28 ก.ย. 2020 เวลา 13:09 • บันเทิง
☄️ขุนช้างขุนแผน ฉบับอ่านเอง ☄️ ตอนที่ 5
“💕พิมพิลาไลย วัยแรกรุ่น “💕
ตอนที่แล้วได้เขียนถึง การที่พลายแก้วริรักกับนางพิมตั้งแต่ยังเป็นเณร โดยไม่มีใครชักนำให้ ก็ผิดขนบธรรมเนียมอยู่แล้ว เป็นประการแรก
ตอนที่ 5 นี้ก็ยิ่งผิดศีลธรรมเข้าไปอีก คือพลายแก้วพยายามสานต่อความสัมพันธ์ จนถึงขั้นนัดพบกับนางพิม ทั้งๆที่ยังเป็นเณร ล่วงเลยต่อเข้าไปหาพิมถึงในห้องนอนในยามวิกาล
พลายแก้วลักลอบได้เสียกับนางพิมทั้งๆที่ยังเป็นเณร ถึงแม้จะบอกว่าสึกจากเณรชั่วคราว ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ และไม่น่าเอามาเป็นเยี่ยงอย่างค่ะ
“🎈สึกจากเณรชั่วคราว” ทำได้ด้วยหรือ?🎈
หม่อมคึกฤทธิ์เขียนในหนังสือ “ขุนช้างขุนแผน ฉบับอ่านใหม่” หน้า 58
เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้อย่างนี้ค่ะ
“แต่เณรในสมัยขุนแผนนั้น หากจะดูจากเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ก็จะเห็นว่ามิได้กวดขันกันเรื่องวัตรปฏิบัติมากนัก คงให้ถือแต่ศีล 10 แล้วก็ถือว่าเป็นแค่เณร เมื่อศีล 10 ไม่ใช่ศีลปาติโมกข์ จึงไม่มีอาบัติ และไม่มีทัณฑกรรม หรือบทลงโทษแต่อย่างใด เมื่อศีลขาดแล้ว ต่อศีลใหม่ก็กลายเป็นเณรบริสุทธิ์ต่อไป “
“ด้วยเหตุนี้พลายแก้วจึงสึกจากเณร โดยขอให้พระองค์ใดองค์หนึ่งสึกให้ แล้วมาพบกับนางพิมอย่างใกล้ชิดที่ไร่ฝ้าย กลับไปวัดตอนเย็นก็ไปขอต่อศีลกับพระองค์หนึ่ง ซึ่งท่านก็ต่อให้ “
ก็แสดงว่า ในสมัยนั้นมีผู้ทำเช่นนี้ คือ ตอนบ่ายขอสึก ออกไปใส่เสื้อผ้าธรรมดา ตอนเย็นกลับมาต่อศีลห่มผ้าเหลืองเป็นเณรใหม่!
ในเสภาขุนช้างขุนแผน พลายแก้วจึงสึกออกมาชั่วคราวได้ เพื่อแอบพบกับนางพิมที่ไร่ฝ้าย โดยความช่วยเหลือของสายทองผู้เป็นพี่เลี้ยง
พลายแก้ว กับนางพิมที่ไร่ฝ้าย
มาอ่านความรู้สึกของเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะเข้าใกล้หญิงสาวเป็นครั้งแรกค่ะว่า มีความประหม่าเขินอาย ไม่รู้จะเริ่มคุยอย่างไรดี ...ก็เลยถามว่า. ..”น้องมานานแล้วหรือ?”😊
🌿”เข้าใกล้เห็นพิมผู้ดวงตา
นั่งร้อยบุปผชาติสะอาดโฉม
งามประโลมน่ารักเป็นหนักหนา
จะดูไหนเปล่งปลั่งทั้งกายา
ดังนางฟ้าลอยฟ้อนชะอ้อนงาม
จะใคร่ทักด้วยรักกำเริบทรวง
ยังหนักหน่วงไม่เคยก็คิดขาม
ปากสั่นหวั่นจิตรแต่คิดความ
ขยับปากแล้วก็คร้ามประหม่าใจ
เอาความรักหักจิตรที่คิดกลัว
กระถดตัวย่างเยื้องมานั่งใกล้
เยื้อนยิ้มทักเจ้าพิมพิลาไลย
สะดุ้งใจตัวแข็งด้วยความอาย
มาจากบ้านนานแล้วฤๅไรขา
อนิจจาแม่ออกมาเก็บฝ้าย
บ่าวไพร่สะพรั่งทั้งหญิงชาย
ลำบากกายต้องตามเขาออกมา”🌿
คุยไปคุยมา พิมบอกว่า ถ้าพลายแก้วตามมาด้วยความรักจริง ก็ให้มาสู่ขอกับแม่ ทั้งผู้คนบ่าวไพร่จะได้ไม่ติฉินนินทา
คือนางพิมก็อยากให้เข้าตามตรอกออกตามประตู ทำให้ถูกประเพณีเหมือนกันนะคะ
“🌿ถ้าเจ้าแก้วขอแล้วคุณแม่ให้
น้องดีใจให้พ่อมาเป็นผัว
ทำชู้สู่หาข้านี้กลัว
ความชั่วเขาติฉินไม่ยินดี
เจ้าติดตามมาถามด้วยความรัก
ก็ประจักษ์แจ้งใจอยู่ถ้วนถี่
จะอยู่ช้าว่าไรทำไมมี
อย่าเซ้าซี้รํ่าบ่นสนทนา”🌿
แต่พลายแก้วก็ได้คืบเอาศอก ด้วยยังเป็นเด็กหนุ่มฮอร์โมนกำลังพลุ่งพล่าน จนนางพิมต้องบอกว่า
๏ 🌿อนิจจาว่าแล้วหาฟังไม่
จะฆ่าพิมเสียที่ไร่นี้แล้วฤๅ
รักน้องกลางหนให้คนฦๅ
อย่างนี้น้องไม่ถือว่ารักน้อง
1
โดยชั่วถึงตัวมิได้แต่ง
ก็จัดแจงน้องนี้มีหอห้อง
พอควรการแล้วฉันจะปรองดอง
มิให้ข้องขัดเคืองกระเดื่องใจ
ตัวน้องมิใช่ของอันเคยขาย
จะเรียงรายกลางหนหาควรไม่
พิเคราะห์ให้เหมาะก่อนเป็นไร
กลับไปเถิดพ่อแก้วผู้แววตา
อดข้าวดอกนะเจ้าชีวิตวาย
ไม่ตายดอกเพราะอดเสนหา”🌿
ประโยคสุดท้ายที่ได้ยินกันบ่อยๆ มาจากเสภาเรื่องนี้เองค่ะ
พ่อแม่ของสาววัยรุ่นจึงได้แต่พร่ำบอกลูกสาวว่า อย่าอยู่กันสองต่อสองในที่ลับตาคนกับผู้ชายเป็นเด็ดขาด เพราะเหตุนี้แล ความเผลอพลั้งไม่ทันยับยั้งชั่งใจเกิดขึ้นได้เสมอๆ
พิมพิลาไลย เหมือนวัยรุ่น อายุ 15-16 โดยทั่วไป ที่ยังไม่เคยได้ใกล้ชิดผู้ชาย ยังมีความเขินอาย แต่เนื่องจากในใจก็คงจะแอบชื่นชม พลายแก้วอยู่แล้ว จึงเอนเอียงไปได้ง่าย
“🌿เจ้าพลายแก้วเป็นชายบริสุทธิ์
ผ่องผุดยังไม่มีที่กังขา
แม่ก็พรหมจารีศรีโสภา
แต่รุ่นมาไม่มีใครแผ้วพา”🌿
ก่อนจากกันที่ไร่ฝ้าย
“💕หยิบมือพิมน้อยประทับทรวง
แม่ดูดวงจิตรพี่ออกฟุ้งซ่าน
เวลาคํ่าแม่จงจำสังเกตการ
จะไปบ้านหาพิมพิลาไลย
ช้อนคางพลางจูบประคองชม
แนบเนื้อแนมนมเจ้าผ่องใส
พวงพุ่มตูมตั้งยังเป็นไต
อาลัยลูบโลมทั้งกายา”💕
ทั้งสองคนไม่เคยมีใครมาก่อน เป็นความรักวัยแรกรุ่นที่บริสุทธิ์ พิมจึงประทับตรึงตราใจ
คืนนั้นเณรแก้วก็สึกชั่วคราวมาหาถึงเรือนของ
พิมพิลาไลย สะเดาะกลอนประตูเปิดออกได้โดยง่าย พิมก็ได้กับพลายแก้วด้วยความเต็มใจ
พิมคิดว่าพลายแก้วจะมาสู่ขอโดยเร็ว
แต่พลายแก้วยังบวชเป็นเณรอยู่ อายุเพิ่งจะ 17-18 ปีเรียกว่า “ริรักในวัยเรียน” เพิ่งจะเข้า เณรน้อย อคาเดมี่ ได้ถึงชั้นมัธยมเท่านั้นเอง งานการ เงินทองก็ยังไม่มี จะมาสู่ขอได้อย่างไร?
ระหว่างนี้ขุนช้างก็แอบมาเมียงมองพิมอาบน้ำที่ริมตลิ่ง แล้วเดินตามถูกพิมด่าว่า ก็เลยเดินไปหานางศรีประจัน มาพูดจาสู่ขอนางพิม
พิมแอบได้ยินก็ร้อนใจ เพราะไม่ได้รักขุนช้างเลยแม้แต่น้อย
เณรแก้วก็เงียบหายไปหลายวัน สงสัยสมภารให้เรียนหนักไม่มีเวลาปลีกตัวมาหาเลย
พิมจึงออกอุบายว่าจะไปหาสมภารที่วัดป่าเลไลยก์ ให้ช่วยทำนายฝัน เมื่อถวายอาหารให้ท่านสมภารแล้วก็วานให้สายทองเอาหมากพลูไปให้เณรแก้ว
สายทองกับเณรแก้วคุยกันแต่ลำพังในกุฏิ ก็มีเณรไทยเดินผ่านได้ยินเสียงผู้หญิงในกุฏิก็แอบดู โวยวายถึงท่านสมภารมาเปิดกุฏิไล่ ทั้งสายทอง กับเณรแก้ววิ่งหนีแทบไม่ทัน😮
เณรแก้วจำต้องออกจากวัดป่าเลไลยก์ เรียกว่า จบชั้นมัธยมอย่างเร่งด่วน เพราะถูกไล่ออกจากสถาบัน!
ต้องหาวัดที่จะอยู่ใหม่ เพื่อรำ่เรียนต่อไป จำได้ว่าสมภารคง ที่วัดแค เป็นเพื่อนสนิทกับพ่อขุนไกร จึงไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์เล่าเรียนวิชาขั้นสูงต่อไป
ที่วัดแคนี้ ถือว่าเณรแก้วได้เรียนถึงขั้น มหาวิทยาลัยเลยล่ะค่ะ
“☄️โบกปัดพัดวีพระอาจารย์
ให้สำราญรื่นจิตรพิสมัย
ปฏิบัติมิให้ขัดข้องเคืองใจ
สมภารแนะนำให้ไม่ช้าการ
สะกดทัพจับพลทั้งปลุกผี
ผูกพยนต์ฤทธีกำแหงหาญ
ปัถมังกำบังตนทนทาน
สะเดาะดาลโซ่กุญแจประจักษ์ใจ
ทั้งพิชัยสงครามล้วนความรู้
อาจจะปราบศัตรูไม่สู้ได้
ฤกษ์พานาทีทุกสิ่งไป
ทั้งเสกใบมะขามเป็นต่อแตน
ชำนาญทั้งกลศึกลึกลับ
คุมพลแม่ทัพนับตั้งแสน
สู้ศึกได้สิ้นทั้งดินแดน
มหาละลวยสุดแสนเสน่ห์ดี
จังงังขลังคะนองล่องหน
ฤทธิรณแรงราวกับราชสีห์
ถอนอาถรรพ์กันประกอบประกับมี เลี้ยงผีพรายกระซิบทุกสิ่งไป”☄️
ระหว่างที่ขุนแผนกำลังร่ำเรียนวิชาขั้นสูงอย่างหนัก ไม่มีเวลาปลีกตัวมาหาพิมเลย ...ขุนช้างก็กำลังจะมาสู่ขอนางพิม
🚩พิมเด็กสาววัยแรกรุ่นจะทำอย่างไร ทุกอย่างในชีวิตดูสับสนวุ่นวายไปหมด? พอได้กันแล้ว พ่อพลายแก้วก็หายไปนาน..ขุนช้างก็เฝ้าเวียนป้วนเปี้ยนมาสู่ขอ...
ส่วนนางพิมไม่ได้สนใจขุนช้างเลยแม้แต่น้อย แต่แม่ศรีประจันกลับเห็นดี เนื่องด้วยขุนช้างเป็นเศรษฐีมีเงินทอง🚩
🌸เรื่องราวจะเป็นอย่างไร รอติดตามอ่านตอนต่อไปค่ะ🌸

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา