16 ต.ค. 2020 เวลา 05:49 • ความคิดเห็น
การฝึกสัญชาตญาณระแวงภัย เพื่อป้องกันตัวเองเมื่อต้องเจอสถานการณ์ที่มีความเสี่ยง หรือไม่เสี่ยง..ขี้ระแวงเกินไปจนชีวิตขาดความสุข มาลองศึกษาด้วการสังเกตและบอกเหตุผลกับตัวเองกันดู
เริ่มจาก เรื่องของความสัมพันธ์ กับคนใกล้ชิดมาก เพื่อนสนิท แฟน
เช่น
#การที่บุคคลอื่นไม่ชอบเรา สังเกตด้วยใจที่เป็นกลางอย่าระแวง
-ชวนไปไหนด้วยกัน ชอบอ้างโน้นนี่เพื่อปฏิเสธ
-ทำอะไรนิดหน่อยก็ โมโหโกรธา โกรธแรงๆกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
-มีพฤติกรรมปิดบังซ่อนเร้น ไม่ต้องการให้เรามีส่วนร่วม
ตัวอย่างถูกนินทา ไม่มีคนชอบ
พูดจาประชดส่อเสียด เวลาเราเข้ากลุ่มวงสนทนาเงียบกริบ
ไปไหนไม่เคยเอ่ยปากชวน แอบรวมกลุ่มไม่บอกไม่ชวน
ตำหนิให้คนอื่นรู้ถึงความผิดพลาดของเรา บ่อยๆ
ถ้าชัดเจนมากๆ คือพูดตรงๆ ทั้งสีหน้าท่าทางที่แสดงแบบไม่แคร์ไม่สน
ออกอาการว่าอย่ามายุ่งกับฉัน เพราะฉันไม่ชอบเธอ
ทั้ง 2 ตัวอย่างคือการประเมินตัวตนของเรา กับคนรอบข้าง อย่างหยาบๆเพื่อเป็นแนวทางในการสังเกตตัวตน ของตัวเราเองในขณะนั้น
การที่เราต้องเจอเหตุการณ์แบบข้างต้น ก็ต้องล้วนมีสาเหตุที่เป็นจริงและเกิดขึ้นในสถานที่ใดก็ตามที่เราต้องไปอยู่หรือทำงาน เพราะนั้นคือสิ่งที่ทำให้เราเกิดภาวะจำยอมที่จะต้องอยู่กับมัน อาจคือที่ทำงานที่เราต้องเผชิญ
ส่วนใหญ่เมื่อเกิดเหตุขึ้นก็มักสร้างความเครียด ความเบื่อ มากๆขึ้นก็อาจคือการพยายามจะอยู่ให้ไกลกับสิ่งเหล่านี้ ลาออก ย้าย หรือถ้าความขัดแย้งทวีความรุนแรงเป็นอารมณ์ที่ปะทุเหมือนภูเขาไฟระเบิด ก็พอจะเดาๆกันได้ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตามระดับการสะสมความเกลียดโกรธที่มี
#เราจะป้องกันยังไงดีไม่ให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นกับชีวิตของเรา
เคยต้มไข่กินเองบ้างมัย มันบอกอะไรเราจากการต้มไข่
เริ่มตั้งแต่หาไข่ น้ำ หม้อ ไฟ เวลาและความต้องการที่จะให้ไข่สุกระดับใด
เคยมัยที่ต้มเสร็จมีไข่ขาวที่หลุดรอดออกมาในน้ำ เพราะรอยร้าวที่เราไม่เห็นมาก่อน ไข่ก็ออกมาสุกข้างนอกเปลือก ในไข่ใบที่ร้าวนั่นอาจไม่มีเนื้อไข่ที่ต้องการเหลือ และกินไม่ได้
ไข่ที่เราซื้อมาบางครั้งก็เปลือกบาง มีรอยร้าวที่เราไม่สามารถมองเห็น
เราหย่อนไข่ลงในน้ำที่เดือดพล่านทั้งที่ควรจะให้น้ำกับไข่อยู่บนเตาพร้อมๆกันเพื่อให้อุณหภูมิมันสูงไปพร้อมๆกัน การขยายตัวของไข่ที่เพิ่มอย่างช้าๆทุกทิศทางช่วยให้ไข่ไม่แตกได้ และไข่ปกติไม่มีรอยร้าว
ไข่ที่ออกมาจากตู้เย็นมีความเย็นในตัว ถ้าเราไม่รู้ถึงอุณหภูมิที่แท้จริงระยะเวลาที่ใครมาบอกว่าจะต้มให้เป็นไข่ที่สุกตามความต้องการนั้นก็คงไม่ถูกต้อง
วันนี้เราจะฝึกกันถึงสิ่งหนึ่ง ที่เรียกว่า " ความช่างสังเกต "
ทุกคนในยุคนี้ควรมีความตระหนักและอาศัยการสังเกตสังกาให้มาก
ขึ้น ก่อนจะเปิดปากวิพากย์วิจารณ์อะไร เพื่อความปลอดภัยของชีวิต
และทรัพย์สิน ของตัวเอง ของคนที่เรารัก เพื่อป้องกันไม่ให้เราเพลี่ยงพล้ำ ในสถานการณ์ใดๆที่อาจเกิดขึ้นเพราะเราขาดความระมัดระวังภัย
เริ่มต้นจาก
อย่าสู้เพื่อแลกโดยไม่มีโอกาสชนะ ยกเว้นคุณเป็นประเภท เล็กๆไม่
ใหญ่ๆชอบ อยู่ที่ไหนหัวหน้าตายหมด ก็เชิญตามสบาย
แต่ถ้าไม่ใช่ ก็จงจำไว้ว่า การรู้จักเอาตัวรอดด้วยสติปัญญาและเหตุผลเป็นสิ่งที่ควรยึดไว้ และการพูดด้วยเหตุผลความถูกต้องกับคนที่ไม่ใช่
จะไม่มีวันชนะ (ในขณะนั้น)
คือจะบอกว่าภายใต้สถานการณ์บางอย่าง จะเกิดเหตุการณ์ที่คน 2 ฝ่าย มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน และความจริงที่ซ่อนอยู่แต่ไม่มีใครสามารถบอกหรือยุติมันด้วยความจริงในขณะนั้นได้ แม้จะมีหลักฐาน จริงหรือหลักฐานเท็จ😳🤣🤣
มันคือความเห็นต่าง ที่อาจเรียกให้สวยหรูว่า เหตุผลที่ต่างคนต่างยึดถือหรือมีความเชื่อมั่น(เจตนาที่แอบแฝง หรือได้รับการถ่ายทอดมา)และมองว่าอีกฝ่ายที่เห็นต่างนั้นผิด
เขามีอำนาจหรืออิทธิพลเหนือกว่า เช่นเป็นความโชคร้ายที่เจอหัวหน้างาน หรือการเจอวิกฤตจากการเผชิญหน้าในระยะกระชันชิด
คุณจะทำยังไง
ถ้าการ์ดหรือไพ่ในมือคือคุณด้อยกว่า อาจไม่สามารถงัดมาสู้ให้ชนะได้ในทันที คุณต้องต่อสู้อย่างมีสติจึงจะชนะ
ใช้สติเพิ่ม สังเกตสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น ระมัดระวังจำว่าอย่าทำผิดกฏ ใช้ความอดทนให้มากยิ่งขึ้น ฟังให้มากขึ้น และสุดท้ายหุบปากให้สนิท อย่าออกความคิดเห็นที่เป็นผลลบหรือเพิ่มไฟในกองเพลิง ใช้ชีวิตอย่างสงบทั้งกาย วาจา ใจ อยู่ให้เงียบ นิ่งให้เป็น
ถ้าเขาผิด สิ่งที่คุณคิดถูกมันจะปรากฏ เพราะภายใต้จักรวาลนี้ ไม่มีอะไรหนีพ้นความจริงไปได้ สิ่งที่ที่เราเห็นเป็นภาพซ้อนและคิดว่าสิ่งที่เห็นว่าผิดหรือถูกต้องในขณะนั้น มันแค่ยังไม่ปรากฏ มันทับอยู่บนมิติของเวลา เท่านั้น
อะไรคือมิติของเวลา มันคือความจริงก็คือความจริงที่มันจะพิสจน์ได้ว่าเป็นความจริงเมื่อเวลาผ่านไป แม้ว่าคุณจะรอให้มันมาถึงแบบทันใจไม่ได้
แต่ถ้าคุณอดทนรอได้มันก็ต้องมาถึงได้สักวันหนึ่ง
ขอเพียงให้คุณทำสิ่งที่ถูกต้องรักษาชีวิตไว้ กับสิ่งที่คุณเรียกว่าความถูกต้องหรือความดีงาม แม้จะไม่เห็นผลในวันนี้ แต่ทุกวันที่ผ่านไปอย่างช้าๆ กับความจริงของคุณที่อาจต้องแอบไปซับน้ำตา มันจะช่วยให้จิตใจของคุณแข็งแกร่งขึ้น สิ่งนั้นเรียกว่าวิวัฒนาการหรือการปรับตัวเพื่อเอาชนะใจตัวเอง ฝึกความเข้มแข็งในใจ รอวันที่ความจริงปรากฏ
ถูกก็คือถูก ผิดก็คือผิด มีสติเหตุผล และอยู่กับความจริง ยอมรับความพ่ายแพ้ในบางครั้งเพื่อให้ตัวเองรับรู้ความจริง ไม่มีใครถูกทุกอย่างไปตลอด
บทความนี้ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อตอกย้ำเหตุการณ์ใดๆหรือของใคร เป็นเพียงความคิดเห็นหนึ่งเท่านั้น
ชอบกดไลค์ แชร์ ติดตามด้วยวิจารณญาณของท่าน เลื่อนผ่านตามอัธยาศัย ขอบคุณคอมเมนต์เพื่อพัฒนา
ขอบคุณภาพ
โฆษณา