16 พ.ย. 2020 เวลา 09:47 • สุขภาพ
02 สามารถรับประทานอะไรได้บ้างในระหว่างการทำ water fasting
จากการศึกษาเก็บข้อมูล และจากการที่มีคนมาสอบถามเกี่ยวกับการ fasting นี่เป็นหนึ่งในคำถามที่มีคนถามเยอะที่สุดเลยค่ะ เนื่องจากว่าคำตอบที่ได้รับจากแต่ละแหล่งข้อมูลนั้นแตกต่างกันออกไป
บ้างก็บอกว่าต้องดื่มแต่น้ำเปล่าเท่านั้น บ้างก็บอกว่าสามารถดื่มกาแฟดำหรือชาที่ไม่มีนมหรือน้ำตาลได้ บ้างก็บอกว่าสามารถใช้สารให้ความหวานที่ไม่มีแคลอรี่ได้ (เช่น สตีเวีย, อีริธิออล) จึงอาจทำให้ผู้ที่เริ่มหันมาสนใจการ fasting เกิดความสับสนและสงสัยขึ้นมาได้
วันนี้เราจะมาแบ่งปันสิ่งที่เราได้ทราบมานะคะ ถ้าหากใครมีข้อมูลอยากแบ่งปันเพิ่มเติมก็ยินดีมากเลยค่ะ
ในช่วงอดอาหารของการทำ fasting โดยหลักการแล้วไม่ควรจะมีการได้รับพลังงานไม่ว่าในรูปแบบใดๆ ซึ่งทุกคนน่าจะทราบกันดีอยู่แล้ว แต่มันก็นำมาสู่คำถามที่ว่า อ้าว แล้วถ้าเราดื่มอย่างอื่นที่ไม่ใช่น้ำ หรือใช้สารให้ความหวานที่ไม่มีพลังงานล่ะ? แบบนี้ก็น่าจะยังนับว่าเป็นการ fasting ได้อยู่ใช่มั้ย
ก่อนอื่นเลย ต้องเล่าก่อนว่าการทำ fasting มันเหมือนเป็นวัฒนธรรมย่อยเลยก็ว่าได้นะคะ เหมือนคนทานมังสวิรัติเลยค่ะ มีความเคร่งครัดหลายระดับ บางคนทานไข่และนม บางคนไม่ทานไข่ แต่ดื่มนมได้ หรือบางคนก็ไม่ทานหรือใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ จากสัตว์เลย เช่นกลุ่มวีแกน
ซึ่งก็ไม่ต่างกันค่ะ คนที่ทำ water fasting มีหลายกลุ่มมาก บางกลุ่มบอกว่าให้งดทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วดื่มได้แค่น้ำ บางกลุ่มบอกว่าดื่มได้แค่น้ำ แต่เพิ่มเกลือลงไปได้เมื่ออ่อนเพลีย บางกลุ่มเพิ่มกาแฟดำและชาเข้าไปได้ด้วย แต่ห้ามเติมสารให้ความหวานใดๆ สรุปก็คือ ตามแต่จุดประสงค์ในการทำ water fasting และตามความเคร่งครัดเลยค่ะ
ที่บอกว่าตามแต่จุดประสงค์ในการทำ water fasting ก็เนื่องมาจากว่า ในบางกลุ่มจะมีความเชื่อเรื่องการทำ water fasting เพื่อรักษาโรคผ่านกลไกการเกิด autophagy หรือการที่เซลล์กินตัวเองเข้าไป กลุ่มนี้เขาจะเชื่อว่าไม่ควรได้รับสิ่งใดเข้าไปในร่างกายเลยยกเว้นน้ำเปล่าค่ะ โดยให้งดทุกอย่างแม้กระทั่งยารักษาโรคประจำตัว (ต้องบอกก่อนว่าเราไม่เห็นด้วยกับวิธีการสุดโต่งแบบนี้นะคะ) ซึ่งจริงๆ แล้วค่อนข้างอันตรายและควรอยู่ในการดูแลของบุคลากรทางการแพทย์ค่ะ
แต่อย่างไรก็ตามเราก็ยังพบเห็นคำแนะนำให้งดยารักษาโรคประจำตัวได้ทั่วไปในกลุ่มที่สุดโต่งจริงๆ ค่ะ
โดยส่วนตัวเราแล้ว เราเพิ่มเกลือ 0.5-1 ช้อนชาต่อวันเวลาที่รู้สึกอ่อนเพลีย และเราดื่มชาเขียวในตอนเช้าค่ะ เราไม่ใช้สารให้ความหวานใดๆ นะคะ เราคิดว่าด้วยวิธีการนี้จะทำให้เรามีความสุขกับการอดอาหารได้มากที่สุดค่ะ
1
หากจุดประสงค์ในการทำ water fasting ระยะยาวของคุณคือเพื่อลดน้ำหนัก การดื่มกาแฟดำ และทานเกลือเมื่ออ่อนเพลียยังคงเป็นวิธีที่ได้ผลดีค่ะ Dr. Jason Fung ผู้มีชื่อเสียงในวงการ fasting เคยกล่าวไว้ว่าคุณสามารถทานอาหารได้เล็กน้อยไม่เกิน 500 kCal ต่อวันแล้วยังสามารถลดน้ำหนักได้อยู่ (พลังงานที่ได้รับน้อยกว่าพลังงานที่ใช้ ยังไงน้ำหนักก็ต้องลดลงอยู่แล้ว) เราจะแปะ link ไว้ข้างล่างนะคะ
แน่นอนว่า การไม่รับแคลอรี่เข้าร่างกายเลย เมื่อเปรียบเทียบกับการรับแคลอรี่แต่น้อยมากๆ คือไม่เกิน 500 kCal ย่อมให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ไม่ใช่แค่อัตราการลดน้ำหนักเท่านั้น แต่รวมถึงผลที่ตามมาหลังจากกลับไปรับประทานอาหารแบบเดิมด้วย ซึ่งเราจะนำเรื่องนี้มาคุยในวันหลังๆ นะคะ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว
ในตอนนี้ ขณะที่เรากำลังพิมพ์อยู่ เราอดอาหารมาได้เกือบ 40 ชั่วโมงแล้วค่ะ ก็รู้สึกอ่อนเพลียเล็กน้อย แต่ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร
ในการทำ fasting สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับเราไม่ใช่การต่อสู้กับความหิวค่ะ สำหรับเราแล้วความหิวเกิดขึ้นน้อยมาก ศัตรูหลักของเราคือความอยากค่ะ
คนเราสามารถจดจำรสชาติของอาหารแต่ละอย่างได้ว่าเป็นอย่างไร แล้วความทรงจำนั้นก็จะเด่นชัดขึ้นเวลาเราไม่ได้ทานอาหารเป็นระยะเวลานานๆ เช่นวันนี้ เราอยากทานคารามูโจ้กับกล้วยแขกทอดร้อนๆ มากๆ ค่ะ หลังเลิกงานต้องรีบกลับมาห้อง ไม่แวะที่ไหน แล้วเช็ดเครื่องสำอาง อาบน้ำ แต่งตัวพร้อมนอนค่ะ จะได้ไม่ออกไปข้างนอกอีก
การทำ water fasting สำหรับเรา ไม่ใช่แค่การลดน้ำหนักค่ะ แต่เป็นการควบคุมความอยากและกิเลสของตัวเองด้วย
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังทำ water fasting อยู่ และคนที่กำลังสนใจนะคะ
ขอบคุณที่คลิกเข้ามาอ่านนะคะ
แอดมิน
16/11/2020
โฆษณา