23 ก.ย. 2020 เวลา 14:58 • ปรัชญา
อดีตไม่เคยจบ อนาคตเลยไม่มีวันมาถึง
สรรพสิ่งในชีวิตต่างดำเนินไปข้างหน้าด้วยการใช้อายุขัยเปลี่ยนเป็นแรงผลักดัน ซึ่งระยะทางการเคลื่อนไหวย่อมแตกต่างไปตามปัจจัยภายนอกและภายใน แม้เส้นทางที่ก้าวจะไกลสุดลูกหูลูกตาแต่เมื่ออยู่บนเส้นแบ่งของเวลาสิ่งมีชีวิตทั้งหลายไม่อาจมุ่งหน้าไปสู่อนาคตได้
การที่ใครหรืออะไรก็ตามมีความคิดเชื่อว่าสามารถพาตัวเองไปถึงจุดที่อนาคตดำรงอยู่ แท้ที่จริงแล้วเป็นเพียงแค่แนวคิดทางทฤษฎีมายาคติ เพราะการจะล้ำหน้ากาลเวลาเป็นสิ่งที่ไม่อาจเป็นไปได้
ในการจำแนกอดีต ปัจจุบัน อนาคต เป็นแค่การใช้คำเพื่อชี้ชัดบ่งบอกให้เห็นรายละเอียดปลีกย่อยหรือเหตุการณ์ไหนมาก่อนมาหลังเท่านั้น ซึ่งถ้าความคิดอ่านได้ประจักษ์รู้แจ้งย่อมต้องทราบว่ากาลเวลามีความหมายอย่างไร
โดยเนื้อแท้สสารวัตถุใด ๆ ก็ตามต่างต้องมีปฏิสัมพันธ์กับช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ไม่ว่าขอบเขตที่อยู่จะมีขนาดระดับไหนหรือระยะทางใกล้ไกลเช่นไร ผลลัพธ์ที่ได้ต้องบรรจบกันเสมอ
ทั้งนี้การคงอยู่ของเวลาเปรียบได้กับพระเจ้าที่มีตัวตนอยู่จริง เป็นมิติเหนือล้ำและสร้างผลกระทบไม่ยกเว้นกระทั่งตัวเอง
สุดท้ายการที่อนาคตไม่มีวันมาถึงเหตุเพราะเวลาจากอดีตไม่เคยเลือนหายไป การจะเปลี่ยนที่ย้ายตัวเองผนวกกับวันที่อยู่ข้างหน้าจะต้องตัดจบจากอดีตเพื่อละความเกี่ยวโยงถึงกันซะก่อน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา