22 ก.ย. 2020 เวลา 07:58 • หุ้น & เศรษฐกิจ
บริหารความมั่งคั่งอย่างไรให้โตเฉลี่ย 10% ต่อปี จาก SCB Julius Baer จากรายการ The Secret Sauce
- ความมั่งคั่งไม่ได้หมายถึงการลงทุนที่เป็นตัวเงินเท่านั้น แต่เป็นกาส่งต่อบางสิ่งบางอย่างด้วย
- คนไทยทุกวันนี้รวยขึ้น คนอายุน้อยเริ่มรวยเร็วขึ้นกว่าสมัยก่อน
- ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Wealth management ลูกค้าจะเชื่อเรื่องความเชื่อถือมาก่อนหรือ trust ร่วมกับ performance ที่ทางบริษัททำให้ลูกค้าได้อย่างสม่ำเสมอ จากนั้นเรื่อง connection จะตามมาต่อเป็นรื่องต่อไป
- SCB Julius Baer ให้บริการกับลูกค้าที่มีสินทรัพย์เกิน 100 ล้านบาท เกิดจาก pain point ที่ว่าเขามีเงินระดับหนึ่งแล้ว เขาจะลงทุนอะไรดีโดยเป็ยการตอบโจทย์เรื่องการนำผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศมา offer ให้กับลูกค้า แทนที่ลูกค้าจะออกไปหาเอง
- กระบวนการ deal ของ SCB Julius Baer มีการบริหารและให้คำแนะนำ
- Capability มีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้ return 10% ต่อปีที่ผ่านมา
- DPM คือการที่เรามีเงิน แต่ไม่มีเวลา ช่วยเอาเงินไปบริหารก่อน แต่ต้องมานั่งคุยกันก่อนเรื่อง risk จากนั้นก็ให้ไปเลือก baddage/package ที่แตกต่างกันซึ่งเป็นการลุงทุนในหุ้น 100% ที่เป็น value stock ซึ่งมีหุ้นในกลุ่ม technology ปนในนั้นด้วย
- ประสบการณ์การและการทำ research ต่างๆเป็นจุดแกร่งของ Julius Baer
- หลักๆคือการหาหุ้นที่ undervalue ในวันนี้เพื่อคาดการณ์กำไรในอนาคตโดยการทำเหมือนไป business company
- Fear ของลูกค้าที่จะลงทุน offshore คือ การที่ต้อง convert จากเงินบาทไปเป็นสกุลเงินอื่น
- กลยุทธิ์ของ Julius Baer ตอนนี้คืออะไร เพราะตอนนี้ความผันผวนในตลาดค่อนข้างมาก ซึ่งประเภทสินทรัพย์ที่ยังเชื่ออยู่ว่าให้ผลตอบแทนดีที่สุด คือ หุ้น โดยเฉพาะใน USA กับจีน
- คาดว่าหลังเลือกตั้งเสร็จ trade war คงกลับมา แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าตอนนี้หุ้นใน USA จะแพงแต่เชื่อว่ายังมี growth อยู่ หรือ next generation ที่จะเกิดขึ้น
- พวก Fixed income เช่น ตราสารหนี้ยังคงให้ความสำคัญกับ investment grade ซึ่งอาจจะเหมาะสำหรับคนที่รับความเสี่ยงไม่สูงแต่ผลตอบแทนจะไม่สูงเท่าหุ้น
- การเริ่มธุรกิจที่ต้องมี relationship ให้เริ่มจากความจริงใจ ความเชื่อใจ ความขยันในการหมั่นเข้าหาลูกค้าและความใส่ใจของลูกค้า
- นอกจากความสนุกที่ได้ทำงานนี้แล้ว คุณแป๋มยังได้ประสบการณ์จากการพูดคุยกับลูกค้าว่าสินทรัพย์ที่ลูกค้าสร้างมาเกิดขึ้นได้อย่างไร กว่าจะได้มาเหนื่อยยากลำบาก ทำให้เป็นบทเรียนที่คุณแป๋มได้เรียนรู้ด้วย
Value preposition ของ Julius Baer
1. Preformance ที่เก่งและสามารถให้คำแนะนำลูกค้าได้
2. Commitment
3. Learning ไปพร้อมกับลูกค้า
คนที่อยากทำงานด้านนี้ต้องมี
1. ชอบตลาดและหลงไหลศึกษาด้านการลงทุน
2. ชอบการ service ลูกค้า
บทเรียนที่ได้เวลาเกิดวิกฤติ
1. ห้ามตกใจ ต้องแยกแยะให้ได้ว่าวิกฤตินี้เป็นแค่ event ที่มีวันจบหรือเป็นการเปลี่ยน structure direction ถ้าเป็นแค่ event ชั่วคราว ไม่ควร cut loss ถ้าเราถือ good stock อยู่ แต่ถ้าเป็นการเปลี่ยน structure direction อันนี้ต้องระวัง
2. ก่อนจะ invest เราต้องเข้าใจก่อนว่าเราลงทุนไปเพื่ออะไร
3. ในวิกฤติมีโอกาสเสมอ
ขอขอบคุณคลิปจากช่อง The Standard และรายการ The secret sauce ครับ
สามารถชมคลิปตอนอื่นๆได้จาก https://www.blockdit.com/series/5f36116be5013b0cbb97f6f0
โฆษณา