9 พ.ย. 2020 เวลา 07:50 • ประวัติศาสตร์
เหตุการณ์ “11 กันยายน ค.ศ.2001”
เหตุการณ์ “11 กันยายน ค.ศ.2001” เป็นเหตุการณ์การก่อการร้ายที่โด่งดัง สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งโลก
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ.2001 (พ.ศ.2544) แต่ไม่ใช่เพียงแค่ชาวอเมริกันที่ตื่นตระหนก หากแต่คนทั่วโลก ต่างตกใจและเสียขวัญต่อข่าวนี้
แม้แต่ทุกวันนี้ หลายคนก็ยังไม่ลืมเหตุการณ์นี้ แต่เหตุการณ์นี้มีรายละเอียด ความเป็นมาอย่างไร เราไปหาคำตอบกันครับ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ.2001 (พ.ศ.2544) โดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายได้ทำการจี้เครื่องบินจำนวนสี่ลำ และบังคับให้พุ่งชนตึก “เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (World Trade Center)” ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และตึก “เพนตากอน (Pentagon)” ในวอชิงตัน
เครื่องบินลำที่ถูกจี้นั้น เดิมที มีจุดหมายอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย หากแต่เมื่อออกจากสนามบิน ก็ได้ถูกผู้ก่อการร้ายจี้ โดยผู้ก่อการร้ายบางรายมีประสบการณ์การบินอีกด้วย
เวลา 8.45 น. เครื่องบินได้พุ่งชนตึกเหนือ และอีก 20 นาทีต่อมา เครื่องบินอีกลำจึงได้พุ่งชนตึกใต้
1
ผู้คนที่ทำงานอยู่ในตึกแฝด ต่างรีบหาทางหนีออกมาจากตึกให้เร็วที่สุดเพื่อเอาชีวิตรอด และเมื่อเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง ตึกแฝดแห่งนี้จึงได้พังทลาย
เวลา 9.40 น. เครื่องบินอีกลำได้พุ่งเข้าชนด้านตะวันตกของตึกเพนตากอนในวอชิงตัน ทำให้ส่วนหนึ่งของตึกเพนตากอนทรุดตัว และมีผู้เสียชีวิตราว 200 คน
1
คาดว่าเครื่องบินลำที่สี่ตั้งใจจะพุ่งไปยังทำเนียบขาว แต่ผู้โดยสารบางรายพยายามต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย ทำให้เครื่องบินตกลงยังทุ่งนาในเพนซิลเวเนียแทน
อาคารเพนตากอนหลังถูกโจมตี
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก โดยเครื่องบินลำที่พุ่งชนตึกเวิลด์เทรดนั้นบรรทุกน้ำมันเต็มถัง ทั้งสองลำที่พุ่งชนตึกแฝดมีน้ำมันอยู่ถึง 90,000 ลิตร
เมื่อเครื่องบินทั้งสองลำพุ่งชนตึก จึงเกิดไฟไหม้อย่างรวดเร็ว และแม้ภายในตัวตึกจะมีระบบดับเพลิงอัตโนมัติ แต่ก็ไม่สามารถต้านทานเปลวเพลิงที่โหมไหม้อย่างหนัก และด้วยความที่เปลวเพลิงมีความร้อนสูงถึง 1,000 องศาเซลเซียส ทำให้โครงสร้างตึกเริ่มจะรับไม่ไหว และพังลงในที่สุด
ภายหลังเหตุการณ์สงบลง ความตื่นกลัวได้กระจายไปทั่วสหรัฐอเมริกา
มีการสั่งอพยพทุกคนที่อยู่ในทำเนียบขาว และปิดกั้นน่านฟ้าเหนือสหรัฐอเมริกา ไม่ให้เครื่องบินเข้ามาได้ จุดท่องเที่ยวหลายจุดถูกสั่งปิดชั่วคราว ตลาดหุ้นก็ถูกสั่งปิด
3
ภายหลังเหตุโศกนาฏกรรมนี้ รัฐบาลได้ให้อำนาจตำรวจและเอฟบีไอมากขึ้น พร้อมทั้งสั่งให้ตามตัวผู้ก่อการร้ายที่ต้องรับผิดชอบมาให้ได้ และระบบการตรวจค้นที่สนามบินก็เข้มงวดและรัดกุมขึ้น
คนที่รัฐบาลอเมริกันมั่นใจว่าเป็นตัวการ คือ “โอซามา บินลาเดน (Osama bin Laden)” หัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย “อัลกออิดะฮ์ (Al-Qaeda)”
โอซามา บินลาเดน (Osama bin Laden)
บินลาเดน เกิดที่ซาอุดิอารเบียในปีค.ศ.1957 (พ.ศ.2500)
เขาเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย ตัวของบินลาเดนนั้นเป็นบุตรคนที่ 17 และมีพ่อเป็นเจ้าของบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ที่ร่ำรวยระดับพันล้าน
เมื่อเติบโตขึ้นมา บินลาเดนได้ศึกษาวิศวกรรม ก่อนที่ในยุค 80 (พ.ศ.2523-2532) เขาจะเดินทางไปอัฟกานิสถานเพื่อช่วยเหลือกลุ่มมูจาฮิดีน ซึ่งเป็นกลุ่มชาวมุสลิมที่ต่อต้านการรุกรานอัฟกานิสถานของสหภาพโซเวียต
เมื่อสิ้นยุค 80 (พ.ศ.2523-2532) บินลาเดนก็ได้ก่อตั้งกลุ่ม “อัลกออิดะฮ์ (Al-Qaeda)”
ในปีค.ศ.1991 (พ.ศ.2534) สหรัฐอเมริกาได้ส่งทหารเข้ามาในซาอุดิอารเบีย โดยมีจุดประสงค์ที่จะล้มล้างและขับไล่ “ซัดดัม ฮุสเซน (Saddam Hussein)” ออกจากคูเวต
บินลาเดนนั้นโกรธและตั้งตัวเป็นศัตรูกับรัฐบาลซาอุดิอารเบียทันที เนื่องจากเขาไม่เห็นด้วยที่รัฐบาล ยอมให้สหรัฐอเมริกาเข้ามาแผ่อิทธิพลในประเทศมุสลิม
แต่ต่อมา บินลาเดนก็ถูกขับไล่ออกจากซาอุดิอารเบีย เนื่องจากเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย เขาจึงไปอยู่ที่ซูดาน ก่อนจะไปยังอัฟกานิสถาน
ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว บินลาเดนถูกตั้งข้อหาว่ามีส่วนในการก่อการร้ายหลายครั้ง โดยครั้งที่รุนแรงที่สุด คือเมื่อคราววางระเบิดสถานทูตอเมริกันที่เคนย่าและแทนซาเนียในปีค.ศ.1998 (พ.ศ.2541) ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 200 คน
2
สำหรับกลุ่มอัลกออิดะฮ์ เป็นเครือข่ายก่อการร้ายของบินลาเดน ซึ่งได้รับการก่อตั้งในยุค 80 (พ.ศ.2523-2532) และตัวบินลาเดน ก็เป็นผู้สนับสนุนทางการเงินรายใหญ่
อัลกออิดะฮ์มีแนวคิดว่าชาวตะวันตกควรต้องออกไปจากรัฐและประเทศที่เป็นอิสลาม และประเทศที่ไม่ปฏิบัติตามกฎอิสลามคือประเทศที่เลวทราม
พวกเขาเชื่อว่าชาวมุสลิมทุกคนควรจะเข้าร่วมสงครามศักดิ์สิทธิ์ ต่อสู้กับสหรัฐอเมริกาและอิสราเอล
1
สำหรับตัวบินลาเดนนั้น ก็ได้กลายเป็นบุคคลที่ทางการอเมริกันต้องการตัวมากที่สุด และในที่สุด ก็ได้ถูกหน่วยปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐอเมริกา สังหารในปีค.ศ.2011 (พ.ศ.2554) หากแต่ก็มีข่าวลือว่าเขานั้นยังไม่ตาย ที่ตายไปไม่ใช่บินลาเดนตัวจริง
1
แต่อย่างไรก็ตาม ข่าวการตายของบินลาเดน ก็ได้ทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากดีใจและฉลองการตายของเขาอย่างสะใจ
1
ปฏิกิริยาของชาวอเมริกันเมื่อทราบข่าวการตายของบินลาเดน
เหตุการณ์นี้ จะเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่ก็เชื่อว่าไม่มีใครลืมลงอย่างแน่นอน
โฆษณา