Blockdit Logo (Mobile)
คลังความรู้ by SpokeDark
•
28 ก.ย. 2020 เวลา 10:30 • ประวัติศาสตร์
'อู๋ ซานกุ้ย' ผู้เปิดประตูค่ายให้กองทัพแมนจูเข้ามายึดครองจีน จนถูกประณามว่าเป็นผู้ทรยศแห่งราชวงศ์หมิง
WIKIPEDIA PD
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
'อู๋ ซานกุ้ย' หรือ หวู๋ ซานกุ้ย (Wu Sangui) เกิดที่มณฑลเจียงซู ในปี ค.ศ. 1612 เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของ 'อู๋ เซียง' ขุนนางใหญ่ในราชวงศ์หมิง 'อู๋ ซานกุ้ย' ได้รับแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพใหญ่คุมด่านซานไห่กวน นี่คือเรื่องราวของแม่ทัพแห่งราชวงศ์หมิง ที่ถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศตลอดกาล เหตุเพราะเขาคือผู้เปิดประตูด่านซานไห่กวน ซึ่งเป็นด่านสำคัญของกำแพงเมืองจีนที่มีไว้เพื่อป้องกันการรุกรานจากศัตรูทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งกล่าวได้ว่าการตัดสินใจของอู๋ซานกุ้ยในครั้งนั้นได้พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์จีนไปตลอดกาล!
ในช่วงสุดท้ายที่ราชวงศ์หมิงนั้น กล่าวได้ว่าประชาชนเดือดร้อนอย่างหนักเพราะถูกเอารัดเอาเปรียบจากทางการที่ไม่สนใจใยดีความเป็นอยู่ของผู้คน จนในที่สุด ‘หลี จื้อเฉิง’ (Li Zicheng) จึงรวบรวมไพร่พลชาวนาที่ยากจนทั่วประเทศขึ้นมาก่อการปฏิวัติและนำกำลังบุกยึดนครปักกิ่ง ซึ่งในขณะนั้นฮ่องเต้ฉงเจินได้กระทําอัตวินิบาตกรรมสวรรคตไปก่อนแล้ว ด้วยเหตุนี้เองทำให้ ‘หลี จื้อเฉิง’ คือผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จและเด็ดขาดที่สุดในแผ่นดินจีน เพียงแต่ยังมีเงื่อนไขสำคัญ คือกองกำลังของ ‘อู๋ ซานกุ้ย’ ทางตอนเหนือที่ยังมีกำลังแข็งแกร่งอยู่มาก
1
WIKIPEDIA PD
คนสนิทของ ‘หลี จื้อเฉิง’ จึงเสนอว่าควรส่งจดหมายไปเกลี้ยกล่อมให้แม่ทัพ ‘อู๋ ซานกุ้ย’ ยอมจำนน โดยแลกกับยศถาบรรดาศักดิ์และเงินทองทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ในตอนแรกแม่ทัพ ‘อู๋ ซานกุ้ย’ ก็เห็นชอบ แต่ระหว่างที่เดินทางไปยังกรุงปักกิ่งนั้น เขาได้ทราบข่าวว่าทั้งบ้านและครอบครัวของตนถูก ‘หลี จื้อเฉิง’ จับเป็นตัวประกันและยึดเอาไว้หมดแล้ว ‘อู๋ ซานกุ้ย’ รู้ได้ในทันทีว่า ‘หลี จื้อเฉิง’ คิดจะหลอกใช้ตนเป็นแน่ จึงเดินทางกลับไปด่านซานไห่กวน ‘หลี จื้อเฉิง’ ทราบข่าวว่า ‘อู๋ ซานกุ้ย’ ไม่ยอมจำนน จึงสั่งทัพกบฏชาวนา 1 แสนคน บุกไปด่านซานไห่กวนในทันที กำลังทัพของ ‘อู๋ ซานกุ้ย’ ที่ด่านซานไห่กวนนั้นมีเพียง 3 หมื่นคน เขาจึงได้ส่งสารหา ‘ตัวเอ๋อกุ่น’ ผู้นำต้าชิง เพื่อขอยืมกำลังทหารมาปราบกบฏชาวนาและฟื้นฟูราชวงศ์หมิง แม้จะขอร้องไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีการตอบกลับจาก ‘ตัวเอ๋อกุ่น’จนทัพของกบฏชาวนาใกล้จะตีด่านซานไห่กวนแตก ต้าชิงกลับยื่นคำขาดว่า จะไม่มีการให้ยืมทหาร จะมีเพียงแต่การยอมแพ้เท่านั้น ‘อู๋ ซานกุ้ย’ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตอบตกลง
5
‘ตัวเอ๋อกุ่น’ กรีฑาทัพเข้าด่านซานไห่กวน เพื่อบดขยี้กบฏชาวนา โดยมี ‘อู๋ ซานกุ้ย’ เป็นทัพหน้า ‘หลี จื้อเฉิง’ พ่ายแพ้ศึกที่ด่านซานไห่กวนอย่างย่อยยับ หนีกลับปักกิ่ง ด้วยความแค้นจึงสั่งประหารคนในครอบครัวของ ‘อู๋ ซานกุ้ย’ ทั้งหมด และเผาเมืองปักกิ่งเป็นเถ้าธุลี อพยพคนที่เหลือของตนหนีลงใต้ไปซีอัน
WIKIPEDIA PD
ภายหลังที่ชาวแมนจูโค่นราชวงศ์หมิงแล้วและก่อตั้งราชวงศ์ชิง ‘อู๋ ซานกุ้ย’ รับบรรดาศักดิ์เป็น ‘ผิง ซี อ๋อง’ แบบจำใจ เขาปกครองแคว้นยูนนานทางตอนใต้ จนมาถึงรัชสมัยของฮ่องเต้คังซี ที่ต้องการลดทอนอำนาจของเจ้าศักดินาตามหัวเมืองต่าง ๆ โดยหนึ่งในนั้นคือ ‘อู๋ ซานกุ้ย’ ซึ่งเขาก็รู้อยู่แล้วว่าสักวันหนึ่งจะต้องเป็นเช่นนี้จึงวางแผนก่อกบฏและประกาศตัวว่าจะขอกอบกู้ราชวงศ์หมิงขึ้นมาใหม่ ต่อมากองทัพของ ‘อู๋ ซานกุ้ย’ กับ 'ซั่ง จือซิ่น' กับ 'เกิ่ง จิงจง' อดีตขุนนางที่เคยรับใช้ราชวงศ์หมิง และได้รับบรรดาศักดิ์จากฮ่องเต้ชิง ก็สามารถยึดครองพื้นที่ทางใต้ของจีนในขณะนั้นได้ทั้งหมด แต่ฮ่องเต้คังซีไม่ยอมแพ้ ได้ระดมกำลังไพร่พลจำนวนมากบดขยี้กองทัพของกบฏทั้งสามแบบไม่ให้หยุดพัก กองกำลังของ ‘อู๋ ซานกุ้ย’ อ่อนแอ่ลงเรื่อยๆ เขารู้ว่าไม่อาจต้านทานทัพของราชวงศ์ชิงได้อีก ‘อู๋ ซานกุ้ย’ ป่วยหนักและเสียชีวิตไปในปี ค.ศ. 1681 ปิดฉากตำนานแม่ทัพใหญ่แห่งราชวงศ์หมิง
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา