิโลเมตร รวมกันมากกว่า 1250 ลูก
สหรัฐอเมริกาเองนั้นยังมีGLBM เพียงชนิดเดียวและมีพิสัยยิงที่ 70-300 กิโลเมตรเท่านั้น (เข้าใจว่าเป็น ATACMs -ผู้เขียน) และสหรัฐฯยังไม่มี GLCM หรือจรวดร่อนยิง
จากภาคพื้นประจำการเลย
พิสัยการยิงขีปนาวุธติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ของจีน
3. การบูรณาการระบบป้องกันภัยทางอากาศ สหรัฐอเมริกากล่าวอีกว่า ประเทศจีนมีกองกำลังระบบอาวุธแบบพื้นสู่อากาศขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีทั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ผลิตโดยรัสเซียอย่าง S-400s และ S-300s และยังมีระบบแบบที่ผลิตเอง
ในประเทศอีก
ระบบป้องกันภัยทางอากาศของจีน
ระบบที่ทั้งหมดนี้จะถูกนำมาบูรณาการก่อให้เกิดโครงสร้างบูรณาการระบบป้องกันภัยทางอากาศที่แข็งแกร่งและซับซ้อน
ทั้งหมดเป็นสามข้อที่สหรัฐวิเคราะห์ข้อมูลออกมาได้ว่าคือข้อเด่นที่จีนพัฒนาทางการทหารมาจนตามทันหรือแซงสหรัฐไปแล้ว ยังไม่นับถึงการที่สหรัฐให้ข้อมูลว่าจีน มีทั้งกองทัพบกที่ใหญ่ที่สุดในโลก กองทัพเรือที่ใหญ่ทีสุดในโลก กองทัพอากาศที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกและใหญ่ที่สุดในภูมิภาค
รายงานฉบับนี้เป็นรายงานที่สหรัฐฯจัดทำขึ้น เราไม่ได้เป็นผู้เขียนข้อมูลขึ้นมาเอง
ถ้าถามว่ารายงานกองทัพจีน แต่จัดทำโดยอเมริกา จะเป็นอย่างไร ก็คงต้องบอกว่า
ส่วนหนึ่ง เป็นไปเพื่อการประกาศในศักยภาพการข่าวและการวิเคราะห์สถานการณ์ของอเมริกา ให้จีนรู้ว่า "ฉันรู้นะว่าเธอ ทำอะไรอยู่"
ในบางประเด็นที่สหรัฐวิเคราะห์ออกมา เราๆในฐานะผู้ติดตามสถานการณ์ อาจคิดว่าสหรัฐ เล่นใหญ่หรือโอเวอร์ไป จีนไม่น่าจะแซงหรือไปได้ถึงขั้นที่สหรัฐฯต้องกลัว
แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า เอกสารฉบับนี้จะถูกนำไปประกอบในการกำหนดนโยบาย ในการ
กำหนดงบประมาณ รวมถึงการพัฒนาและการปรับปรุงกองทัพของสหรัฐอเมริกาให้ตอบสนองต่อภัยคุกคาม บทวิเคราะห์ต่่างๆ ก็อาจมีขึนเพื่อสร้างความตระหนกหรือ
สร้าง Perceptionให้กับผู้กำหนดนโยบายอีกทีหนึ่งได้
เอวัง
ที่มา
- 13
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
