13 ต.ค. 2020 เวลา 14:11 • ท่องเที่ยว
สบายดี หลวงพระบาง🌸🌸
บรรยากาศที่ท้ายเรือ ขณะล่องไปตามแม่น้ำโขงยามเย็น
หลังจากนั่งมองภาพในหนังสือเล่มหนึ่ง บอกเล่าถึงเพื่อนบ้านใกล้ๆเรา ว่าเมืองแห่งนี้มันเป็นเมืองแสนสงบ รวมถึงผู้คนน่ารัก มีไมตรี ในดวงตาเราก็เราจุดประกายฝัน สักวันฉันจะไปเยือน และแล้ววันหนึ่ง มีเสียงตามสายของสหายสนิท มาชักชวนว่าไปหลวงพระบางกันไหม เราตอบทันใด "ไป"โดยไม่ต้องหยุดคิด
การไปครั้งนั้น เป็นการไปกับทัวร์ แต่เป็นทัวร์ที่จัดกันเองในกลุ่มเพื่อนฝูง และเพื่อนๆของเพื่อนฝูงมารวมกัน มานับดูแล้วน่าจะเกือบ 15 คน ถึงแม่ว่าจะไม่ใช่คนชอบเที่ยวสายทัวร์แบบนี้ แต่ก็ช่างเหอะ ลองแบบนี้ดูบ้างจะเป็นไรไป
วิธีการเดินทาง ซับซ้อน และเหนื่อยมาก เนื่องจากต้องตื่นมาแต่มืดเพื่อมาขึ้นรถบัส ออกจากกรุงเทพ ไปเชียงของ จังหวัดเชียงราย หลังจากนั้นไปลงเรือลอยลำในแม่น้ำโขงอีกแทบจะเรียกได้ว่าทั้งวัน ระหว่างนั่งในเรือ บางคนฆ่าเวลาโดยการเล่นไพ่ บางคนจับกลุ่มเม้าส์กัน ส่วนเราพกหนังสือไปด้วยเลยได้นอนเหยียดยาวอ่านหนังสือหรือพอเบื่อๆก็ลุกมานั่งมองวิวทิวทัศน์ ข้างทาง
สภาพเรือที่นั่งยาวไปจากเชียงของถึงหลวงพระบาง
เรือหางยาวซึ่งเป็นพาหนะ ของคนที่อาศัยอยู่ติดริมแม่น้ำ จอดเรียงราย
เรือโดยสาร ผู้โดยสารทุกคนต้องใส่หมวกกันน๊อค สงสัยเวลาเบรค กันหัวกระแทกกัน😂😂
โรงแรมที่พัก ที่หลวงพระบาง รูปทรงสวยงามแปลกตา ตั้งอยูริมแม่น้ำคาน สงบและบรรยากาศดีมากๆ
ค่ำๆพวกเราถึงที่พัก ทุกคนเหนื่อยจากการนั่งเรือยาวนาน จึงรีบนอนพักเอาแรง เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้ามากๆ ไกด์บอกมาว่าเราจะไปใส่บาตรข้าวเหนียว สาวๆจึงต้องเตรียมชุดใส่บาตรตอนเช้าเอาไว้ให้พร้อม
นี่คือชุดที่ชาวบ้าน หรือนักท่องเที่ยว จะต้องสวมใส่เพื่อตักบาตร
พระสงฆ์จำนวนมากน่าจะราวๆ 100กว่ารูป เดินมาอย่างพร้อมเพรียงเพื่อรับบาตรญาติโยม
ยังจำได้ถึงวิธีการใส่บาตร ที่นี่เขาใส่ด้วยข้าวเหนียว ดังนั้นทุกคนจะต้องมีกระติ๊บข้าวเป็นของตัวเอง ข้างในบรรจุข้าวเหนียวร้อนๆเต็มกระติ๊บ ไกค์บอกว่าให้เราปั้นข้าวเหนียวปั้นเล็กๆพอคำแล้วใส่ลงไปในบาตรพระ และพระท่านจะเดินติดๆกันมา เพราะฉะนั้นถ้าชักช้าท่านจะเดินข้ามไป แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เราปั้นข้าวเหนียวช้า จึงมีพระเดินข้ามเราไป เพราะแถวพระยาวมากๆด้านหลัง จึงทำให้เราตั้งใจว่า ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ใครไม่มา เราจะมาใส่บาตรอีก ไม่ใช่จะเป็นคนดีอะไรน๊ะ แค่อยากแก้มือและทำเวลาให้ดีขึ้น ดังนั้นเช้าวันที่ 2 เราจึงจับกระติ๊บอย่างถนัดมือ แล้วตั้งใจปั้นให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ใส่ให้ทันพระทุกองค์ แต่คงจะด้วยความเร็วมากขึ้นเราน่าจะใช้ปริมาณข้าวเหนียวเยอะไป จึงทำให้ข้าวเหนียวหมดก่อนที่พระจะหมด โอ้ยแค้นใจ จะมาแก้มืออีกก็ไม่ได้แล้ว เพราะวันที่ 3 เขาจะย้ายที่พัก😩😩
รถบัสนำพวกเราเที่ยวไปตามวัดต่างๆในหลวงพระบาง
วัดเชียงทอง เป็นวัดที่มีลักษณะอ่อนช้อย งดงามมาก
รถบัสพาเราไปแวะวัดโน้น วัดนี้ ไกด์จะอธิบายอย่างตั้งอกตั้งใจ ถึงรายละเอียดสถานที่ แต่คนนิสัยไม่ดีอย่างเรา ไม่เคยตั้งใจฟัง กลับมาจึงจำชื่อวัดได้ 2-3 วัดแค่นั้น เพราะมัวแต่สนใจบรรยากาศวัดที่สงบจริงๆ ได้ยินเสียงกังสดาล ยามลมพัดผ่าน ชัดเจนมากๆ ดังเข้าไปในหัวใจเชียว และสังเกตุได้ว่า การมาวัดของคนที่นี่ วัตถุประสงค์เพื่อมาทำบุญจริงๆ มันเหมือนวัดในสมัยที่เราไปกับยายตอนเด็กๆ ซึ่งวัดคือวัด ไม่ใช่พุทธพานิชย์ที่เกลื่อนตาเหมือนปัจจุบันในบ้านเรา
สถาปัตยกรรมของลาว คล้ายกับของไทย แต่ดูของลาวจะอ่อนช้อยกว่า
วัดแต่ละวัด ดูสงบร่มรื่น จะเห็นคุณยายสวมผ้าซิ่น หิ้วตะกร้าสานพร้อมดอกไม้ เดินเข้าวัดอย่างสำรวม บ้างก็มาเป็นครอบครัว ด้วยความที่เขานุ่งผ้าถุง ยาวกอมเท้า ใส่เสื้อแขนยาวมิดชิด จึงดูเรียบร้อย สบายตา ต่างจากนักท่องเที่ยวที่เดินเที่ยว ที่มักจะใส่กางเกง และยังส่งเสียงเอะอ่ะ อึกทึก
บรรยากาศภายในบริเวณวัด
รูปปั้นพระพุทธรูป ยังคงสภาพเดิมๆ ไม่ได้ถูกแต่งแด้มให้ดูใหม่เกินความเป็นจริงจึงทำให้สถานที่ให้บรรยากาศฃลัง มีกลิ่นอายเดิมๆ
หลังจากเข้าออกวัด จนจำชื่อไม่หมดแล้ว พอตอนเย็นไกด์แจ้งว่า จะพาไปกินข้าวที่ร้านอาหารพร้อมทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ เราตื่นเต้นมากเพราะพิธีนี้ ตายไปพร้อมกับยายของเรา เพราะตอนเด็กๆเรามักจะมีส่วนร่วมกับยายบ่อยๆ จึงนึกถึงพิธีนี้ อยากจะได้เจออีกสักครั้ง เมื่อเข้าไปในร้านอาหาร จะพบพ่ออุ้ยแม่อุ้ย ดูน่าเคารพ มานั่งรอทุกคนอยู่แล้ว เขาก็ท่องคำเชื้อเชิญ และอวยพรให้พวกเราโชคดีอะไรทำนองนั้น พร้อมเข้าไปหาตา ยาย ที่ละคนเพื่อผูกขวัญที่ละคนเพื่อเป็นสิริมงคล
พิธีบายศรีสู่ขวัญและผูกข้อมือ เป็นสิริมงคล
หลังอิ่มกันแล้ว รถพาพวกเรากลับไปส่งที่พัก. ส่วนพวกที่ยังมีแรง ก็จะออกไปเดินตลาดคนเดินยามค่ำซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักนัก ที่นี่เขาไม่เปิดไฟสว่าง แต่จะเปิดไฟสีเหมือนตะเกียง หากจะเลือกซื้อของ ก็ต้องส่องกันหน่อย ของส่วนใหญ่จะเป็นงานผ้า ทำการตัดเย็บเองมีให้เลือกมากมายหลายอย่าง เป็นที่ๆเหมาะสำหรับการเลือกซื้อของฝากเป็นอย่างยิ่ง
บรรยากาศตลาดคนเดินที่หลวงพระบาง
ตลาดเช้า ที่ยังมีสัตว์ป่ามาวางขายกันเป็นเรื่องปกติ
เช้าวันใหม่ รวมตัวกันท่องตลาดเช้า สภาพตลาดยังมีความดั้งเดิม เหมือนตลาดต่างจังหวัดที่เป็นจังหวัดเล็กๆ บรรดาแม่ค้าจะนำพืชผลหรือสินค้าของตัวเองมา วางขายกันละลานตา ค่อนข้างจะตกใจ ที่มองเห็นนก และกระรอก ถูกนำมาวางขายกันตามปกติ ร้านใกล้ๆมีตัวอ้น ที่ยังไม่ตาย ใส่ไว้ในเข่งอีกหลายตัว
ยิ่งมองยิ่งทำใจไม่ได้เลยไปมองหาอาหารเช้าน่าจะดีกว่า ตาเหลือบไปเห็นร้านขนมปังฝรั่งเศส วางขายอยู่หลายร้าน เมื่อมีคนสั่งแม่ค้าจะเอาขนมปังไปอุ่นบนเตาไฟ แล้วเอามีดผ่าตรงกลางสำหรับใส่ใส้ มีให้เลือกหลายชนิด อาทิเช่น ใส้ทูน่า ใส้หมูยอ ใส้ผัก เป็นต้น เราสั่งใส่ทูน่ามาชิม อร่อยดี ร้านข้างๆเป็นร้านกาแฟ และมีต้มเส้นร้อนๆด้วย เลยลองสั่งมากินดู รสชาติน้ำซุป อร่อยดี แต่พอหยิบพวงเครื่องปรุง จะมาปรุงสักหน่อย ก็ต้องยั้งมือไว้ เพราะในพวงมี 2 ถ้วยที่เป็นเกล็ดสีขาว สังเกตุดีๆพบว่า 1ถ้วยคือน้ำตาล อีก 1 คือผงชูรส 😱😱
ร้านขนมปังฝรั่งเศส ร้านกาแฟและพวงเครื่องปรุงต้มเส้น😰😰
หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้ว รถก็พาพวกเราออกนอกเมือง ไกด์บอกว่าจะพาไปชมหมู่บ้านต้มเหล้า ไปไม่ไกลมากนัก รถก็จอด กลิ่นแอลกฮอล์คละคลุ้ง ไม่บอกก็รู้ว่าถึงแล้วแน่ๆ พอเดินลัดเลาะเข้าในหมู่บ้าน ก็จะพบหนุ่มๆกำลังวุ่นวายกับการนำสิ่งของลงไปในไห บางคนก็สาละวนกับการเอาของออกจากไห มาต้มในถังใบใหญ่ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้แหละ ที่บ้านเราเรียกว่าต้มเหล้าเถื่อน🤣🤣
นอกจากดูเรื่องต้มเหล้าแล้ว แต่ละบ้านก็จะมีผลิตภัณฑ์ที่มาจากเหล้าให้เลือกซื้อกันตามใจชอบ มองดูแล้วสยองขวัญมากๆ ส่วนแม่บ้านจะมีงานทอผ้า บางบ้านนำมาแขวนโชว์สีสันสดใส ราคาพอจับต้องได้
ชีวิตที่นี่ ดูเนิบๆ ไม่เร่งรีบ ไม่แข่งขัน หากมีชีวิตที่นี่แล้วไม่เคยจากไปไหน ชีวิตก็จะอยู่ไปได้อย่างมีความสุข แต่หากทว่า เกิดออกไปรับรู้โลกภายนอกเข้า ชีวิตหรือวิถีนี้ จะเปลี่ยนแปลงไปทันที จากที่เคยสุขก็จะไม่สุข จากที่เคยพอก็จะไม่รู้จักพอ อย่างที่ใครๆเคยพูดว่า ความเจริญ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย😔😔
อาชีพต้มเหล้า และผลิตภัณฑ์ยาดองเหล้า😱😱
เด็กๆช่วยแม่ตำข้าว และฝัดด้วยกระด้งเพื่อแยกเปลือกออก ,ผ้าสีสดที่กลุ่มแม่บ้านเอามาแขวนขายให้กับนักท่องเที่ยว
หลังจากเดินทั่วหมู่บ้านแล้ว ไกด์เรียกขึ้นรถ เพราะเราจะเดินทางไปยังวังเวียง ซึ่งต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน ช่วงที่กำลังออกจากหลวงพระบาง ไกด์สาวจะไม่ได้ไปกับเราด้วย จึงให้รถขับรอบเมืองสรุป แหล่งท่องเที่ยวให้ดูอีกครั้ง ไกด์เอ่ยกับพวกเราว่า “เดี๋ยวรถจะผ่าน ไฟอำนาจ แล้วพวกเราจะได้รับแจกผ้าอนามัย พร้อมทำความสะอาดหน้าให้สวยงามเพื่อจะได้ลงไปแหกตาสามัคคีกันสักครั้งน๊ะค๊ะ” ทุกคนอึ้งและทบทวนคำสั่งว่า ทำอะไรน๊ะ แล้วไกค์อธิบายให้ฟังจึงเข้าใจ ทุกคนฮาตรึมทั้งรถ พร้อมมีคำถามมากมาย สำหรับภาษาลาว ได้มาคำเด็ดๆ เช่น
ไฟอำนาจ =ไฟแดง ไฟเสรี =ไฟเขียว ไฟเกียม=ไฟเหลือง. ผ้าอนามัย =กระดาษทิชูหรือผ้าเย็น ผ้ายันต์กันโลหิต=ผ้าอนามัย ถุงกันวิญาณ=ถุงยางอนามัย พัวพัน=ประสานงาน เมียมรดก=เมียหลวง ห้องแถวไหล =รถไฟ และ แหกตาสามัคคี=ถ่ายรูปหมู่ 😂🤣😂
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ทำให้เราเป็นโรคคอยมองหาป้ายต่างๆภาษาลาว เพื่อพยายามอ่าน และหาความหมาย เพราะภาษาลาว มักมาจากรากคำศัพท์ ที่มีความหมายซื่อๆ จึงทำให้ชวนขำทุกที
ป้ายสถานีโทรทัศน์ ป้ายห้ามปีน และป้ายหน้าโชว์รูม Toyota😂
Promotion โทรศัพท์มือถือ และไปรษณีย์😁
จากหลวงพระบางถึงวังเวียง ใช้เวลาน่าจะประมาณ 5 ชั่วโมงด้วยรถบัส มาถึงวังเวียงก็เกือบมืดแล้ว จึงมองบรรยากาศไม่ชัดในตอนนี้ แต่ช่วงตอนกลางวัน ที่ผ่านมา จะพบว่าวังเวียง เป็นหุบเขาที่มีภูเขาสูงโอบล้อม เหมือนเมืองลับแล เป็นเมืองสงบๆ เงียบจนเหงา
เช้ามาเปิดประตูออกมารับแสงตอนเช้า ต้องร้องว้าวว..โรงแรมที่เราพัก ติดริมแม่น้ำที่มีภูเขาสูงเป็น black ground ภาพข้างหน้าคือธรรมชาติที่บริสุทธิ์ พร้อมภาพวิถีชีวิตของคนที่นั่น มองดูแล้วเหมือนภาพฝัน
วังเวียงกับวิถีชีวิตของผู้คน
ลานกว้างสำหรับนอนทอดอารมณ์ ,เด็กนักเรียนกำลังไปโรงเรียน และน้ำใสราวกระจก
เที่ยวที่วังเวียง ก็จะเป็นประเภท เที่ยวถ้า น้ำตก ซึ่งก็เหมือนๆกับเมืองไทย แต่สำหรับเรา แค่เหยียดกายลงบนเก้าอี้ นั่งมองวิวด้านหน้าโรงแรม ก็คุ้มแล้ว
หลังจากพักที่นี่ 2 คืน เราก็ออกเดินทางไปเวียงจันทร์ เพื่อกลับบ้านผ่านทางหนองคาย ก็ได้แวะสักการะ พระธาตุหลวงที่เวียงจันทร์ก่อนกลับบ้าน และแวะ duty fee ที่ลาวเพื่อใช้เงินกีบให้หมดก่อนกลับเข้าไทย และอยู่ลาวหลายวัน ดูชีวิตจะหรูหรากินอาหารมื้อละไม่ต่ำกว่าหมื่นสองหมื่นกีบในลาว กำลังจะจบลง เพราะเงินที่เหลือเป็นฟ่อนๆ ที่ติดกระเป๋ามาแลกกลับเป็นเงินไทย ได้ร้อยกว่าบาทเอง พอเหยียบมาฝั่งไทย ชีวิตก็ยาจกแบบเดิม เหมือนตื่นจากฝัน😂😂😂 ที่ร้ายกว่านั้นเมื่อตื่นจากฝันแล้ว ต้องไปขึ้นรถไฟ กลับกทม. สรุปทริปนี้ขาดพาหนะชนิดเดียวคือเครื่องบิน 😂😂
พระธาตุหลวง ที่เวียงจันทร์ ,สะพานไทยลาว มองเห็นลิบๆ และบ้านพี่เมืองน้อง ที่มีลำน้ำโขงกั้นขวางไว้
📌การท่องเที่ยวคือการเปิดโลกทัศน์
📌หากชีวิตไม่รวยสักที แนะนำให้ไปลาว เงินในกระเป๋าที่มีอยู่จะหรูหราขึ้นทันที😂
📌ไปลาวอย่าเผลอเติมน้ำตาลโดยไม่สังเกตุ. กลับมาอาจจะเกิดอาการผลข้างเคียงกับเส้นผม😔😔
📌หากเครียดๆให้ไปเที่ยวลาว แค่เดินอ่านป้ายก็ฮาแล้ว🤣

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา