จับตาซัมซุง เมื่อสิ้นท่านประธานลี
ลี คุน-ฮี ผู้นำซัมซุงรุ่นที่ 2 ผู้เปลี่ยนบริษัทสัญชาติเกาหลีใต้นี้สู่ความเป็นยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี
ก่อนหน้านี้ Good Sharing ได้แจ้งข่าวการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของนาย ลี คุน-ฮี ประธาน ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ด้วยวัย 78ปี อันเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่
นายลี มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงซัมซุงให้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของโลกหลังจากที่เขาได้เข้ามาบริหารในปี พ.ศ. 2530 สืบทอดตำแหน่งจากบิดาของเขา ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท ซึ่งซัมซุงในสมัยนั้น เป็นที่รู้จักว่าเป็นผู้ผลิตโทรทัศน์ราคาถูก และไมโครเวฟที่ใช้ไม่ค่อยได้ขายอยู่ตามร้านลดราคา
ในการประกาศแถลงการณ์ “การบริหารใหม่” ในปี พ.ศ. 2536 ของนายลี ได้แนะนำให้เหล่าผู้บริหารซัมซุง “เปลี่ยนทุกอย่าง ยกเว้นภรรยาและลูกๆ” เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงบริษัทใหม่ และส่งมอบเทคโนโลยีบรรลือโลก
ความพยายามเหล่านี้ก็เป็นผลสำเร็จ โดยเมื่อปีพ.ศ. 2549 ซัมซุงเอาชนะโซนี่ แลได้กลายเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดโทรทัศน์โลกสำเร็จ และเป็นผู้นำโทรทัศน์จอแบน อีก 5 ปีต่อมา ซัมซุงก็ชิงตำแหน่ง Apple ในฐานะผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้
อดีตผู้บริหารซัมซุงท่านหนึ่ง จดจำนายลีไม่ใช่ในฐานะผู้ที่เปลี่ยนแปลงเฉพาะบริษัทของเขา แต่เปลี่ยนแปลงธุรกิจของเกาหลีใต้ทั้งหมด
แถลงการณ์การบริหารใหม่ของเขา ได้กระตุ้นกลุ่มบริษัทในเครือซัมซุงให้ดำเนินรอยตามเขา และช่วยให้เขาสามารถไล่ทันญี่ปุ่นในด้านเซมิคอนดัคเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และการสร้างเรือ ทำให้กลุ่มบริษัทที่บิดาของนายลีได้สร้างไว้ จากธุรกิจซื้อมาขายไป จนกลายเป็นบริษัทขุมพลังระดับโลกด้วยมูลค่าสินทรัพย์ 375 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ครอบคลุมธุรกิจตั้งแต่อิเล็กทรอนิกส์ ประกัน ไปจนถึงการสร้างเรือ และก่อสร้าง
ปี 2562 กลุ่มบริษัทในเครือซัมซุง มีรายได้ 326.7 ล้านล้านวอน หรือ 289.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 17% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ของเกาหลีใต้
นายลี เป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในเกาหลีใต้ ด้วยจำนวนหุ้นที่ถือทั้งหมดมีมูลค่า 17.6 ล้านล้านวอน หรือ 15.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ข้อมูล ณ เดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว โดยที่ลูกชายของเขาเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดอันดับสองของเกาหลีใต้ ด้วยการถือหุ้นทั้งหมดมีมูลค่า 7.4 ล้านล้านวอน
อย่างไรก็ตาม นายลี ก็เผชิญกับความท้าทายทางด้านกฎหมายหลายข้อกล่าวหาในการทำอาชีพของเขา ซึ่งรวมถึงเรื่องการทุจริต เมื่อปีพ.ศ. 2551 เขาถูกดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ และอดีตที่ปรึกษาด้านกฎหมายของบริษัท ได้เปิดเผยว่า นายลีได้ติดสินบนนักการเมือง ผู้พิพากษา และ อัยการ หลายราย
ตั้งแต่นายลี เข้ารับการรักษาในปีพ.ศ. 2557 ลูกชายของเขา คือ นายลี แจ-ยอง ซึ่งเป็นรองประธานซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ได้ดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้นี้โดยพฤตินัย เช่นเดียวกับผู้เป็นบิดา เขาก็เผชิญกับความท้าทายทางด้านกฎหมายเช่นกัน โดยถูกดำเนินคดีด้านการปลอมแปลงทางบัญชี และ การสร้างราคาหลักทรัพย์ หรือ การปั่นหุ้น นั่นเอง
ปัจจุบันนี้ ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ เป็นเสาหลักสำคัญของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ และเป็นหนึ่งในองค์กรที่ใช้จ่ายด้านงานวิจัยและพัฒนามากที่สุดของโลก
การจากไปของนายลีนี้ ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าใครจะมาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง ขณะที่บุตรชายของเขาได้รับการวางตัวในตำแหน่งประธานบริษัทมายาวนาน แต่เขาก็มีประเด็นทางด้านกฎหมายตั้งแต่บิดาของเขาเข้ารับการรักษา เขาถูกจำคุกเกือบปีในข้อหาการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับอดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ นอกจากนี้ กฎหมายเกาหลีใต้ยังได้ระบุไว้ว่าใครก็ตามที่มีสิทธิในมรดกของนายลี จะต้องชำระเงินหลายพันล้านดอลลาร์ ตามที่ระบุไว้ในภาษีมรดก และอาจจะทำให้พวกเขาต้องลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทด้วย