เกิดอะไรขึ้น เมื่อคน “ตาย”
“โลกหลังความตาย” “เมื่อตายไปแล้ว เราจะไปที่ไหนต่อ?”
เหล่านี้คงเป็นคำถามและเรื่องที่ใครหลายคนอยากทราบคำตอบ หากแต่ก็ไม่มีใครทราบคำตอบที่แท้จริง และคนที่ตายไปแล้วก็ไม่สามารถกลับมาบอก มาเล่าให้ฟังได้
แต่ก็มีผู้ที่เคยเฉียดใกล้ความตาย หรืออาจจะตายไปแล้ว ได้ฟื้นขึ้นมา และเล่าประสบการณ์เหล่านั้น
ในปีค.ศ.1994 (พ.ศ.2537) นายแพทย์ชาวอเมริกันชื่อ “Tony Cicoria” ได้ถูกฟ้าผ่าในนิวยอร์ก
Tony Cicoria
ร่างของ Cicoria นั้นกระเด็นไปข้างหลัง ก่อนที่เขาจะหันกลับมา และพบร่างของตัวเองนอนอยู่ที่พื้น
Cicoria เล่าต่อว่าเขาเห็นคนเข้ามาทำการปฐมพยาบาลร่างของเขา ซึ่งเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนดู ก่อนที่ตัวเขา หรืออาจจะเรียกว่าวิญญาณของเขาก็ได้ ได้ลอยขึ้นไปตามบันไดที่ปรากฎขึ้นมา
จากนั้นก็มีแสงสีฟ้าอมขาวปรากฎขึ้น พร้อมกับความรู้สึกสงบ ภาพต่างๆ ในชีวิตกลับเข้ามาให้เห็น ก่อนที่อยู่ๆ เขาจะพบว่าตัวเองได้กลับเข้าร่างที่ถูกฟ้าผ่า
แต่ถึงแม้ประสบการณ์หลังความตายจะไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เราก็ทราบแน่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเรา เมื่อเราตาย
ก่อนตาย ผู้ตายจะหายใจผิดปกติ มักจะหายใจรุนแรง ไม่ปกติ เสียงลมหายใจก็สั่น อันเป็นผลจากการที่ร่างกายเตรียมหยุดทำงาน
ในขณะที่กำลังจะตายนั้น กล้ามเนื้อจะเริ่มผ่อนคลาย ก่อนที่ของเสียในร่างกายเริ่มจะถูกขับออกมา
ภายหลังจากตายได้ไม่กี่ชั่วโมง เลือดจะเริ่มไหลไปยังจุดที่ร่างกายอยู่ใกล้กับพื้นมากที่สุด และหากศพอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งเป็นเวลานานๆ จุดนั้นก็จะเริ่มช้ำ และหากทิ้งไว้นานๆ ศพก็จะเน่า
สำหรับความรู้สึกเวลาตายนั้น แพทย์ต่างประเทศได้ให้ความเห็นว่าจะมีความรู้สึกเหมือนอยากเข้าห้องน้ำ
หากการตายนั้นไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ เป็นการตายจากโรคชราหรืออาการเจ็บป่วย ผู้ตายจะรู้สึกห่อเหี่ยว มีอาการกินอาหารได้น้อย ทำให้ไม่มีกำลังในการทำอะไร
สำหรับการจัดการกับศพนั้น แต่ละวัฒนธรรมก็มีวิธีการที่แตกต่างกันออกไป
ในตะวันตก เมื่อมีคนตาย ศพมักจะถูกนำไปฉีดยาเพื่อกันศพเน่า ซึ่งกระบวนการนี้สามารถย้อนไปได้ตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณหรืออาจจะนานกว่านั้น
ชาวอียิปต์มักจะนำศพไปทำมัมมี่ ซึ่งชาวแอซเท็คและชาวมายันก็มีการทำมัมมี่เช่นกัน
การทำมัมมี่
แต่ในสหรัฐอเมริกา การดองศพหรือการรักษาศพนั้น เริ่มจะแพร่หลายในช่วงสงครามกลางเมืองในศตวรรษที่ 19 เนื่องจากในสงคราม มีทหารเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จึงมีการรักษาศพเพื่อส่งกลับไปให้ครอบครัวทำพิธีฝัง
แต่สำหรับชาวยิวนั้น ไม่มีการรักษาศพ เมื่อมีคนตาย ก็จะทำการฝังในทันที โดยมักจะจับศพเปลือยกาย ห่อด้วยผ้า และนำมาใส่ในโลงศพ ปล่อยให้ศพเน่าสลายไปตามธรรมชาติ
สำหรับผู้ที่เคยเฉียดใกล้ความตายอีกคนหนึ่ง นั่นคือ “Jane Seymour” นักแสดงชาวอังกฤษชื่อดัง
Jane Seymour
ในปีค.ศ.1988 (พ.ศ.2531) Seymour มีอาการแพ้อย่างรุนแรงจนช็อก และก่อนที่ร่างกายจะดับวูบ เธอก็ได้เล่าว่าเธอเห็นร่างของตัวเองนอนอยู่ ก่อนจะเห็นพยาบาลรีบวิ่งเข้ามาช่วยชีวิตเธอ
นอกจากรายของ Seymour แล้ว ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ร่างกายดับไปแล้ว แต่พอฟื้นขึ้นมาก็สามารถอธิบายได้ว่าหลังจากตายไปแล้ว เกิดอะไรขึ้นในห้องที่ตนอยู่บ้าง
แต่ไม่ว่าโลกหลังความตายจะเป็นอย่างไร บางทีเราอาจจะไม่จำเป็นต้องหาคำตอบในตอนนี้ก็ได้
เพราะอย่างไรซะ ซักวันหนึ่ง เราทุกคนก็จะได้สัมผัสและทราบคำตอบนั้นเอง
- 18
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
