10 ก.ย. 2020 เวลา 10:00 • ประวัติศาสตร์
ไขคดียุคเก่ากึ้ก! เปิดวิธีการสืบสวนอาชญากรรมฉบับอียิปต์โบราณ แต่ละอย่างโหดๆ ทั้งนั้น
WIKIPEDIA PD
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
การสืบสวนคดีอาชญากรรมนั้นมีมานานนับพันปีแล้ว โดยย้อนไปถึงในยุคอียิปต์โบราณ พวกเขามีการจ้างคนที่ทำหน้าที่สืบสวนโดยเฉพาะ มีการบันทึกในรายละเอียดไว้เป็นอย่างดี และนี่คือเรื่องราวที่จะทำให้คุณทราบว่าเมื่อ 3,000 ปีก่อน พวกเขาไขคดีกันอย่างไร
1. เพื่อป้องกันการเกิดอาชญากรรม ตำรวจส่วนใหญ่ที่อียิปต์โบราณจึงต้องคอยตรวจตราตามเมืองต่างๆ สำรวจสิ่งผิดปกติที่หลุมศพและตลาดเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครกล้าสร้างปัญหา หากผู้ใดก่ออาชญากรรมแล้วถูกจับได้ เขาอาจลงเอยด้วยการถูกลิงกัดเข้าที่ใบหน้า เพราะเจ้าหน้าที่จะมีลิงที่ถูกฝึกคอยอยู่ข้างกายเพื่อรับคำสั่งให้โจมตีผู้ก่อเหตุร้าย
123RF
2. มีการออกกฎหมายว่าหากผู้ใดรู้เหตุหรือข่าวคราวเกี่ยวกับคดีหรือผู้ที่จะก่ออาชญากรรมแล้วไม่แจ้งจะมีความผิดหนัก ทำให้เมื่อฟาโรห์รามเสสที่ 3 ถูกลอบปลงพระชนม์ ตำรวจไม่ได้แค่จับตัวผู้ต้องสงสัย แต่ยังจับตัวคนรับใช้ไปทั้งหมด และเมื่อทำการสืบสวนเสร็จสิ้นแล้วกลับไม่สามารถหาคนร้ายได้ พวกเขาทั้งหมดถูกตัดหูเป็นการลงโทษ
หรือลูกน้องของอาชญากรรายหนึ่งได้ยินแผนที่หัวหน้าจะทำการขโมยของมีค่าในหลุมศพ เขาจึงลนลานรีบเขียนจดหมายไปแจ้งตำรวจเพราะกลัวความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด
3. เมื่อมีคดีที่จริงจังเกิดขึ้น นักสืบจะถูกส่งไปทำการสอบสวน โดยเริ่มต้นจากการหาผู้ต้องสงสัย สอบถามพยาน สำรวจพื้นที่เกิดเหตุ หรือแม้กระทั่งมีการตั้งทฤษฎีแล้วทำการพิสูจน์เพื่อทำการไขคดี
เมื่อสุสานถูกปล้นในรัชสมัยของฟาโรห์รามเสสที่ 9 พระองค์ได้ส่งทีมนักสืบเพื่อลงไปทำการสำรวจทุกสุสานโดยรอบเพื่อตรวจสอบว่าหัวขโมยได้ไปยุ่งย่ามกับสุสานอื่นอีกหรือไม่ ทีมนักสืบได้พบอุโมงค์ที่หัวขโมยได้ใช้เป็นช่องเข้าไปในสุสาน นักสืบได้วัดขนาดของอุโมงค์เพื่อคาดคะเนขนาดตัวของคนร้าย หลังจากนั้นได้ตามหาผู้ต้องสงสัยด้วยการตรวจสอบรายชื่อพลเมืองที่มีความรู้ในการทำเหมืองและประวัติอาชญากรรมและเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อหาตัวคนร้ายต่อไป
4. ในขั้นตอนการสอบปากคำ นักสืบจะทำการทุบตีพยานหรือผู้ต้องสงสัยจนกว่าจะรับสารภาพหรือได้สิ่งที่ต้องการ โดยผู้ต้องสงสัยจะถูกมัดไว้กับเสาและทุบมือหรือเท้าจนกว่าจะได้คำตอบที่หรือรับสารภาพและถ้าให้การปฏิเสธก็จะถูกทุบตีซ้ำอีก ส่วนพยานหากไม่ยอมเปิดปากพูดก็จะถูกตีด้วยไม้จนกว่าจะยอมเปิดปาก และถ้าพยานไม่ยังไม่ยอมพูดก็จะไปลากลูกเมียมาซ้อมเพื่อให้พูดด้วย
WIKIPEDIA PD
5. เมื่อชาวอียิปต์โบราณคิดได้ว่าการทุบตีอย่างเดียวอาจทำให้ได้คำตอบที่ผิดพลาด พวกเขาจึงใช้วิธีการสืบสวนหาหลักฐานที่มีให้ได้มากที่สุดและนำมาเปรียบเทียบกับคำรับสารภาพว่าสัมพันธ์กันหรือไม่ และถ้าหากผู้ก่อเหตุทำงานกันเป็นทีมจะมีการสอบสวนแยก(ซึ่งก็รวมถึงการซ้อมแยกด้วยอยู่ดี)
6. การปากแข็งแกล้งทำเป็นผู้บริสุทธิ์นั้นง่าย แต่ถ้าหากถูกจับได้นั้นมีผลลัพธ์ที่น่ากลัวกว่าความผิดในอาชญากรรมนั้นๆ เสียอีก เมื่อผู้ต้องสงสัยหรือพยานขึ้นให้การในศาลจะต้องสาบานว่าจะพูดความจริงและถ้าหากพวกเขาโกหกจะต้องโดนอะไรบ้างโดยขึ้นอยู่กับโทษในความผิดของคดีนั้นๆ เช่น การตัดจมูก ตัดหู
7. มีการติดสินบนศาลเพื่อให้ตัดสินคดีให้เป็นไปตามที่ต้องการ คนรวยอาจพ้นโทษได้ง่ายๆ ด้วยการให้เหรียญทองจำนวนหนึ่งแก่ผู้พิพากษาเพื่อแลกกับการพ้นผิด
8. คดีส่วนใหญ่ของอียิปต์โบราณมักถูกตัดสินว่ามีความผิด แต่ต่อให้คุณถูกตัดสินให้ไม่มีความผิดและได้เป็นอิสระ มันก็ไม่ได้เป็นอิสระเสียทีเดียวเพราะจะถูกบันทึกในประวัติว่าเป็น “มหาอาชญากร” ต่อท้ายชื่อ ทำให้คุณเหมือนกลายเป็นอาชญากรทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำความผิดอะไร
WIKIPEDIA CC JEFF DAHL
9. เมื่อสุดหนทางจะหาคำตอบหรือไขคดีแล้วจะมีการถามรูปปั้นเทพอามุน ซึ่งจะมีนักบวชเป็นผู้ทำพิธีโดยถามคำถามที่มีคำตอบเพียงใช่หรือไม่ ถ้าหากรูปปั้นเคลื่อนที่ไปข้างหน้าคำตอบก็คือใช่ และถ้ารูปปั้นเคลื่อนที่ไปข้างหลังคำตอบก็คือไม่ แน่นอนว่ารูปปั้นเทพอามุนไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเอง แต่มันมีคนอยู่ข้างในนั้น
10. การนอกใจมีบทลงโทษอย่างร้ายแรง ถ้าหากผู้หญิงมีความผิดฐานนอกใจสามีเธอจะถูกตัดจมูกหรือถูกเผาทั้งเป็น ถ้าหากฝ่ายชายนอกใจภรรยาเขาจะถูกโบย 1,000 ครั้ง
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา