นกพิราบสื่อสารนั้นมีบทบาทสำคัญในสงครามโลกครั้งที่ 1 ขนาดที่อังกฤษนั้นออกกฎหมายให้มีโทษปรับหรือจำคุกแก่คนที่ฆ่าพวกมัน พันตรีชาร์ลส์ได้ส่งนกพิราบสื่อสารออกไปสองตัวแรก พวกมันถูกยิงตายทั้งหมด และในขณะเดียวกันกำลังทหารของเขาจาก 550 นายก็เหลือเพียง 194 นายที่ยังมีชีวิตอยู่ ความหวังสุดท้ายของชาร์ลส์ที่จะขอความช่วยเหลือจึงอยู่กับนกพิราบสื่อสารตัวสุดท้ายที่ชื่อว่า “Cher Ami” เขาได้เขียนข้อความไปว่า “We are along the road parallel to 276.4 Our own artillery is dropping a barrage directly on us. For heavens sake stop it” หรือ “พวกเราอยู่ที่ถนนที่ขนานไปกับ 276.4 ปืนใหญ่ของเรากำลังระดมยิงใส่เขื่อนที่อยู่เหนือพวกเรา เห็นแก่สวรรค์ หยุดมันที”
WIKIPEDIA PD
ความหวังทั้งหมดถูกพรากไปเมื่อ Cher Ami ถูกฝ่ายเยอรมันยิงเข้าที่อก มันร่วงลงสู่พื้นแต่ก็กัดฟันบินต่อไปพร้อมกับข้อความที่พันตรีชาร์ลส์ฝากไว้ สุดท้ายแล้วเจ้า Cher Ami ก็สามารถไปถึงเป้าหมายได้สำเร็จด้วยสภาพที่ตาบอดข้างหนึ่งและขาข้างหนึ่งนั้นเหลือเพียงแค่เส้นเอ็นห้อยต่องแต่ง ทางด้านกำลังเสริมก็สามารถให้การช่วยเหลือทหารเกือบสองร้อยนายได้ทันท่วงที
WIKIPEDIA CC BJØRN CHRISTIAN TØRRISSEN
Cher Ami ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีที่สุดเท่าที่กองทัพจะสามารถให้ได้โดยมีการทำขาไม้เล็กๆ ให้มันทดแทนขาที่เสียไปในภารกิจ และมันก็ได้รับหนึ่งในเหรียญกล้าหาญ Croix de Guerre ทรงเกียรติที่สุดจากฝรั่งเศส และได้ถูกส่งไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาโดยนายพลจอห์น เพอร์ชิง ก่อนจะสิ้นอายุขัยเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ. 1919 ส่วนร่างของมันนั้นถูกสตัฟฟ์และจัดแสดงไว้ ณ พิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียน