19 ต.ค. 2020 เวลา 23:17 • ปรัชญา
๔๖. ข้อเสนอแนะบางประการต่อการสร้างสรรค์ศิลปะ
ผมเองสงสัยความเชื่อทางศาสนา ไม่ค่อยสงสัยนักต่อวิถีชีวิตของศิลปะและความงาม
ถ้าให้พูดตามอารมณ์ อยากพูดว่าความงามนี่แหละคือศาสนาของผู้รู้จักชีวิต
ส่วนพวกที่คลั่งศาสนาพวกนี้ไม่รู้จักชีวิต ไม่รู้จักศาสนา ไม่รู้จักความงามของชีวิต พอเข้าไปสำนักหนึ่งยึดถือแล้วกัดกับสำนักอื่นทันที จิตใจง่ายๆ ความรู้สึกเกลี้ยงๆ ไร้เดียงสาก็หายไป ความญาติดีกับเพื่อนมนุษย์ก็หายไปมีความรุนแรงแฝงเร้นอยู่ในตัว
ศาสดาทุกองค์สอนให้ใจดีกับเพื่อนมนุษย์ไม่จำกัดชาติศาสนา แต่แล้วผู้ที่คลั่งศาสนาทำในสิ่งตรงกันข้ามทั้งนั้น
พวกคริสเตียนล้มเผ่ามายัน ล้มชาติทั้งชาติ วัฒนธรรมเก่าที่สุดสาบสูญไปจากโลกนี้ เพราะเพียงพวกนั้นไม่เชื่อในพระเจ้าของชาวคริสเตียนสเปน
ปัญหาของศิลปะร่วมสมัยนั้น สะท้อนจากปัญหาชีวิตร่วมสมัยเพราะชีวิตสร้างศิลปะ
ศิลปะสร้างชีวิตไม่ได้ หากช่วยปรับปรุงกล่อมเกลาให้ชีวิตพวยพุ่งรุ่งเรืองได้
แต่ว่าคนสร้างศิลปะ ถ้าคนผุพังแล้ว ศิลปะก็ผุพัง
กรุงเทพฯ เรานั้นโดยชื่อโดยตัวหนังสือบอกว่าเป็นเมืองเทวา ดูซิครับว่า คุณภาพชีวิตของคนกรุงเป็นอย่างไร เราดูกว้าง ๆ บ้านแต่ละบ้านมีลูกกรงล้อมเหมือนคุก เพราะเรากลัวขโมยแล้วต้องขังตัวเองทั้งคืน แล้วโจรขโมยอยู่นอกกรง เขาเร่ร่อนอยู่กลางดึก การกดขี่ข่มเหงทารุณกรรม คดโกงต่อหน้า ลับหลัง การเอาตัวรอดไปวันหนึ่ง ๆ ของผู้คน แก่งแย่ง ใส่ความสารพัด ในเมืองเทวานี้ ไม่ว่าสถาบันการศึกษามหาวิทยาลัย ไม่ยกเว้นแม้ในหมู่พระสงฆ์
รัฐค่อย ๆ ทำให้แต่ละคนสูญเสียความเชื่อมั่นไปทีละน้อย ๆ ตอนเป็นชุมชนย่อย ๆ ไม่มีคำว่ารัฐ คนทุกคนต้องต่อสู้และพึ่งตัวเอง เขาจะมีมิตรภาพและไมตรีจิตซึ่งเป็นสิ่งเดียวกับการดำรงอยู่
ความกล้าหาญในการล่าสัตว์ ตัวต่อตัว ชีวิตต่อชีวิต ถ้าพลาดก็เป็นเหยื่อ ถ้าชนะก็ได้เหยื่อมากิน มันเป็นสิ่งที่ยุติธรรมอยู่ในตัว
สี่หมื่นปีที่มนุษย์พัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมา ก้าวย่างของมนุษย์ไม่ได้ออกพ้นจากการสังหารชีวิต การประหัตประหารกัน ประสิทธิภาพของระเบิดปรมาณูเดี๋ยวนี้เป็นห้าหมื่นเท่าของที่ลงฮิโรชิมาและนางาซากิ ระเบิดไนโตรเจนบอมม์มีประสิทธิภาพที่จะฆ่าชีวิตล้วน ๆ โดยไม่ทำลายอาคารและที่ดิน นั่นแสดงว่าเทคโนโลยีถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อสังหารมนุษย์และริบทรัพย์สมบัติมันมา
วิธีการรบทุกวันนี้ไม่ใช่การที่ผู้นำขี่ช้างไปดวลกันแล้ว แต่ผู้นำส่วนใหญ่ก็อยู่ข้างหลัง ปล่อยให้ลูกน้องตายก่อน ดังนั้นทุกอย่างมันกลับตาลปัตรหมด จริยธรรม ความกล้าหาญ แทบไม่ต้องคำนึงถึงในการทำศึก
วิถีแห่งนักรบโบราณหายไป มีแต่ผู้ละโมบค้าอาวุธสงคราม หาประโยชน์จากความวอดวายของชีวิตอื่น และพวกที่เข็นแต่ละชาติเข้าสู่ภาวะสงครามคือ นักวิชาการ พวกผู้นำ พวกด๊อกเตอร์ทั้งนั้น ชาวบ้านทำไม่เป็น
อันเนื่องกับทางไท (พุทธิปัญญาสู่งานศิลป์ มรดกของแผ่นดินไทย ที่คนไทยทุกคนควรรู้)
บรรยายพิเศษแก่นักศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะมัณฑนศิลป์ พ.ศ. ๒๕๓๒
โฆษณา