6 ธ.ค. 2020 เวลา 13:45 • ปรัชญา
# Stephen Wiltshire ศิลปินที่แปลกประหลาด
เพียงการสังเกตสั้น ๆ ภาพทิวทัศน์ของเมืองทั้งหมดก็ถูกวาดเป็นผลงานชิ้นเอกที่มีรายละเอียดประณีต จากความทรงจำ อ่านเรื่องราวต่อไปนี้แล้ว อาจทำให้คุณได้เห็นภาพจำในอีกมุมมองหนึ่ง
จุดแรกเริ่มของศิลปิน
ลองจินตนาการถึงการบินไปตามเมืองใหญ่ที่น่าจดจำที่สุดในโลก ดูภาพพาโนราม่าด้านล่างที่ ตราตรึงใจจนเกิดภาพในความทรงจำ แล้วกลับมาที่สตูดิโอเพื่อสร้างภาพที่แตกต่างกันเล็กน้อยอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยในทุกรายละเอียดเกิดจากความทรงจำ และนี่คือพรสวรรค์โดยกำเนิดของศิลปินชาวอังกฤษ Stephen Wiltshire
สตีเฟน เกิดใน ลอนดอน เมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 1974 โดยพ่อและแม่ของเขาเป็นชาวอินเดียตะวันตก ตอนเด็ก เขาเป็นเด็กที่ไม่พูดเลย อีกทั้งยังไม่มีความสัมพันธ์ฉันมิตรกับคนอื่น จนหลายคนคิดว่าเขาเป็นใบ้
กระทั่งเขาอายุได้ 3 ขวบ พ่อและแม่ก็ได้ส่งเขาไปเข้ารับตรวจสอบร่างกาย และผลการวินิจฉัยก็ออกมาว่า “เขาเป็นออทิสติก เด็กที่ไม่มีภาษาและจะติดอยู่ในโลกของตัวเองเพียงอย่างเดียวเท่านั้น”
ความสามารถที่หลับใหล
กระทั่ง สตีเฟน อายุครบ 5 ขวบ พ่อและแม่ก็ได้ส่งเขาไปโรงเรียน ควีนส์มิลล์ ในลอนดอน ซึ่งหลังจากเข้าเรียนได้ไม่ได้ คุณครูก็สังเกตได้ว่า งานอดิเรกเดียวที่เขาชอบคือการวาดภาพ และยังเป็นวิธีการสื่อสารกับโลกของเขาอีกด้วย
โดยเขาเริ่มวาดภาพสัตว์ตัวแรกจากการนั่งรถเมล์ใน ลอนดอน จากนั้นก็เริ่มวาดภาพล้อเลียนของครู และวาดอาคารต่าง ๆ จากวิวทิวทัศน์บนรถประจำทางในเมืองที่เขาได้พบเห็น
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยปริปากพูดออกมาเลยสักครั้ง จนคุณครูที่โรงเรียน ได้ทดลองยึดชุดกระดาษดินสอของเขาไปเพื่อกระตุ้นให้เขาพูดออกมาบ้าง ซึ่งวิธีการนี้ก็ได้ผล
แรงกระตุ้น
สตีเฟน เริ่มพูดคำแรกออกมาว่า "กระดาษ" และเขาก็ได้เรียนรู้ที่จะพูดอย่างคนปกติได้ เมื่ออายุ9 ขวบ ซึ่งภาพวาดในช่วงต้นของเขาแสดงให้เห็นถึงสัตว์และรถยนต์ ซึ่งเขาก็ยังคงสนใจ รถยนต์อเมริกันอยู่เสมอ
จนกระทั่งเขาอายุได้ 7 ขวบ สตีเฟน ก็เริ่มหลงใหลในการร่างอาคารที่โดดเด่นของลอนดอน มากยิ่งขึ้น จนพี่สาวของเขา แอนเน็ต บอกเล่ามาว่า “ความหลงใหลนี้ของเขาครอบงำจิตใจมากเกินคนปกติไปแล้ว”
สตีเฟน เริ่มสร้างสรรค์ภาพต่าง ๆ ของเขาออกมาเรื่อย ๆ จนครูคนหนึ่งของ สตีเฟน ให้ความสนใจเขาเป็นพิเศษ และได้นำพาเข้าสู่การประกวดวาดภาพสำหรับเด็ก ซึ่งเขาก็กวาดรางวัลมาได้มากมาย
จากจินตนาการ
จึงเป็นเหตุให้สื่อมวลชนในพื้นที่ เริ่มสงสัยมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าเด็กอายุน้อยเท่านี้สามารถสร้างภาพวาดที่ดูเหมือนผู้เชี่ยวชาญวาดเช่นนี้ได้อย่างไร?
นักวิจัยได้ตั้งสมมติฐานไว้ว่า “การทำงานของระบบประสาทที่ไม่เหมือนใคร ระหว่างสมองทั้งสองซีก สามารถช่วยให้คนบางคนเข้าถึงแหล่งความคิดสร้างสรรค์ได้ดีมากกว่าที่คนปกติส่วนใหญ่จะมีได้”
ในไม่ช้าเขาก็ได้รับความสนใจจากสื่อไปทั่วประเทศ สตีเฟน วิลต์เชียร์ จึงเริ่มก้าวเข้าสู่อาชีพศิลปินด้วยวัยเพียง 7 ขวบและในปีเดียวกันนั้น เขาก็มีรายไ้ด้จากการขายผลงานชิ้นแรกด้วย
รายได้แรก
และเมื่ออายุได้ 8 ขวบ สตีเฟน ก็ได้รับมอบหมายงานชิ้นแรกจากนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ให้สร้างภาพวาดของวิหาร Salisbury
เมื่ออายุ 10 ขวบ เขาก็ได้สร้างภาพอาคารและสถานที่ ที่สำคัญของลอนดอนหลายชุดลงในงานของเขาที่มีชื่อว่า London Alphabet โดยเขาได้สร้างสถานที่สำคัญของลอนดอนขึ้นมาใหม่จากการเรียงตัวอักษรตั้งแต่ A –Z โดยเริ่มจาก Albert Hall ไปจนถึงสวนสัตว์ลอนดอน
จนเป็นเหตุให้ สตีเฟน ในวัย 13 ปี หนังสือภาพวาดเล่มแรกของเขาก็ถูกตีพิมพ์ และด้วยความสามารถที่โดดเด่น จึงทำให้สาธารณชน และสื่อมวลชนต่างทึ่งในทักษะและพรสวรรค์ของ สตีเฟน กันอย่างถ้วนทั่ว
เริ่มเป็นที่สนใจ
ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1987 สตีเฟน ได้ปรากฏตัวใน The Foolish Wise Ones (รายการนี้ยังนำเสนอผู้ที่มีความสามารถพิเศษทางดนตรีและคณิตศาสตร์ด้วย) ในช่วงที่เขาออกรายการ ฮิวจ์ แคสัน อดีตประธาน Royal Academy of Arts ของลอนดอน ยังบอกกับ สตีเฟน ว่า "เขาอาจเป็นศิลปินที่เด็กที่สุดในสหราชอาณาจักรเลยก็เป็นได้"
หลังจากนั้น สตีเฟน ก็ได้เข้าเรียนวิจิตรศิลป์ที่ City & Guilds of London Art School และเขายังได้ ทำหนังสือออกมาอีกหลายเล่มเช่น Drawings (1987), Cities (1989), Floating Cities (1991) (ซึ่งติดอันดับหนังสือขายดีที่ไม่ใช่นิยายของThe Times )
และ American Dream (1993) ของ สตีเฟน โดยภาพทั้งหมดที่นำมาวาดลงในหนังสือ เกิดจากการ นั่งมองจากบนเครื่องบิน ไม่ว่าจะเป็นชิคาโก ,ซานฟรานซิสโก ,ลอสแองเจลิส ,วอชิงตันดีซี และนิวยอร์กซิตี้ ที่เขาหลงรัก
After taking a short helicopter ride around Manhattan, Wiltshire sketched the Empire State Building and the Chrysler Building and was introduced to famed neurologist Oliver Sacks, drawing by Stephen Wiltshire
สตีเฟน ไม่เคยขาดกล่องดินสอกับกระดาษเลยสักครั้ง แม้บางครั้งต้องใช้เวลาหลายวันกว่า สตีเฟน จะสร้างสถาปัตยกรรมที่มีรายละเอียดทั้งหมดพร้อมกับรถที่ผ่านไปมาและรายละเอียดอื่น ๆ จากการจดจำเท่านั้น
ในอ่าววิคตอเรีย ของฮ่องกง เขายังได้สร้างภาพทิวทัศน์ด้านล่างขึ้นมาเป็นระยะ 30 ฟุตหลังจากนั่งเฮลิคอปเตอร์ผ่านเพียง 20 นาที
ภาพวาดโตเกียวของเขามีความกว้างประมาณ 33 ฟุตโดย สตีเฟน ใช้เวลาแปดวันจึงจะวาดเสร็จ ในทางกลับกันเขาได้ร่างอาคารเอ็มไพร์สเตทอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงแค่สองนาที
Pictures Stephen Wiltshire from https://throomers.com/stephen-wiltshire-portrait-of-a-remarkable-artist/
พรสวรรค์ของเขาไม่ได้อยู่ที่การสร้างเมืองที่มีรายละเอียดสูงเท่านั้น แต่ยังทำให้เมืองที่เขาวาด เต็มไปด้วยความรู้สึกและอารมณ์อีกด้วย
“ ความกล้าหาญที่มั่นใจได้และความสามารถในการถ่ายทอดมุมมองที่ซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย ทำให้เขาไม่เหมือนใคร ทักษะเหล่านี้เผยให้เห็นความสามารถในการสร้างสรรค์อันลึกลับของเขา
ในการจับความรู้สึกของสิ่งปลูกสร้างและสิ่งที่กำหนดลักษณะ ไปจนถึงเสียงของ นี่จึงเป็นอัจฉริยะที่ทำให้เขาแตกต่าง จนนำมาซึ่งอาชีพศิลปินให้กับเขา” นักวิจารณ์งานเขียนท่านหนึ่ง ได้กล่าวในหนังสือของ สตีเฟน
จากมุมมองผู้อื่น
ในปี 1992 สตีเฟน ได้ตอบรับคำเชิญของ บริษัท โทรทัศน์ในโตเกียว ที่ให้เขาได้เที่ยวญี่ปุ่นและวาดภาพโครงสร้างสถานที่สำคัญต่าง ๆ รวมถึงอาคารของรัฐบาลโตเกียวใน ชินจูกุ และย่านช้อปปิ้ง กินซ่า
หลังจากนั้นเขาก็เดินทางไป อเมริกาอีกครั้ง ซึ่งเป็นทริปที่ส่งผลให้หนังสือ American Dream (1993) โดยมีทิวทัศน์ของเมืองชิคาโก ,ซานฟรานซิสโก ,นิวยอร์ก รวมถึง ภูมิประเทศที่เป็นทะเลทรายของ แอริโซนา อยู่ด้วย
Pictures Stephen Wiltshire from https://throomers.com/stephen-wiltshire-portrait-of-a-remarkable-artist/
ในขณะเดียวกัน ผลงานศิลปะของ สตีเฟน ก็ถูกจัดแสดงอยู่บ่อยครั้งในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก อีกด้วย
ในปี 2001 วิลต์เชียร์ ปรากฏตัวในสารคดีของ BBC เรื่อง Fragments of Genius ซึ่งเขาถ่ายทำ ในขณะที่บินอยู่เหนือ ลอนดอน สตีเฟน จึงได้วาดภาพจากภาพความทรงจำที่เขาเห็นทางอากาศอย่างละเอียด และวาดขนาดของทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์แบบ
3
Pictures Stephen Wiltshire from https://throomers.com/stephen-wiltshire-portrait-of-a-remarkable-artist/
ในพื้นที่สี่ตารางไมล์ภายในสามชั่วโมง ภาพวาดของเขาประกอบด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ 12 แห่งและโครงสร้างอื่น ๆ อีก 200 แห่งที่จำลองตามแบบตัวอักษร
ในปี 2003 Orleans House Gallery ใน Twickenham ประเทศอังกฤษ เป็นเจ้าภาพจัดงานวันเกิดย้อนหลังวัย 20 ปีให้กับเขา
Stephen Wiltshire receives his MBE award at Buckingham Palace (Copyright: The Stephen Wiltshire Gallery www.stephenwiltshire.co.uk)
ในปี 2006 เขาได้รับรางวัล Member of the Most Excellent Order (MBE) โดยตรงจากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ สำหรับผลงานที่โดดเด่นในโลกศิลปะ
สตีเฟน กลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่มีชื่อเสียงที่สุดของสหราชอาณาจักร เขาบริหารแกลเลอรีในลอนดอนของตัวเอง และมีรายการต่าง ๆ จองตัวเขาไว้ล่วงหน้านานกว่า 4-8 เดือน
และหลังจากผ่านไป 15 ปี ในช่วงปลายปี 2019 แกลเลอรี ของเขาก็ได้ย้ายไปที่ Notting Hill ใน West London สตีเฟน ยังคงวาดภาพทุกวัน และได้ค้นพบเมืองใหม่ ๆ และวิธีการใหม่ ๆ เพื่อวาดภาพโลกรอบตัวของเราที่เขาได้พบเห็น
โดยมีคติประจำใจที่เขายังคงใช้เตือนตัวเองอยู่เสมอว่า “จงทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้และจงอย่าหยุดยั้งการกระทำนั้นเด็ดขาด”
1
อ่านบทความเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย 😄

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา