30 ก.ย. 2020 เวลา 08:25 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ข้อคิดจากซีรีส์ : Midnight Diner “การให้น้ำตาได้ทำหน้าที่ของตัวเอง”
Midnight Diner
ซีรีส์ที่ว่าด้วยเรื่องราวชีวิตของผู้คนซึ่งเข้ามากินอาหารที่ร้าน
(ร้านอาหารที่เปิดตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึงเช้า
ซึ่งคุณเจ้าของร้านยินดีที่จะทำอาหารนอกเหนือจากเมนูที่มีในร้าน
“สั่งเมนูอะไรจะทำให้หมดตราบใดที่ยังมีวัตถุดิบ…หรือจะเตรียมของมาให้ทำก็ได้”)
ซึ่งแต่ละคนจะสั่งเมนูที่เกี่ยวพันถึงความทรงจำสำคัญในชีวิต
รวมทั้งพูดคุย ถามไถ่สุขทุกข์ซึ่งกันและกัน
โดยมีคุณเจ้าของร้านและลูกค้าคนอื่น ๆ
คอยรับฟัง แบ่งปันข้อคิด
“เป็นสักขีพยานต่อความสุข และความเศร้า”
ตัวซีรีส์เล่าออกมาได้อย่างเรียบง่าย
เนื้อเรื่องจะจบในตอน ซึ่งแต่ละตอนมีความยาวประมาณ 20 นาที
ซึ่งเป็น 20 กว่านาที ที่มอบบทเรียนให้เราผู้ชมได้เกิดความเข้าใจว่า
“เอ้อ…ชีวิตก็แบบนี้แหละ ^^”
ฉากนี้ผมนำมาจาก Season 3 ซึ่งอยู่ในตอนที่ 5
โดยคุณลูกค้าผู้หญิงได้เล่าเรื่องราวความผิดหวังครั้งใหญ่ในชีวิต
พร้อมกับกินอาหารที่ตนเองสั่งเป็นประจำ
(เมนูอาหารที่เชื่อมโยงกับความผิดหวังซะด้วยย)
ยิ่งเธอเล่าออกมา
สีหน้ายิ่งแสดงออกถึงความเจ็บปวด
และน้ำตาก็ยิ่งเอ่อล้น
จนเธอต้องพยายามฝืนยิ้มและกลั้นน้ำตาเอาไว้
เมื่อคุณเจ้าของร้านได้ยินและเห็นดังนั้น
จึงสบตากับเธอ
แล้วพูดออกมาอย่างอ่อนโยน ว่า
“ไม่เป็นไรหรอก…ถ้าไม่อยากยิ้ม…ก็ไม่ต้องฝืนยิ้ม”
สิ่งที่ตามมาก็คือ
“เธอร้องไห้โฮออกมาอย่างหนัก”
โดยไม่มีการขัดขืนและต่อต้านใด ๆ
ผมประทับใจฉากนี้มากครับ
อารมณ์เหมือนนักจิตฯสะท้อนความเป็นจริงของชีวิต
ให้ผู้รับบริการได้รับฟัง และกลับมายอมรับความจริง
“เผชิญหน้ากับความผันแปรอย่างกล้าหาญ”
ผมจึงขอนำข้อคิดที่ได้มาแบ่งปันครับ ^^
ข้อคิดสำคัญของซีรีส์
“นอบน้อมต่อความเศร้าโศกในหัวใจ…ด้วยการให้น้ำตาได้ไหลริน”
การให้น้ำตา และความเสียใจ
“ได้ทำหน้าที่ของตัวเอง”
หมายถึง
การไม่ละเลยต่อความเสียใจ
การไม่ฝืนทนโดยใช้รอยยิ้ม
การไม่ฝืนกลั้นน้ำตาที่กำลังไหลริน
“อยู่กับความเสียใจและน้ำตาอย่างเต็มใจ”
“ยิ้ม” เมื่อความสุขเบ่งบานขึ้นในหัวใจ
“ร่ำร้อง” เมื่อจิตใจถูกเสียบแทงด้วยความเจ็บปวด
นี่ถือเป็นสิ่งที่ตรงไปตรงมาอย่างยิ่ง
ไม่หลอกลวง ไม่บิดเบือนเฉไฉ
สภาวะเช่นนี้
จึงเป็นการซื่อสัตย์ต่อชีวิตจิตใจของตนเองอย่างที่สุด
เมื่อเราโอบรับทุกฤดูกาลในหัวใจ
นอบน้อมต่อความเป็นไปของชีวิต
ทั้งความสุขหวานชื่น
ทั้งความทุกข์ตรมขมขื่น
“เราย่อมอยู่กับปัจจุบัน”
ปัจจุบันขณะนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง
สำหรับการรับรู้และยอมรับความจริง
สำหรับการตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิต
“ปัจจุบัน…เป็นเวลาเดียวที่เราจะรับผิดชอบชีวิตของตนเอง”
โฆษณา