3 ต.ค. 2020 เวลา 12:37 • นิยาย เรื่องสั้น
วันนี้ก็เหมือนทุกวันที่สัญญาซักผ้า และตากผ้าตรงระเบียงเป็นปกติ และก็คงจะเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่สุราชจะมายืนรับน้ำที่หญิงสาวสะบัดผ้าใส่
ครั้งแรกสัญญามองไม่เห็น เขาจึงเปียกปอนไปตามระเบียบ แต่ครั้งที่สอง เธอเห็นชายหนุ่มยืนนิ่งหลับตาปี๋ เลยยั้งมือไว้ได้ทัน
เมื่อสุราชไม่เห็นผ้าสะบัดตามมาซ้ำสอง เขาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาทีละข้าง เห็นหญิงสาวยืนหลุดขำแบบไม่มีกั๊ก เขาก็พลอยขำและเขินไปด้วยที่ถูกจับได้ นี่เป็นความสุขเล็กๆ ของเขาที่จะได้เห็นหน้าภรรยา ก่อนจะไปทำงานอยู่ที่ร้านขนมทั้งวัน
มีนาเดินผ่านมาเห็นเข้า เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมเสื้อของพี่เขยถึงได้เปียกทุกเช้า สามีภรรยาคู่นี้เขาหยอกเอินกันพิสดารแบบนี้นี่เอง
ชาโตรีเดินถือถังเศษขี้เถ้าออกมาจากโกดัง เพื่อจะเอาไปทิ้งถังขยะ สัญญาหยุดสาวใช้ไว้ นั่นมันหลักฐานที่จะช่วยตำรวจสืบสวนคดีได้ทั้งนั้น จะเอาไปทิ้งได้อย่างไร แต่ชาโตรีบอกว่าไม่มีประโยชน์ เพราะวิการามกล่อมจนนายหญิงเปลี่ยนใจไม่ไปแจ้งความแล้ว
สาวใช้เดินไปคุยไปจนลื่นหกล้ม ถังเลยคว่ำ ขี้เถ้าหกเกลื่อนกลาด สัญญาสังเกตเห็นความผิดปกติของขี้เถ้าบนน้ำที่เจิ่งนองบนพื้น เธอรีบเร่งไปที่ครัว หาเศษผ้าและเศษกระดาษลังมาจุดไฟเผา แล้วเอาเถ้าทั้งสองใส่ลงไปในกาละมังน้ำ เพื่อหาคำตอบในสิ่งที่สงสัย
สังเกตจากลักษณะของขี้เถ้าทั้งสองแล้ว เปรียบเทียบกับหลักฐานที่อยู่ในถัง อย่างน้อยสัญญาก็คลี่คลายได้ประเด็นหนึ่ง ว่าสิ่งที่ถูกเผาไหม้เสียหายในโกดังไม่ใช่ส่าหรี แต่เป็นลังกระดาษเปล่าๆ ถ้าทุกคนรู้ข่าว คงจะสบายใจขึ้น โดยเฉพาะมีนา
สัญญาตั้งใจจะเดินไปหามีนาถึงห้อง เพื่อแจ้งข่าวดีกับเธอก่อนใคร บังเอิญเสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้นมาเสียก่อน คนปลายสายบอกว่าชื่ออักการ์วาล เขาโทรไปที่ร้านส่าหรีแล้วสายไม่ว่าง เลยโทรเข้าบ้านวานเธอช่วยแจ้งมีนาให้หน่อย ว่าส่าหรีล็อตใหญ่ที่เพิ่งส่งมานั้นมีปัญหา และต้องการจะเปลี่ยนสินค้าชิ้นใหม่แทน
หญิงสาวจำได้ว่าอักการ์วาลคือลูกค้ารายใหญ่ที่มีนาบอกว่าต้องส่งส่าหรีให้เขาภายในอาทิตย์นี้ แต่ลูกค้าบอกว่าได้รับสินค้าแล้ว เรื่องมันเริ่มชักทะแม่งๆ
จากบานประตูห้องที่ปิดไม่สนิท สัญญาเห็นมีนากำลังยัดเก็บส่าหรีห่อใหญ่ไว้ใต้เตียงอย่างมีพิรุธ เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดแล้ว สัญญาไม่อยากจะมองมีนาในแง่ร้ายเลย
“ฉันหวังว่าตัวเองจะคิดผิด เธอจะเผาโกดังของตัวเองทำไม ฉันต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอให้ได้”
“มีนา!!!” เจ้าของชื่อใจหล่นไปที่ตาตุ่ม ก่อนจะหันขวับไปเจอพี่สะใภ้สุดแสนอันตรายยืนอยู่ตรงหน้าประตู เธอรีบปั้นหน้ายิ้มรับไว้ก่อน แม้ใจจะไม่อยากต้อนรับนักก็ตาม “ค่ะขา…พี่สะใภ้”
“ฉันเจอเบาะแสสำคัญที่จะช่วยให้เราหาตัวคนร้ายได้แล้วนะ ตอนทำความสะอาดโกดัง ฉันไปเห็นลายนิ้วมือต้องสงสัยบนผนังเข้า ฉันว่าเราควรจะแจ้งตำรวจ”
มีนาหน้าถอดสีทันทีที่ได้ยินสัญญาเอ่ยคำว่า “ตำรวจ” เธอรีบห้ามพี่สะใภ้ด้วยน้ำเสียงละล่ำละลัก และขอเวลาเธอปรึกษาวิการามก่อน เพราะยังไงเขาก็เป็นเจ้าของร้าน สัญญาพยักหน้า พลางภาวนาในใจขออย่าให้คนร้ายเป็นมีนาเลย
เมื่อหลุดพ้นจากสายตาจ้องจับผิดของพี่สะใภ้มาได้ มีนาก็ใช้สมองอันปราดเปรื่องเร่งคิดหาทางรอดให้กับตัวเองอย่างรวดเร็ว ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะทำพลาดได้ เธอรีบรุดไปยังโกดังพร้อมผ้าผืนนึง หวังจะไปลบรอยนิ้วมือบนผนังตามที่พี่สะใภ้กล่าวอ้าง
แต่ผนังสีขาวก็ช่างว่างเปล่า แทบไม่มีรอยด่างอะไรให้เห็น มีนากัดฟันกรอด ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วเช็ดมันทั้งผนังเลยแล้วกัน
ในที่สุดคำภาวนาของสัญญาก็ไม่เป็นผล หนูที่ชื่อมีนาวิ่งเข้ามาติดกับดักที่วางเอาไว้จริงๆ เธอจับมือที่กำลังทำลายหลักฐาน สร้างรอยด่างบนผนังสีบริสุทธิ์ไว้มั่น มีนาเองก็พยายามดิ้นเต็มที่ เพื่อให้ตนหลุดจากมือที่แข็งเหมือนคีมนี้ให้ได้
“จับได้คาหนังคาเขาอย่างนี้ เธอจะมีอะไรเถียงอีกหรือมีนา เธอทำให้แม่ต้องเป็นทุกข์ สุราชต้องทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ เพราะคำโกหกของเธอ ไปขอโทษแม่ แล้วสารภาพความจริงเดี๋ยวนี้ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา”
หลังจากมีนายืนยันกระต่ายขาเดียวว่าไม่ได้ทำๆ ผู้มีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ก็ยังไม่อ่อนข้อให้ มีนาจึงเปลี่ยนใจยอมรับผิด และหาทางต่อรองกับสัญญา
“ฉันรู้ว่าฉันทำผิด แต่พี่ช่วยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไรหน่อยได้ไหม เราอยู่ในฐานะสะใภ้เหมือนกัน หัวอกเดียวกัน ก็ควรช่วยกันสิ ถ้าคราวหน้าพี่ไปทำผิดอะไร ฉันก็จะช่วยพี่ปกปิดเหมือนกัน”
“มีนา ฉันขอว่าอย่าโกหกแม่ สารภาพความจริงออกไป การโกหกมันจะสร้างปัญหาในความสัมพันธ์นะ”
สัญญาเตือนมีนาด้วยใจจริง เธอรู้ดีว่าพิษของการโกหกมันกัดกร่อนจิตใจให้เจ็บเพียงใด ตัวเธอเองก็รอวันที่จะบอกความจริงและรอรับโทษจากแม่สามีเช่นเดียวกัน
แต่ยังไม่ทันที่มีนาจะตัดสินใจอะไร บทสนทนาก็ต้องหยุดชะงักลงกลางครัน เมื่อทั้งคู่หันไปมองหน้าประตูโกดัง เห็นซานโต๊สยืนอยู่ตรงนั้นพอดี แม่สามีจะได้ยินลูกสะใภ้ทั้งสองพูดคุยกันหรือไม่ โปรดติดตามตอนต่อไป

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา