22 ต.ค. 2020 เวลา 12:59 • ประวัติศาสตร์
ภาษีในเอเชียที่ดูโหดร้ายในสายตาชาวตะวันตก
หลายๆ ประเทศในตะวันตกนั้น มักมีการจัดเก็บภาษีที่แพงมาก
หากแต่ชาวตะวันตกหลายคนก็มองว่าภาษีในประวัติศาสตร์ของเอเชียนั้นโหดร้ายกว่า แต่จะมีที่ไหนบ้าง และรายละเอียดเป็นอย่างไร ไปหาคำตอบกันได้เลยครับ
1.ภาษี 67% ของ Toyotomi Hideyoshi (ญี่ปุ่น)
ในปลายศตวรรษที่ 16 “Toyotomi Hideyoshi” ไดเมียวคนสำคัญของญี่ปุ่น ได้ตัดสินใจจะเปลี่ยนระบบการจัดเก็บภาษี
Toyotomi Hideyoshi
Hideyoshi ได้ยกเลิกภาษีบางอย่าง เช่น ปลาและสัตว์น้ำ แต่ขึ้นภาษีข้าวเปลือกถึง 67% ซึ่งหมายถึงชาวนาต้องมอบข้าวที่ตนปลูกให้แก่รัฐบาลถึง 2 ใน 3
ไดเมียว หรือผู้ปกครองหลายคนต่างก็เก็บภาษีจากชาวนาที่เพาะปลูกในเขตพื้นที่ของตน ซึ่งชาวนาก็ต้องมอบข้าวให้ไดเมียวทั้งหมด และไดเมียวก็จะเหลือข้าวไว้ให้ชาวนานิดหน่อย แค่พอเลี้ยงตัวและครอบครัว
2
2.ภาษีแรงงาน (ไทย)
ประเทศไทยเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ชาวตะวันตกมองว่าในสมัยโบราณ มีการจัดเก็บภาษีที่โหดร้าย
1
ก่อนปีค.ศ.1899 (พ.ศ.2442) อาณาจักรสยามจะทำการจัดเก็บภาษีในรูปแบบของแรงงาน
1
ชาวนาหรือประชาชนทั่วๆ ไปต้องเข้ารับการเกณฑ์แรงงาน เข้าทำงานแก่ราชสำนัก โดยต้องเข้าเกณฑ์แรงงานอย่างน้อยสามเดือนต่อปีหรืออาจจะมากกว่า ทำให้เสียเวลาทำมาหากิน
2
ชาวไทยโบราณ
เมื่อเริ่มเข้าสู่ศตวรรษที่ 20 ชนชั้นปกครองในสยามจึงเริ่มจะเปลี่ยนวิธีการเก็บภาษี จากเกณฑ์แรงงานมาเป็นจ่ายเงินแทน
1
3.ภาษีงานแต่งงาน (อุซเบกิสถาน)
ในช่วงศตวรรษที่ 16 รัฐบาลอุซเบกิสถานได้จัดเก็บภาษีงานแต่งงาน ซึ่งเรียกว่า “madad-i toyana”
การแต่งงาน
ภาษีนี้ถูกยกเลิกในค.ศ.1543 (พ.ศ.2086) เนื่องจากขัดต่อกฎศาสนาอิสลาม
4.ภาษีเต้านม (อินเดีย)
3
ต้นศตวรรษที่ 19 หญิงอินเดียที่มาจากวรรณะต่ำ ต้องจ่ายภาษีที่เรียกว่า “mulakkaram” หรือ “ภาษีเต้านม”
หากหญิงจากวรรณะต่ำคนไหนต้องการจะออกจากบ้านโดยปกปิดหน้าอก จะต้องจ่ายภาษี
หญิงชาวอินเดีย
ภาษีนั้นจะมีราคาต่างกันไปตามขนาดและความน่าดึงดูดของเต้านม โดยในปีค.ศ.1840 (พ.ศ.2383) หญิงรายหนึ่งได้เฉือนเต้านมตนเอง และมอบให้เจ้าพนักงานเก็บภาษี เพื่อเป็นการประท้วง
หญิงรายนั้นเสียชีวิตจากการเสียเลือดในเวลาต่อมา หากแต่ภาษีนี้ก็ถูกยกเลิกในแทบจะทันที
2
5.ภาษีลูกชาย (จักรวรรดิออตโตมัน)
ตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 14-ต้นศตวรรษที่ 19 ชาวคริสต์ที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรออตโตมันต้องเสียภาษี โดยมอบลูกชายให้แก่รัฐบาล
ทุกๆ สี่ปี เจ้าหน้าที่รัฐบาลจะเดินทางไปตามพื้นที่ต่างๆ มองหาเด็กชายอายุตั้งแต่เจ็ด-20 ปี และให้เด็กเหล่านี้เข้ารีต นับถือศาสนาอิสลาม และเด็กเหล่านี้ก็จะกลายเป็นทรัพย์สินขอสุลต่านและถูกฝึกให้เป็นทหาร
กองทหารออตโตมัน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นภาษีที่ดูโหดร้ายในสายตาของชาวตะวันตก หากแต่คนอื่นๆ ก็อาจจะมองต่างออกไป ขึ้นกับมุมมองของแต่ละคน
โฆษณา