30 ก.ย. 2020 เวลา 00:00 • ประวัติศาสตร์
คนเราไม่เท่ากัน! ย้อนอดีต 'การถือผิว' นโยบายสุดประหลาดเมื่อรัฐบาลแอฟริกาใต้จำกัดสิทธิพลเมืองตามสีผิว
WIKIPEDIA PD
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
Apartheid หรือการถือผิวเป็นการแบ่งแยกกลุ่มคนต่างเชื้อชาติที่มีการบังคับใช้โดยรัฐบาลในช่วงปี ค.ศ. 1948-1994 ณ ประเทศแอฟริกาใต้
ไม่ว่าคุณจะรวยหรือจนแค่ไหนคุณจะต้องคุณจะต้องไปลงทะเบียนกับรัฐบาลเพื่อถูกจัดประเภทอยู่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในสามกลุ่มต่อไปนี้ ผิวขาวอย่างเห็นได้ชัด (obviously White) คือคนที่มีพ่อแม่เป็นคนผิวขาวทั้งคู่ คนดำ (Black) คือคนที่เป็นชนเผ่าหรือชนพื้นเมืองคนแอฟริกา และคนผิวสี (Coloured) คือคนที่เป็นลูกครึ่งหรือมีบรรพบุรุษที่เป็นคนอินเดีย
WIKIPEDIA PD
ถ้าหากว่าคุณถูกจัดประเภทให้เป็นคนดำแล้วต้องการเข้าไปในพื้นที่ปลอดคนดำจะต้องถือหนังสือที่ระบุลายนิ้วมือ รูปถ่าย และข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ไปด้วย แต่สำหรับบุคคลสีผิวอื่นๆ ไม่มีกฎหมายบังคับว่าจะต้องถือหนังสือนี้ไปด้วย และในช่วงเวลานั้นหนังสือนี้ยังระบุอาชีพและประวัติอาชญากรรม เจ้าหน้าที่สามารถขอดูหนังสือนี้ตอนไหนก็ได้ ถ้าหากไม่ได้พกติดตัวไว้ก็จะถูกจับ
ในปี ค.ศ. 1950 แอฟริกาใต้ได้มีการแบ่งแยกพื้นที่ในเมืองโดยแบ่งให้พื้นที่หนึ่งเป็นของกลุ่มคนสีผิวหนึ่งซึ่งส่งผลให้มีผู้คนมากมายต้องย้ายที่อยู่ซึ่งคนกลุ่มใหญ่นั้นก็คือคนดำนั่นเอง พวกเขาต้องถูกย้ายออกไปจากพื้นที่ในเมืองที่เคยอาศัยอยู่รวมถึงต้องย้ายงานจนเกิดความเดือดร้อนอย่างมากมายอีกด้วย และถ้าหากคนดำคนไหนที่ปฏิเสธจะย้ายก็จะถูกเจ้าของที่ดินหรือเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรง
WIKIPEDIA CC GUINNOG
การแต่งงานข้ามเชื้อชาติเป็นเรื่องแรกที่ผิดในยุคแห่งการถือผิว ความสัมพันธ์ทางเพศจะหว่างคนดำและคนขาวเป็นเรื่องต้องห้าม ตำรวจบุกค้นบ้านเรือนประชาชนที่สงสัยว่ามีคนต่างสีผิวมาอยู่ด้วยกัน การแบ่งแยกนี้ทำให้มีการแบ่งพื้นที่ต่างๆ อย่าง หลุมฝังศพ เก้าอี้ รถไฟ ที่ทำการไปรษณีย์ เคาน์เตอร์ธนาคารหรือแม้กระทั่งห้องน้ำตามแต่ละสีผิวขึ้นมา เด็กๆ ต่างสีผิวไม่สามารถเล่นด้วยกันได้ ผู้คนไม่สามารถทักทายกันตามพื้นที่สาธารณะได้ คนดำและคนขาวจะเข้าไปยังอาคารด้วยประตูคนละบาน
ปี ค.ศ. 1951 มีการออกพระราชบัญญัติเพื่อกำหนดบ้านเกิดหรือพื้นที่สงวนสำหรับคนแอฟริกันที่มีผิวดำ ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ก็มักจะเป็นพื้นที่ที่ด้อยพัฒนากว่าหรือเขตชนบทส่วนพื้นที่ที่ดีกว่านั้นก็จะถูกขายให้คนผิวขาวเป็นส่วนใหญ่ เมื่อคนดำถูกย้ายเข้าไปยัง “บ้านเกิด” พวกเขาเสียสัญชาติแอฟริกาใต้ทันทีและจะมีสถานะเป็นเพียงแค่ผู้มีถิ่นอาศัยอยู่ในรัฐเท่านั้น สาเหตุที่รัฐบาลทำอย่างนี้เพื่อตัดสิทธิ์ไม่ให้คนดำสามารถเลือกตั้งหรือเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองของประเทศแอฟริกาใต้ได้
แม้ทุกคนจะมีสิทธิได้รับการศึกษาแต่โรงเรียนก็ยังมีการแบ่งแยกเชื้อชาติและสีผิว ขณะที่ทุกคนสามารถเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้ แต่คนดำที่จะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของคนขาวจะต้องได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเสียก่อน และทางด้านการทำงานคนดำก็มักจะได้ทำงานที่ใช้แรงงานหรือในโรงงานอุตสาหกรรมเสียเป็นส่วนใหญ่
WIKIPEDIA PD
ไม่เพียงแต่ควบคุมการศึกษาเท่านั้น รัฐบาลยังควบคุมสื่ออีกด้วย หากสื่อใดที่มีแนวโน้มว่าจะต่อต้านรัฐบาลหรือต่อต้านแนวคิดการถือผิวมักจะถูกเป็นเป้าจากรัฐและถูกบังคับให้ลงไปอยู่ใต้ดินแทน
มีผู้คนที่ไม่พอใจเป็นจำนวนมากในนโยบายการถือผิวแห่งนี้ พวกเขาเริ่มต้นประท้วงการด้วยไม่พกหนังสือระบุตัวตนและเดินขบวนกันไปที่สถานีตำรวจชาร์ปพีวิล ต้องการให้จับกุมพวกตนที่ไม่ได้พกหนังสือมาด้วย การประท้วงที่สันตินี้ถูกตอบโต้จากตำรวจด้วยการยิงปืนเข้าใส่จนมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 69 คนจนกลายเป็นชนวนให้เกิดการต่อต้านไปทั่วแอฟริกาใต้จนต้องประกาศสภาวะฉุกเฉิน มีการจับผู้คนนับพันคนและเข้าปราบปรามการชุมนุมที่เกิดขึ้น
ในปี ค.ศ. 1955 คนดำและคนผิวสีร่วมกันตั้งกลุ่มเพื่อร่างกฎบัตรแห่งความเป็นอิสระ แต่สุดท้ายรัฐบาลได้ประกาศให้เอกสารเหล่านี้กลายเป็นเอกสารส่งเสริมการกบฏ ผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 156 คนถูกจับและถูกพิจารณาคดีในข้อหากบฏตลอดปี ค.ศ. 1957-1961 และตลอดช่วงเวลานี้ก็เกิดการประท้วง การบอยคอตไปทั่วแอฟริกาใต้ การประท้วงทวีความรุนแรงและการตอบโต้จากรัฐบาลก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นเช่นกัน
WIKIPEDIA CC WORLD ECONOMIC FORUM
ผู้เข้าร่วมประท้วงส่วนใหญ่มักจะถูกจับและถูกขังคุก ซึ่งเนลสัน แมนเดลา รัฐบุรุษแห่งแอฟริกาใต้ก็ถูกจับติดคุกไปเกือบ 30 ปีที่คุก ณ เกาะรอบเบน ซึ่งคุกแห่งนี้มีสภาพที่เลวร้ายและนักโทษการเมืองยังถูกจัดลำดับให้เป็นนักโทษชั้น D ที่มีสถานะต่ำที่สุดอีกด้วย
การถือผิวมาสิ้นสุดลงเมื่อมีการเจรจาเพื่อยุติปัญหาการเหยียดผิวและมีการเลือกตั้งภายใต้ระบอบประชาธิปไตยแบบหลากหลายชนชาติในปี ค.ศ. 1994 ซึ่งพรรคสมัชชาแห่งชาติแอฟกาโดยการนำของเนลสัน แมนเดลาเป็นผู้ชนะไป
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา