รัฐบาลจีนเล็งออกกฎป้องกันการผูกขาดอินเทอร์เน็ต กดดันบริษัทเทคฯยักษ์ใหญ่
หลังจากที่ผู้บริโภคชาวจีนอัดอั้นในการจับจ่ายมาตั้งแต่เริ่มต้นปีนี้ กลับเป็นเรื่องที่ดีสำหรับ บริษัทอี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba เห็นได้ชัดในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ Singles’ Day ที่ยอดขายทำลายสถิติแม้ว่าจะอยู่ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ก็ตาม โดย Alibaba ได้เปิดเผยเมื่อเช้าวันพุธ (11พ.ย.) อย่างที่ Good Sharing ได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้ (https://www.blockdit.com/articles/5faa6e9643a9dd0c3815a1c6) ว่า งานนี้กวาดยอดขายไปถึง 56,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากงานอีเว้นท์หลักในช่วง 30 นาทีแรกและช่วง 3วันก่อนงานอีเว้นท์ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อกระตุ้นยอดขาย และแน่นอน ตัวเลขดังกล่าว เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจหลักแห่งเดียวในโลกที่คาดว่าจะเติบโตในปีนี้
นักวิเคราะห์จาก Forrester กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคชาวจีน ได้กลับมาอยู่ที่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัส หรือไม่ก็สูงกว่า
สำหรับแบรนด์ต่างๆ ก็แย่งกันฟื้นตัวจากการปิดตัวของร้านค้า และผู้บริโภคที่ต้องอยู่แต่ในบ้านเป็นระยะเวลาหลายเดือน ทั้งนี้ การสำรวจจาก Oliver Wyman บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารธุรกิจ ได้ทำการวิจัยตลาด พบว่า 86% ของผู้บริโภคชาวจีน พร้อมที่จะใช้จ่ายเท่ากับ หรือมากกว่า ที่เคยทำเมื่อเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ในปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการที่รัฐบาลจีนอาจจะคุมเข้มบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในจีน โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการจีนได้ระงับการขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก หรือ IPO ของบริษัทลูกของ Alibaba นั่นคือ Ant Group ที่เหล่านักลงทุนรอคอย ในนาทีสุดท้าย โดยผู้ออกกฎจีนกล่าวว่า มีประเด็นสำคัญที่อาจจะทำให้ Ant Group ขาดคุณสมบัติการเป็นบริษัทจดทะเบียน หรือ ประเด็นเรื่องการเปิดเผยข้อมูล
ผู้เชี่ยวชาญต่างก็คิดว่า การวิพากษวิจารณ์ออกสื่อของ Jack Ma เจ้าพ่อ Alibaba ที่มีต่อผู้คุมกฎจีนในเรื่องการจำกัดนวัตกรรม อาจจะเป็นประเด็นหลักที่ส่งผลต่อการขาย IPO ก็เป็นได้
และเมื่อวันอังคาร (10 พ.ย.) สำนักงานบริหารจัดการกฎระเบียบตลาดแห่งรัฐ หรือ Administration for Market Regulations ซึ่งเป็นผู้ออกกฎ ได้ทำการร่างแนวทางที่ระบุว่าจะป้องกันการผูกขาดอินเทอร์เน็ต พร้อมมีข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องข้อบังคับใหม่ออกมาจากร่างข้อบังคับดังกล่าว สำหรับบรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่ทางการจีนโปรโมทว่าเป็นธุรกิจชั้นนำแห่งชาติของจีน
โดยทางการกล่าวว่า การจำกัดอำนาจของเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซ และแอพพลิเคชั่นต่างๆ จะช่วยปกป้องการแข่งขันให้มีความยุติธรรม และเพื่อให้เกิดการเติบโตที่ดีสำหรับเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ต
รัฐบาลจีนยังมีความกังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมการผูกขาดที่เกิดขึ้นจริง หรืออาจจะเกิดขึ้น และขนาดของผู้ที่ผูกขาดตลาด รวมทั้ง การนำไปสู่การแข่งขันที่ไม่ยุติธรรม หรือ การบีบผู้เล่นหน้าใหม่ และการลดการแข่งขันลง จึงเป็นที่มาของการออกกฎที่คุมเข้มมากขึ้น
แนวทางดังกล่าวยังเป็นแค่ฉบับร่าง โดยผู้ออกกฎกล่าวในเว็บไซต์ว่า จะให้มีการทำประชาพิจารณ์จนถึงสิ้นเดือนนี้ และเปิดกว้างสำหรับคำแนะนำในการปรับปรุงร่างดังกล่าว
ความวิตกในประเด็นว่าทางการจีนอาจจะคุมเข้มบรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่นี้ ได้ทำให้มูลค่าหุ้นบริษัทดังกล่าวหายไปเป็นแสนๆล้านดอลลาร์ฮ่องกงในเวลาเพียงสองวันเท่านั้น
หุ้นของ Alibaba และ JD.com ลดฮวบลงไปมากกว่า 10% ในการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อวันอังคาร (10 พ.ย.) ทำให้สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่แย่ที่สุดสำหรับหุ้นของทั้งสองบริษัท
การลดลงได้ทำให้มูลค่าตลาดของ Alibaba ซึ่งก่อตั้งโดย Jack Ma หายไปถึง 756,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 97,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อีกแห่งซึ่งเป็นคู่แข่ง Alibaba อย่าง JD.com มูลค่าตามราคาตลาดหายไป 201,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 26,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทางด้าน Meituan ซึ่งให้บริการคล้ายๆกับ Groupon และ Yelp และบริษัทเกมอย่าง Tencent มูลค่าตามราคาตลาดก็หายไปเป็นหมื่นๆล้านดอลลาร์เช่นกัน โดยข้อมูลจาก Refinitiv เปิดเผยว่ามูลค่าหุ้นทั้ง 4 ตัวนี้รวมกัน มูลค่าหายไปรวม 255,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากมูลค่าหุ้นในตลาดหุ้นฮ่องกง
นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่า หุ้นเทคโนโลยีอาจจะยังอยู่ภายใต้แรงกดดันต่อไปจนกว่ากรอบ หรือระดับของกฎใหม่นี้มีความชัดเจนมากขึ้น
แรงเทขายนั้น ยังมาจากการที่นักลงทุนได้เปลี่ยนจากการลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนลยีที่กำลังเป็นที่นิยม มายังกลุ่มที่เกาะไปกับวัฏจักรเศรษฐกิจ หลังจากที่ Pfizer ประกาศเรื่องวัคซีนโควิด -19 สร้างความหวังในการกลับมาใช้ชีวิตปกติได้
นักวิเคราะห์รายอื่นๆ เชื่อว่า การคุมเข้มกฎระเบียบในจีนอาจจะส่งผลกระทบต่อการเติบโต ของกลุ่มอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซต่างๆ หากมีการออกกฎที่เข้มงวดมากขึ้น ทำให้อำนาจการต่อรองของแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่เหล่านั้นในการทำข้อตกลงกับผู้ค้าลดลง
รัฐบาลจีนได้มีความพยายามนี้เพื่อที่จะกดดันเหล่าบริษัทอินเทอร์เน็ตเมื่อไม่นานมานี้ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หน่วยงานราชการสามแห่งของจีน ซึ่งประกอบไปด้วย ผู้ออกกฎระเบียบตลาด อินเทอร์เน็ต และ ฝ่ายบริหารจัดการภาษีของรัฐ ได้เรียกให้แพลตฟอร์มทั้ง 27 แพลตฟอร์มมาร่วมหารือเรื่องการออกกฎระเบียบสำหรับเศรษฐกิจออนไลน์ โดยแพลตฟอร์มเหล่านั้น รวมถึง Alibaba, Bytedance, Tencent, Pinduoduo, Baidu และ JD.com
ทั้งนี้เหล่าผู้คุมกฎได้มีการเตือนเรื่องพฤติกรรมการผูกขาด และกล่าวว่ารัฐบาลจะประกาศกฎระเบียบเพิ่มเติม มุ่งเป้าที่การทำธุรกรรมออนไลน์ สตรีมมิ่ง และบริการอื่นๆ โดยย้ำว่าจะประกาศหลังเทศกาลช้อปปิ้ง Singles’ Day ในประเด็นการทำผิดกฎหมาย และเตือนบริษัทต่างๆเรื่องการลอยตัวของส่วนลด และการโกงลูกค้า
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางสมาพันธ์ผู้บริโภคจีน ซึ่งเป็นกลุ่มสนับสนุนสิทธิผู้บริโภค รับรองโดยรัฐบาล ได้ออกมาเตือนให้ผู้บริโภค มี“การบริโภคที่สมเหตุสมผล” และสถานีโทรทัศน์ CCTV ได้ตีแผ่กลโกงจากแพลตฟอร์มช้อปปิ้ง
นักวิเคราะห์จาก Citi กล่าวว่า Alibaba and Pinduoduo อาจจะได้รับผลประทบมากกว่าเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซรายอื่นๆ เนื่องจากทั้งสองเว็บพึ่งพาการใช้คำเสนอแนะผลิตภัณฑ์แบบรายบุคคลให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และฟีเจอร์นี้อาจจะถูกจำกัดโดยกฎใหม่นี้
ที่มา:
ภาพ: