Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon เผยเคล็ดลับ การบริหารจัดการเวลาและการตัดสินใจในแต่ละวันให้ประสบความสำเร็จ
ไม่มีใครไม่รู้จัก Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง และ CEO ของ Amazon ผู้ที่รวยที่สุดในโลกด้วยมูลค่าสินทรัพย์ 181.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ผู้คนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกนี้หลายคน มักจะไม่ค่อยนอนหลับ และมีการตัดสินใจเป็นพันๆครั้งในแต่ะวัน รวมไปถึง ไม่มีเวลาให้ตัวเอง
แต่ สิ่งเหล่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่ Jeff Bezos ปฏิบัติ กุญแจสำคัญที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จคือ นอนวันละ 8 ชั่วโมง ทำการตัดสินใจที่สำคัญวันละ 3 ครั้งและจัดการให้การประชุมสำคัญอยู่ในช่วงก่อนเวลาอาหารกลางวัน
ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Amazon ท่านนี้ ได้เขียนบทความลงใน Fastcompany.com เกี่ยวกับการตัดสินใจของเขาที่เขียนลงในหนังสือเล่มใหม่ของเขาเรื่อง Invent and Wander ที่เพิ่งเปิดตัวไปล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
Bezos ได้เริ่มด้วยการอธิบายถึงรากฐานวิธีการตัดสินใจของเขา นั่นคือ การนอนให้ได้วันละ 8 ชั่วโมงเต็ม และในเวลาเช้า เขาจะให้มีเวลาในการรับประทานอาหารเช้ากับลูกๆ ชงกาแฟ อ่านหนังสือพิมพ์
เมื่อถึงเวลา 10.00 น. เขาก็จะพร้อมรับมือกับสิ่งที่เขาเรียกว่า การประชุม “ไอคิวสูง” ของวัน ('High-IQ' Meetings of the day’) และในเวลา 17.00 เขาก็จะเอาพวกเรื่อง “ไอคิวสูง” ทั้งหลายเก็บขึ้นหิ้งไว้จนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้
Bezos กล่าวว่า เขาสามารถทำทุกอย่างลงตัวได้ในช่วงเวลา 7 ชั่วโมงนี้ เพราะเขารู้จักการลำดับความสำคัญก่อนหลัง (Prioritize)
โดยเขาได้เขียนไว้ว่า 'ให้ลองคิดดู: ในฐานะที่เป็นผู้บริหารอาวุโส คุณได้รับเงินเดือนเพื่อทำอะไร คุณได้รับเงินเดือนเพื่อให้มาตัดสินใจที่มีคุณภาพสูงในจำนวนไม่ต้องมาก งานของคุณไม่ใช่มานั่งตัดสินใจเป็นพันๆเรื่องในทุกๆวัน'
Bezos กล่าวอีกว่า แทนที่จะต้องมานั่งตัดสินใจเป็นพันๆเรื่อง เขาจะตัดสินใจเพียงแค่สองสามเรื่องในแต่ละวันเท่านั้น โฟกัสในสิ่งที่ยังไม่ออกดอกออกผลในอีกสองถึงสามปีข้างหน้า
เขาได้เขียนอีกว่า เมื่อผลประกอบการรายไตรมาสออกมาดี ผู้คนก็มักจะมาแสดงความยินดีกับเขา ซึ่งเขาก็ได้แต่ขอบคุณคนเหล่านั้น ในขณะที่เขาคิดว่า ผลประกอบการไตรมาสนั้นออกมาดีเพราะมีการเตรียมตัว ปรับปรุง ดำเนินการตั้งแต่เมื่อสามปีที่แล้ว
และแน่นอน ในปัจจุบันนี้ เขากำลังเตรียมตัวทำงานสำหรับผลการดำเนินงานรายไตรมาสของปี 2566 และเขาย้ำว่านี่คือสิ่งจำเป็นที่เราต้องทำ
เขาย้ำว่า ควรจะมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าสองถึงสามปี และถ้าได้มีการวางแผนเตรียมตัวไว้ เหตุใดเขาจะต้องมานั่งตัดสินใจเป็นร้อยๆครั้งในวันนี้
เขากล่าวอีกว่า หากมีการตัดสินใจที่ดีในแต่ละวัน ก็เพียงพอแล้ว และการตัดสินใจนั้นก็ควรจะเป็นการตัดสินใจที่มีคุณภาพดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
Bezos ได้อธิบายในเรื่องการเร่งกระบวนการในการตัดสินใจ โดยแบ่งการตัดสินใจเป็นสองข้อ ที่เขาเรียกว่า 1) “การตัดสินใจที่ไม่มีทางย้อนกลับ หรือ 'One-Way-Door' ซึ่งจะต้องใช้ความระมัดระวังในการตัดสินใจอย่างรอบคอบอย่างช้าๆ และ 2) การตัดสินใจที่สามารถย้อนกลับได้ หรือ 'Two-Way-Door' ซึ่งเมื่อตัดสินใจแล้ว ได้ลองดำเนินทีละขั้นแล้วปรากฏว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด ก็สามารถถอยหลังกลับมาดูใหม่ได้
เขากล่าวติดตลกว่า การทำงานที่ Amazon นั้น เหมือนเขากำลังอยู่ในตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่ทำให้ช้าลง “Chief Slowdown Officer” เนื่องจากว่าเขาต้องการเห็นการตัดสินใจนั้น ได้รับการวิเคราะห์มากกว่า 17 วิธี เพราะการตัดสินใจเหล่านั้นมีผลที่ตามมาสูงและเปลี่ยนกลับแก้ไขไม่ได้ หากเป็นการตัดสินใจแบบ One-Way-Door
โดยเขาบอกอีกว่า ปัญหาคือ การตัดสินใจส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นแบบนั้น ทั้งนี้ การตัดสินใจส่วนใหญ่เป็นแบบ 'Two-Way-Door ซึ่งเขาจะใช้วิธีในการเร่งกระบวนการในการตัดสินใจด้วยการดำเนินการตามหลักการ การไม่เห็นด้วยและลองทำดู (Disagree and Commit) เมื่อมีการถกเถียงเรื่องการตัดสินใจกับคนอื่นๆในทีม
เขากล่าวว่า ถ้าเราไม่ระวังให้ดี กระบวนการตัดสินใจอาจจะกลายเป็นสงครามความขัดแย้งได้ กลายเป็นว่าใครก็ตามที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุด ก็จะชนะ ท้ายที่สุด อีกฝั่งที่มีความเห็นแตกต่าง ก็จะบอกว่า “ก็ได้ ผมเหนื่อยแล้ว เราจะทำตามวิธีของคุณกัน” ซึ่งนั่นเป็นกระบวนการตัดสินใจที่แย่ที่สุดในโลก ทำให้ทุกคนเสียกำลังใจ และเราก็จะได้ผลลัพธ์แบบสุ่มๆ
วิธีการที่ดีกว่าที่ Bezos ใช้คือ ให้ผู้ที่มีความอาวุโสกว่า นำเรื่องเสนอผู้นำที่ที่มีความอาวุโสที่สูงกว่าขึ้นไปอีก ทั้งนี้ การตัดสินใจที่เป็นที่ถกเถียงกันต่างๆ จะต้องได้รับการเสนออย่างรวดเร็ว จะปล่อยให้พนักงานระดับล่างสองคนเถียงกันเป็นปีๆและทำให้พวกเขาเหนื่อยล้าไม่ได้ เราต้องสอนพนักงานเด็กๆเหล่านั้น
Bezos กล่าวว่า เมื่อทีมเจอทางตัน ให้นำเรื่องแจ้งไปยังผู้ที่มีตำแหน่งอาวุโสกว่า อย่างรวดเร็ว และคุณในฐานะที่เป็นผู้ที่อาวุโสที่สุด ลองฟังหลายๆมุมมอง และให้บอกกับพวกเขาว่า “ไม่มีใครรู้คำตอบที่ถูกต้อง แต่อยากให้พวกเราลองเสี่ยงกับฉัน อยากให้พวกเรา ไม่เห็นด้วยและลองทำดู เราจะทำวิธีนี้กัน และอยากให้พวกเรา ไม่เห็นด้วยและลองทำดูจริงๆ”
แต่ในบางกรณี Bezos บอกว่า เขาเองก็ต้องเป็นคนตัดสินใจที่จะ ไม่เห็นด้วยและลองทำดู แม้ว่าเขาคือผู้ที่มีความอาวุโสที่สุดใน Amazon ก็ตาม
เขาเปิดเผยว่า เขาไม่เห็นด้วยและลองทำดู ตลอดเวลา เขาจะถกเถียงบางเรื่องเป็นชั่วโมง เป็นวัน หรือเป็นสัปดาห์ และก็จะบอกว่า “ผมไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้จริงๆ แต่คุณมีข้อมูลที่ชัดเจน สมเหตุสมผลมากกว่าที่ผมมี งั้นเราจะลองทำตามวิธีของคุณกัน และผมสัญญาว่า ผมจะไม่พูดว่า ผมบอกคุณแล้ว”
ดูเหมือนว่า Bezos ได้เผชิญกับการตัดสินใจหลายชั้นหลายขั้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เมื่อ Amazon จะต้องเร่งรีบให้ทันกับช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ที่มีการคาดว่ายอดขายออนไลน์จะเพิ่มขึ้น 33% มาทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 189 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
Amazon กำลังกระตุ้นให้เหล่านักช้อปมารับของที่ร้านค้า เนื่องจากว่าบริษัทขนส่งยักษ์ใหญ่อย่าง FedEx และ UPS ได้ออกมาเตือนเรื่องความล่าช้าในการขนส่งที่อาจจะเกิดขึ้นจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัส
โดยบริษัทได้เสนอการรับสินค้า ณ จุดส่งสินค้าใน 900 เมืองทั่วสหรัฐฯ ผ่านศูนย์ของ Amazon
ที่มาและภาพ: