1 ต.ค. 2020 เวลา 16:37 • ธุรกิจ
Grammarly โปรแกรมช่วยแก้ไขคำผิด และตรวจทานไวยากรณ์
ทำยังไงให้มีผู้ใช้งานเกิน 2 พันล้านบัญชี และมีรายได้มากกว่า 1 พันล้านดอลล่าร์ต่อปี โดยใช้เวลาเพียงแค่ 10 ปี เท่านั้น ?!
ต้องบอกว่า บริษัทที่เราทำงานอยู่ตอนนี้ก็เป็นที่นึง ที่มีการซื้อเจ้าโปรแกรม Grammaly มาให้พนักงานในการใช้ตรวจสอบคำศัพท์ หรือไวยากรณ์ของการเขียน (โดยสามารถ Sync เข้ากับ outlook ได้ด้วยนะ หรือแม้กระทั่ง G-mail)
แต่บางทีเราก็แอบรำคาญแอพนี้เหมือนกันนะ เหมือนว่ามันพยายามที่จะแก้ไขสิ่งที่ราเขียนให้อยู่ตลอดเวลา (ไม่มั่นใจว่าไวยากรณ์เราอาจจะห่วยเองก็ได้ โปรแกรมเค้าเลยออกมาขีดเส้นโชว์ให้แก้คำผิดให้อยู่เรื่อยๆ แห่ะๆ....)
ถ้าเพื่อนๆอยากทราบประวัติ หรือ เรื่องราวการวิเคราะห์ดีๆของเจ้าโปรแกรมนี้ เพื่อนๆสามารถตามไปอ่านของพี่ลงทุนแมนเค้าได้เหมือนกันนะ
โปรแกรม Grammarly คือ ?
- เป็นโปรแกรม และ Add-on ที่เพื่อนๆสามารถเปิดไว้ โดยที่เค้าจะมีการใช้ AI ในการตรวจจับเวลาที่เราพิมพ์ภาษาอังกฤษ แล้วสะกดผิด หรือ ใช้ไวยากรณ์ที่ไม่ถูกต้อง
- โดยที่เราว่าเจ๋งก็คือ เจ้าโปรแกรมนี้ไม่ได้แค่แก้คำผิดให้เราเหมือนแค่ microsoft word นะ แต่เค้ายังมีการอธิบายสั้นๆ ถึงการหัวข้อการใช้ไวยากรณ์ที่เราเขียนผิด
- และฟังชั่นสุดเด็ดของเค้าเลยคือ การตรวจจับการคัดลอกงาน (Plagiarism)
งั้นเดี๋ยวเราเขียนอธิบายใต้รูปข้างล่าง ให้เพื่อนๆด้วยละกัน (ภาพมาจากเว็ป Grammarly เลย)
อย่างนี้ คือเค้าก็บอกเราว่า เราใช้รูปการเขียนที่ยาวเกินไป อาจจะมีการใช้คำซ้ำด้วย
อันนี้เวลาที่เราคลิกขวา ในคำที่ถูกต้องอยู่แล้วก็จะมีโชว์คำเหมือนมาให้
นี่ๆเพื่อนๆ อันนี้ ถ้ามี idiom ที่เราใช้ผิด เพราะเราอาจจะไม่ทราบความหมายของคำ เค้าก็จะมีแนะนำมาให้ ซึ่งมาสามารถกดเพิ่มได้เพื่อจะที่อ่านความหมาย
Unicorn Start-up เจ้าแรกที่ส่งออกจากประเทศยูเครน !
- ถึงแม้ว่าในตอนนี้ สำนักงานใหญ่ของบริษัท Grammarly นั้นจะอยู่ที่อเมริกา ในเมือง ซานฟรานซิสโก
- แต่ว่าต้นกำเนิดของเค้านั้น ก่อตั้งโดย 3 หนุ่มจากประเทศยูเครน Maksym Lytvyn, Oleksii Shevchenko และ Dmytro Lider ที่เมือง Kyiv ประเทศยูเครนนี้ละ
Maksym Lytvyn และ Oleksii Shevchenko
- ต้องบอกว่า บริษัท Grammarly อันนี้ไม่ใช่บริษัทหรือโปรแกรมเพื่อการศึกษานะ แต่เจ้าสิ่งนี้เค้าเรียกว่าเทคโนโลยีตะหากละ
- โดยอ้างอิงจาก TechCrunch, Grammarly เนี่ยเค้าได้ลงทุนไปเกือบ 200 ล้านดอลล่าร์ เพื่อพัฒนาระบบ AI เลยนะ
จุดเริ่มต้นที่มาจากความต้องการของเพื่อนๆร่วมมหาวิทยาลัย กับการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ
- ย้อนกลับไปในช่วงปลายช่วงปี 1990s ที่มหาวิทยาลัย International Christian ในยูเครน
- ซึ่งมหาวิทยาลัยแห่งนี้ นับเป็นสถาบันที่สอนวิชาเรียนเป็นภาคภาษาอังกฤษแห่งแรกของประเทศยูเครน
- พูดมาแค่นี้ เพื่อนๆก็แทบจะเดาเนื้อเรื่องกันต่อได้เลยใช่ไหมเอ่ย ?
- Oleksii และ Maksym ได้พบว่า เนื่องจากภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่ของพวกเค้าและของเพื่อนๆคนอื่น นั้นจึงทำให้เกิดการ "โกง" เกิดขึ้น โดยนักเรียนหลายคตนเริ่มมีการเข้าไป copy ผลงานเขียนต่างๆในโลกอินเตอร์เนต และนำมาใช้เป็นผลงานของตนเองส่งคุณครู
- เพื่อป้องกัน และยังเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ Oleksii และ Maksym จึงได้พยายามคิดค้นนวัตกรรมแก้ไขคำผิด และตรวจทานไวยากรณ์ภาษาอังกฤษขึ้นมา โดยตอนแรกเนี่ย พวกเค้าเรียกว่า "My Dropbox"
- ฟังดูอาจจะไม่ค่อยประหลาดเท่าไรในสมัยนี้เนอะ....... แต่ถ้าเพื่อนๆย้อนกลับไปปี
2007 (ตอนนั้ันเราพึ่งจะ ม.6 เอง) เจ้านวัตกรรมนี้ค่อนข้างมีความป้อปปูล่าสูงมากเลยละ โดยมีมากถึง 800 มหาวิทยาลัยจากทั่วโลกในทดลองเริ่มใช้โปรแกรม "My Dropbox" ของนักคิดค้นเทคโนโลยีชาวยูเครน
- โอเค ถ้าพูดถึงผู้ใช้งานที่เป็นนักเรียนจริงๆละก็ ในปี 2007, "My Dropbox" มีผู้ใช้งานที่เป็นกลุ่มนักศึกษามากถึง 2 ล้านผู้ใช้งานทั่วโลก
- จะบอกว่านั้นรวมถึงอาจารย์เองด้วยนะที่ใช้โปรแกรมนี้สำหรับตรวจจับ "การคัดลอกผลงาน (plagiarism) ของนักศึกษา" เดาได้เลยว่าหลายๆคนที่ผ่านการทำโปรเจคมา รู้ซึ้งถึงคำนี้ได้ดีเลยละ อิอิ.....
ก้าวแรกคือการซื้อความเชื่อมั่นในการใช้งานโปรแกรม "My Drop Box" จนไปถึงการเติบโตทางธุรกิจอย่างเต็มตัวของ "Grammarly"
- Oleksii ได้บอกไว้ว่า เราเริ่มต้นจากการโฟกัสไปที่กลุ่มลูกค้าหลักเพียงกลุ่มเดียว นั้นคือ "โรงเรียนและมหาวิทยาลัย" หรือ "นักเรียน นักศึกษา และอาจารย์" นั้นเอง
- นั้นทำให้เราสามารถเลือกการริเริ่มที่จะสร้างโปรดักซ์ที้เฉพาะเจาะจง และใช้เทคโนโลยีในการตรวจสอบการลอกเลียนแบบ รวมถึง การใช้ AI ด้วย
- เรามีกลุ่มลูกค้าที่เรามั่นใจว่า ในทันทีที่เรานำเสนอโปรแกรมตัวนี้ พวกเค้าจะต้องนำมันไปใช้ได้อย่างแน่นอน เอาง่ายๆก็แค่ นักศึกษาทำโปรเจคจบปริญญาตรี และ โท
- หลังจากกระแสตอบรับของลูกค้ากลุ่มมหาวิทบาลัยค่อนข้างตอบรับได้ดีมาก เลยทำให้ในปี 2009 "My Drop Box" เปลี่ยนชื่อและจัดตั้งเป็นบริษัทในชื่อของ "Grammarly"
- ภายในปี 2011 พวกเค้าก็เริ่มที่จะได้กำไรกลับมาแล้ว
Grammarly.com
กลยุทธ์หลักๆในการเริ่มต้นของ Grammarly คือ
1. สร้างโปรแกรมทดลองใช้ฟรี (ไม่มีอายุจำกัดด้วยนะ) เพื่อที่จะหาให้เจอว่าลูกค้ากลุ่มไหนคือผู้ที่ใช้งานอย่างจริงจัง และแน่นอนว่ามีเวอร์ชั่นอัพเกรดสำหรับพวกเค้า
- ก็คือถ้าเราโหลดเป็นแค่ Add-on มาใช้สำหรับการพิมพ์และการตรวจใน web browser เนี่ย ฟรี นะจ้าาา เราก็ใช้อยู่ในคอมส่วนตัวนะ
2. เปิดช่องทางให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงทีมพัฒนาได้
และพวกเค้าสนใจฟีดแบคที่ลูกค้าต้องการให้มีการปรับปรุง
หลังจากปี 2011 Grammarly ได้มองถึงแผนการในอนาคตที่ไปไกลกว่าจุดเริ่มต้นแล้ว โดยกลยุทธ์ของพวกเค้าเพิ่มขึ้นเป็นแบบนี้นะ
1. ขยายฐานตลาดกลุ่มลูกค้า ลองเข้าถึงกลุ่มตลาดใหม่ๆ
- คือ พวกเค้ามองว่า ถ้าเราจับแค่กลุ่มตลาดมหาวิทยาลัยเพียงอย่างเดียวเนี่ย อาจจะไม่สร้างผลเติบโตที่มากพอในอนาคต รวมถึงคู่แข่งเองที่น่าจะมีการพัฒนาในอุตสาหกรรมอื่นๆแล้ว
- ในปี 2014 Grammarly จึงขยายฟังชั่นการใช้งานต่างๆที่ครอบคลุมไปถึง กลุ่มลูกค้าบริษัทค้าขาย, กลุ่มบริษัทโฆษณาและทำข่าว ขยายจนไปถึงกลุ่มลูกค้าใหญ่อย่างรัฐบาลในแต่ละประเทศด้วยนะ
>> ขยายฟังชั่นในที่นี้ เช่นการใช้งานร่วมกับโปรแกรมต่างๆ Outlook, Hubspot, Salesforce
>> การลดความหน่วง หรือกินหน่วยความจำระหว่างใช้งาน
>> เพิ่มคำศัพท์ Idiom สำหรับธุรกิจที่มีความเฉพาะอย่าง ธุรกิจประกัน, โรงพยาบาล, สำนักข่าว, หรือแม้แต่คำศัพท์ทางการหรือราชการของรัฐบาล
2. ขยายรูปแบบของกลุ่มลูกค้า จาก B2B ให้ครอบคลุมถึง B2C
(B2B = Business to Business model หรือการขายสินค้ากับกลุ่มบริษัท)
(B2C = Business to Customer model หรือการขายสินค้าตรงไปยังผู้บริโภครายย่อยและเดี่ยว)
- ซึ่งการขยายไปยัง B2C นี้ละ ที่ทำให้รายได้ของ Grammarly เพิ่มมาเกือบเท่าตัว (ราวๆ 80%)
3. การปรับใช้โมเดลธุรกิจ "Freemium"
- อย่างที่บอกไปเลยว่า ฟังชั่นการทำงานหลักของ Grammarly คือการเช็ค และตรวจทานไวยากรณ์ รวมถึงตรวจจับการคัดลอก ซึ่งแน่นอนว่า เพื่อนๆสามารถโหลดมาใช้ได้ฟรี
- แต่ก็จะมี ฟังชั่นเพิ่มเติมที่เพื่อนๆต้องจ่ายเงินอัพเกรดเพิ่มเป็น premium นะ
- ซึ่งการที่ Grammarly หันมาทำโมเดลธุรกิจแบบ Freemium นี้ คือพวกเค้าต้องการที่จะขยายฐานตลาดลูกค้า ด้วยการให้บริการใช้งานเบื้องต้นฟรีนั้นแหละ
- สร้างความเคยชิน ความติดใจ ของลูกค้า
- และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ทดลองใช้ Premium feature ฟรี 1 เดือน ! สามารถยกเลิกได้ !
- แค่นี้ละ พอลูกค้าเกิดความเคยชิน ความชอบในการทำงานของโปรแกรมที่ทำให้พวกเค้าเขียนและคิดได้ง่ายขึ้น ความสบายเพิ่มขึ้นในการทำงาน
- ไม่นานนักก็คงจะต้องซื้อโปรแกรมอย่างแน่นอน
Grammarly.com
ในปัจจุบันนี้ (ปี 2019) ข้อมูลผู้ใช้งานล่าสุดของ Grammarly คือ
- มีผู้ใช้งานแบบ active ประมาณ 20 ล้านบัญชีต่อวัน
- และมียอดผู้ลงทะเบียนใช้งานทั้งหมด 2 พันล้านบัญชีต่อปี
- เกือบ 60% ของผู้ใช้งานทั้งหมดนั้น มีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักอยู่แล้ว
Grammarly.com
อันนี้เป็น Company mission ของเค้านะ เราว่าชัดเจนดี
จบแล้วจ้าเพื่อนๆ นับว่าเป็น Start-up ที่เริ่มจากประเทศที่ไม่ได้เน้นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเป็นหลัก
แต่ในทุกวันนี้กลับมีผู้ใช้งานจริงๆ (Active User) ที่มากกว่า Microsoft spell check เสียอีกนะ !
ที่แน่ๆคือ ตอนนี้ที่เราเห็นบริษัทขนาดกลางและใหญ่ส่วนมากก็จะมีการใช้ Grammarly กันอยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้มีเพียงแค่กลุ่มมหาวิทยาลัยอีกแล้วละ !
โลกและคนรอบตัวเราหมุนเร็วมากเท่าไร เราก็ต้องหมุนให้เร็วมากกว่า ! หมุนเป็นลูกข่างไปเลยย !! - Yuri Simple Journey ..... เราเองจ้า ขอคิดคำคมไว้บ้างนะ :)
โฆษณา